พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 214

สรุปบท บทที่ 214 ออกจากรังไหม: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

สรุปเนื้อหา บทที่ 214 ออกจากรังไหม – พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดย Internet

บท บทที่ 214 ออกจากรังไหม ของ พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 214 ออกจากรังไหม
บทที่ 214 ออกจากรังไหม

ในลานกลางเรือนของหลิงยู่ชาน ขณะนี้รังไหมสีเลือดที่ปกคลุมรอบตัวหลิงยู่ชานเริ่มมีหมอกสีแดงสดซึมออกมาและอุณหภูมิที่อยู่บริเวณรอบ ๆ รังไหมก็เริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ดังมาจากด้านในรังไหมเริ่มที่จะดังรัวขึ้นเรื่อย ๆ

หมิงจู้ ในขณะนี้นางเองก็ไม่กล้าที่จะอยู่ในบริเวณเรือนของหลิงยู่ชานอีกต่อไปเพราะเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้นางรู้สึกหายใจไม่ออกและไม่สามารถยืนตัวตรงได้

และที่ด้านนอกของเรือนตอนนี้ก็มีหลายคนที่กำลังเฝ้าดูอยู่ พวกเขาต่างเดาไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากรังไหมเปิดออก

“พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้นขณะที่เดินตรงเข้ามาที่ทางเข้าเรือนของหลิงยู่ชาน “ยู่ชาน เขาไม่สามารถออกมาจากรังไหมนั่นได้ในเร็ว ๆ นี้หรอก เขาจะออกมาได้ก็ต่อเมื่อเขาดูดซับและหลอมรวมเลือดที่ข้าได้ให้เขากินไปจนหมดแล้วเท่านั้น”

“ท่านพ่อ! สามี! ลุงหลิง!” ฝูงชนที่อยู่ด้านนอกเรือนของหลิงยู่ชานตอบรับ

“เอาล่ะ พวกเจ้าแยกย้ายกันไปทำสิ่งที่พวกเจ้าต้องทำกันเถอะ ส่วนยู่ชานหากเขาพร้อมเมื่อไหร่เดี๋ยวเขาก็ออกมาเอง” หลิงตู้ฉิงเดินเข้าไปและกดมือของเขาลงบนรังไหมสีเลือด หลังจากส่งพลังจิตเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ภายในชั่วขณะหนึ่งเขาพูดว่า “ยังมีเวลาอีก 3 วันก่อนที่เขาจะออกมาได้ และนอกจากนั้น นอกจากหมิงจู้ พวกเจ้าคนอื่นไม่ควรรอดูตอนที่เขาออกมาจากรังไหม เพราะพวกเจ้าจะได้เห็นเขาแก้ผ้าล่อนจ้อนแน่นอน!”

คนอื่น ๆ เมื่อได้ยินเช่นนี้พวกเขาก็ไม่ได้สนใจคำเตือนของหลิงตู้ฉิงสักเท่าไหร่

ถ้าเขาไม่ได้สวมเสื้อผ้าแล้วยังไงล่ะ?

หลังจากผ่านไป 3 วัน นอกจากหลิงตู้ฉิงและบรรดาเด็ก ๆ ผู้ชายแล้ว บรรดาเด็กสาวหรือแม้แต่หมิงจู้ก็ไม่ได้รอดูการออกมาจากรังไหมของหลิงยู่ชาน เนื่องจากพวกนางรู้สึกเขินอายเกินไป

แม้ว่านางจะหมั้นกับหลิงยู่ชานแล้วแต่ก็ยังเร็วเกินไปที่นางจะเห็นร่างอันเปลือยเปล่าของเขา

ในขณะนี้รังไหมสีเลือดได้ลอยขึ้นอยู่ในลานของหลิงยู่ชานสูงขึ้นจากพื้นราว 1 เมตร

“ท่านพ่อ พี่ใหญ่จะออกมาเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม?” หลิงยี่เทียนถามอย่างสงสัย “แล้วสายเลือดของพี่ใหญ่มันคืออะไรกันแน่? ทำไมมันถึงได้ดูแปลกแต่ในเวลาเดียวกันมันก็ดูทรงพลังมากขนาดนี้?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “พ่อบอกเจ้าไม่ได้หรอก รอไว้ในอนาคตเมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถปกป้องตัวเองได้เขาก็จะบอกพวกเจ้าทุกคนเอง”

หลิงยี่เทียนและหลิงว่านจุนส่ายหัวและถอนหายใจ “ท่านพ่อ แล้วเมื่อไหร่พวกข้าจะเริ่มบ่มเพาะกันได้สักที ตอนนี้พวกข้ารู้ว่าการต้องนั่งเล่นหมากรุกทุกวันมันเริ่มจะน่าเบื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างรวดเร็วว่า “พวกเจ้าแตกต่างจากคนอื่น การเล่นหมากรุกของพวกเจ้ามันคือการฝึกฝนทักษะอย่างหนึ่งของพวกเจ้า สำหรับพวกเจ้าการมีทักษะที่เหนือกว่าระดับการบ่มเพาะมันคือเรื่องดี พ่อรับประกันได้หากในอนาคตที่เมื่อไหร่พวกเจ้าบ่มเพาะได้แล้วระดับการบ่มเพาะของพวกเจ้าดันแซงทักษะของพวกเจ้า ถึงวันนั้นพวกเจ้าจะได้ร้องไห้ออกมาเป็นเลือดแน่นอน!”

