บทที่ 216 วิชาปีศาจศักดิ์สิทธิ์กลืนกิน
วันถัดมา เมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตก็ได้ถูกส่งมาโดยโม่จู่
“ท่านหลิง ท่านรู้รายละเอียดของเมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตแล้วใช่ไหมว่ามันคืออะไร?” โม่จู่ถามอย่างจริงจัง
“แน่นอน ไม่งั้นข้าจะขอให้เจ้าส่งมาทำไม” หลิงตู้ฉิงตอบ
โม่จู่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ในเมื่อท่านหลิงเข้าใจแล้วข้าก็จะไม่พูดอะไรอีก แม้ว่ามันจะเป็นเพียงเมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดารา แต่ถ้ามันจะเบ่งบานในที่แห่งนี้ข้ากลัวว่ามันจะมีไม่กี่คนหรอกที่จะอยู่ได้”
โม่จู่กลับไปในทันทีที่เขาพูดจบ ซึ่งเป็นการเตือนสติเล็ก ๆ ของเขา
หลิงตู้ฉิงซึ่งได้รับเมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตเดินไปข้างหน้าโจวจื่อซินและส่งมอบให้นาง “นับแต่ต่อไปนี้นี่คืออาวุธของเจ้า!”
โจวจื่อซินหยิบเมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตตรงหน้านางแล้วถามอย่างสงสัยว่า “นี่มันคืออะไรกัน?”
“เมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตนี้ปกติจะเบ่งบานแต่ในเฉพาะอาณาเขตของปีศาจเท่านั้น พฤกษาปีศาจชนิดนี้การเลี้ยงมันนั้นง่ายมากยิ่งให้เลือดมันกินมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามด้วยสายเลือดพฤกษาสวรรค์ของเจ้า เจ้าจะสามารถควบคุมมันได้โดยการสื่อสารกับมันด้วยจิตสำนึกของเจ้าและถึงแม้ว่าในตอนนี้มันจะอยู่ในขอบเขตรวมแสงดารา ตราบใดที่เจ้าหล่อเลี้ยงมันด้วยพลังวิญญาณของเจ้ากับมัน มันจะสามารถพัฒนาระดับขึ้นได้” หลิงตู้ฉิงอธิบาย
“ขอบคุณ นายท่าน!” โจวจื่อซินรีบขอบคุณเขา
จากนั้นนางก็หยิบเมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตวางไว้บนหน้าอกของตัวเอง ปล่อยให้เมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจนาง ในเวลาเดียวกันนางสื่อสารกับจิตสำนึกที่แทบจะสัมผัสไม่ได้ของเมล็ดดอกบัวเพื่อเป็นการผูกสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง
เมื่อเห็นว่าโจวจื่อซินเข้าใจแล้ว หลิงตู้ฉิงก็พยักหน้าและพูดว่า “อย่าลืมใช้พลังวิญญาณของเจ้าหล่อเลี้ยงมันเป็นครั้งคราวเพื่อให้มันเติบโตขึ้น แต่อย่าปล่อยให้ระดับการบ่มเพาะของมันสูงกว่าเจ้าจนเกินไป และสิ่งมีชีวิตนี้ดุร้ายมาก เจ้าต้องคอยระวังและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ขณะนี้เมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตอยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 2 แต่เจ้ายังไปไม่ถึงขอบเขตรวมแสงดารา ดังนั้นเจ้าต้องระวังอย่าให้มันเห็นเลือดของเจ้าได้”
“เข้าใจแล้วนายท่าน!” โจวจื่อซินพยักหน้า เมื่อเห็นว่าโจวจื่อซินเข้าใจหลิงตู้ฉิงก็ไม่สนใจนางอีกและใช้ชีวิตตามปกติต่อไป
เขาไปที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์ทุกวันและดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ทุกวันเมื่อเขาไปถึง เขาจะดูเจ้าอ้วนเกาหยูที่นอนอยู่บนพื้น
ในขณะที่เขาสังเกตเกาหยูทุกวัน เขาก็เห็นว่าว่าเกาหยูผู้ตะกละในขณะนี้กำลังพยายามอดกลั้นอย่างเอาจริงเอาจังและไม่แตะอาหารใด ๆ เลย
ในพริบตาข้อตกลง 2 เดือนก็สิ้นสุดลงและเกาหยูที่เคยรูปร่างอ้วนตุ้ต้ะก็กลายเป็นรูปร่างผอมจนคนอื่นแทบจำไม่ได้
“ 2 เดือนแล้ว!” หลิงตู้ฉิงพูดขณะยืนอยู่ตรงหน้าเกาหยู
เกาหยูที่พยายามยกเปลือกตาที่อ่อนแรงขึ้นและพูดว่า “ในที่สุดก็ครบกำหนดเวลา 2 เดือนแล้วงั้นเหรอ?”