หลิงยี่เทียนและหลิงว่านจุนมองหน้ากัน ทั้งสองยังคงส่ายหัวและถอนหายใจ

ไม่ว่าหลิงตู้ฉิงจะพูดอย่างไร พวกเขาก็ยังคงรู้สึกอยากที่จะบ่มเพาะได้เร็ว ๆ สักที เพราะในตอนนี้เมื่อพวกเขาเห็นพี่น้องทุกคนที่สามารถเริ่มบ่มเพาะกันได้หมด พวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวพวกเขาด้อยค่ากว่าหน่อย ๆ แล้ว

ส่วนทางด้านของหลิงเทียนหยุนนั้นเขาไม่ได้พูดอะไร เพราะเขาไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรเลยกับเหตุการณ์ที่เขาเห็นอยู่

เขาจ้องมองไปที่หลิงยู่ชานด้วยความสงสัยซะมากกว่า เขาสงสัยว่าถ้าหากรังไหมสีเลือดและหมอกเลือดที่แพร่กระจายออกมาจากมันไม่ได้ถูกพ่อของเขาสกัดกั้นไว้ มันคงจะกระจายไปมากกว่านี้

และเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจคงจะต้องทำให้คนทั้งคฤหาสน์ต้องทนไม่ได้แน่นอน นี่มันคือสายเลือดอะไรกันถึงได้มีความน่ากลัวได้ขนาดนี้?

ถ้าหากเหล่าศัตรูมาเจอกับความสามารถของสายเลือดพี่ชายเขาแบบนี้ คนพวกนั้นจะเอาอะไรมาสู้?

แรงหมัดของเขาบางครั้งก็เร็วและบางครั้งก็ช้าและหมอกสีเลือดที่กระจัดกระจายอยู่บริเวณรอบ ๆ กายของเขาก็เริ่มถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกายของเขา

หลิงตู้ฉิงพูดด้วยความพึงพอใจกับหลิงเทียนหยุนและคนอื่น ๆ ว่า “พวกเจ้าจงเอาพี่ใหญ่ของพวกเจ้าเป็นตัวอย่าง และพยายามอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด พี่ใหญ่ของพวกเจ้าได้ก้าวไปข้างหน้าในเส้นทางการบ่มเพาะของเขาอย่างเต็มตัวแล้ว ส่วนพวกเจ้าที่เหลือทุกคนจงอาศัยสายเลือดที่พิเศษของตัวเองพัฒนาและฝึกฝนให้มากขึ้น ที่พวกเจ้าเป็นอยู่ตอนนี้ยังไม่ได้แตะขอบของเส้นทางการบ่มเพาะเลยด้วยซ้ำ”

หลิงว่านถิงและคนอื่น ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิงเช่นนี้ จึงล้อมวงเข้ามาหาเขา ทุกคนต่างก็รู้สึกอิจฉาเท่านั้น

“หลังจากยู่ชานฝึกหมัดเสร็จแล้ว พ่อจะทำการบรรยายบทเรียนพิเศษให้กับพวกเจ้าด้วยตัวเองที่นี่ และเมื่อผ่านบทเรีนของพ่อไปแล้วพวกเจ้าทุกคนต้องขยันให้มากขึ้นในอนาคต” หลิงตู้ฉิงพูดต่อ

“ท่านพ่อแล้วพวกเรายังไม่ต้องไปศาลาศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ?” หลิงไช่หยุนถามอย่างสงสัย

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้”

ทุกคนดีใจมากที่ได้ทราบว่าหลิงตู้ฉิงกำลังจะขึ้นบรรยาย ทุกคนต่างเคยได้รับประโยชน์อย่างมากจากการบรรยายสองครั้งของหลิงตู้ฉิง และคราวนี้พวกเขาก็จะได้รับผลประโยชน์เช่นนั้นอีกครั้งแล้ว

“พี่ใหญ่ รีบฝึกหมัดให้เสร็จ ๆ เถอะ ท่านพ่อจะได้เริ่มสอนพวกเราได้สักที!” หลิงว่านถิงกระตุ้น ในช่วงที่ผ่านมานางถูกซือโถวเหวินหยวนเอาชนะจนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว แต่แน่นอนว่าผลประโยชน์ที่นางได้เรียนรู้มาก็มากเช่นกัน นางต้องการผสมผสานประสบการณ์การต่อสู้ที่นางได้รับมาเข้ากับบทเรียนของหลิงตู้ฉิงเพื่อให้มีความเข้าใจในเส้นทางบ่มเพาะของตัวเองมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลิงยู่ชานยังคงฝึกออกหมัดออกไปโดยไม่สนใจเสียงรอบข้าง เขายังคงออกหมัดต่อยไปยังอากาศตรงหน้า หมัดของเขาที่ออกมานั้นมีทั้งหมัดเร็วและช้าสลับกันไปมา และใขณะเดียวกันมันก็ได้ดึงหมอกสีเลือดที่ลอยอยู่ทั้งหมดกลับคืนเข้ามาในร่างกายของเขา

เมื่อหมอกสีเลือดได้ถูกดูดซึมหมดไปแล้ว หลิงยู่ชานจึงหยุดออกหมัด จากนั้นเขายิ้มและพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “ขอบคุณท่านพ่อ! ข้าขอบคุณท่านแม่ รวมถึงน้อง ๆ และพี่สาวหมิงจู้ที่คอยเป็นห่วงข้าด้วย”

“พี่ใหญ่ อย่ามัวแต่พูดอะไรให้ยืดยาวอีกเลย ไปกันเถอะรีบไปเตรียมตัวฟังชั้นเรียนของท่านพ่อก่อนเถอะ!” หลิงว่านถิงคร่ำครวญ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)