“บอกข้าว่าเจ้ารู้สึกอย่างไรใน 2 เดือนที่ผ่านมา” หลิงตู้ฉิงมองไปที่เกาหยู
“ข้ารู้สึกหิวมาก!” เกาหยูพูดอย่างอ่อนแรง “แต่เมื่อข้าคิดถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับอาจารย์ ข้าก็ไม่ได้กินอะไรเลยจนถึงตอนนี้”
“ไม่ลุกไม่ขยับบ้างเหรอ?” หลิงตู้ฉิงยังคงถามต่อไป “ข้าเห็นว่าร่างกายของเจ้าเต็มไปด้วยฝุ่น นี่เจ้าเอาแต่นอนอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับเขยื้อนเนื้อตัวหรือทำอะไรเลยงั้นเหรอ? แม้แต่ฝึกบ่มเพาะเจ้าก็ไม่ทำงั้นสินะ?”
“ก็ข้าขี้เกียจ” เกาหยูหัวเราะ “และก็เพราะว่าข้าต้องอดอาหาร ฉะนั้นการลุกขึ้นและการออกกำลังฝึกฝนบ่มเพาะมันจะทำให้ข้าต้องเสียพลังงานเป็นอย่างมาก ดังนั้นมันจึงเป็นการดีกว่าที่จะไม่ขยับตัว”
หลิงตู้ฉิงเลิกคิ้วและพูดว่า “ดูเหมือนว่าจุดเด่นของเจ้านอกจากจะเป็นการ ‘กิน’ แล้ว เจ้ายังจะมีจุดเด่นในการ ‘ขี้เกียจ’ อีกด้วยสินะ เช่นนั้นข้าจะสอนวิชา ‘ปีศาจศักดิ์สิทธิ์กลืนกิน’ ให้ หลังจากที่เจ้าเรียนรู้แล้วเจ้าต้องจำไว้ว่าห้ามใช้มันกับคนของตัวเองเป็นอันขาด หากเจ้าฝ่าฝืนคำพูดนี้ของข้าและถ้าเจ้ากล้าใช้มันแม้แต่ครั้งเดียวกับคนของเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้าทันที”
“ข้าจะไม่ใช้มันกับคนของข้าแน่นอน” เกาหยูรีบพูด
หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงจึงเริ่มถ่ายทอดวิชาปีศาจศักดิ์สิทธิ์กลืนกินให้เกาหยูทันที
และเมื่อจบกระบวนการถ่ายทอดเสร็จ เกาหยูก็คุกเข่าลงต่อหน้าหลิงตู้ฉิงและพูดด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งว่า “ขอบคุณอาจารย์หลิง เคล็ดวิชานี้เหมาะกับข้ามาก”
หลิงตู้ฉิงถามเบา ๆ ว่า “เอาล่ะตอนนี้เจ้ารู้วิธีการฝึกฝนวิชาปีศาจศักดิ์สิทธิ์กลืนกินแล้ว ว่าแต่ตระกูลของเจ้าร่ำรวยรึเปล่า?”
เกาหยูเมื่อได้ยินคำถามนี้สีหน้าของเขาดูหดหู่ลงทันที จากนั้นเขามองไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ตระกูลของข้าเป็นแค่ตระกูลขุนนางเล็ก ๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ พวกเราไม่มีเงินมากนัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)