บทที่ 218 การเคลื่อนพลของสามกองกำลังที่น่ากลัว
ครึ่งเดือนถัดมา อู่หยุนจี๋ได้นำกองกำลังที่แบ่งมาจากกองทัพศักดิ์สิทธิ์จำนวน 3,000 นายและขันทีอีก 12 คน พร้อมกับจางหมิงมุ่งหน้าไปยังอาณาเขตทะเลชางหมาง
นี่คือกองกำลังที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก
หากไม่นับอู่หยุนจี๋และกองทัพศักดิ์สิทธิ์จำนวน 3,000 นาย ที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ เหล่าขันทีที่มาด้วยก็ล้วนมีความแข็งแกร่งที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าสักเท่าไหร่นัก ระดับการบ่มเพาะที่ต่ำที่สุดของบรรดาขันทีนั้นอยู่ที่ ขอบเขตนภาระดับ 10 ส่วนขันทีที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ขอบเขตครึ่งสวรรค์
โชคยังดีที่อาณาเขตทะเลชางหมางนั้นมีผนึกที่ไว้คอยปิดกั้นไม่ให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ได้เยื้องกลายเข้าไป ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงจะส่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ติดมาด้วยแน่นอน
เมื่อเห็นกองกำลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ จางหมิงจึงรู้สึกลำพองใจเป็นอย่างมาก
ด้วยกองกำลังเช่นนี้ เขามั่นใจว่าอาณาเขตชางหมางทั้งหมดจะต้องไม่รอดเงื้อมมือออกไปแน่นอน
และด้วยฐานะที่เขาเป็นผู้ติดตามของเหลียงซาน หากเหลียงซานสามารถครอบครองอาณาเขตทะเลชางหมางได้ เขาเองก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วยเช่นกัน
ต่อให้แม้ว่าเหลียงซานจะยอมก้มหัวให้กับอาณาจักรอ้าวเทียนและต้องจ่ายส่วนแบ่งผลประโยชน์ออกไปบ้าง แต่อย่างน้อย ๆ ความฝันของตัวเขาเองที่จะได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม หากเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ
แต่เมื่อจางหมิงนึกย้อนไปถึงหลิงตู้ฉิง ผู้เป็นก้างขวางคอในตอนนี้ เขาก็บังเกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของทางฝั่งเขาในตอนนี้จะไม่ใช่น้อย ๆ แบบก่อนหน้านี้แล้ว แต่ด้วยตัวตนที่ยังคงน่าสงสัยของหลิงตู้ฉิงและผู้สนับสนุนเขาที่มาจากสำนักเก้าเทพอสูร เขาก็ยังคงไม่สบายใจอยู่ดี
เมื่อคิดได้เช่นนี้ จางหมิงจึงหันไปหาอู่หยุนจี๋และพูดว่า “แม่ทัพอู่ ข้าคงต้องขอรบกวนให้ท่านนำทัพนี้ไปที่อาณาเขตทะเลชางหมางด้วยตนเองก่อน ข้ามีความจำเป็นต้องกลับไปเยือนที่ยอดเขาหยกจักรพรรดิเพื่อยืมของบางสิ่งมาจากที่นั่น แต่ถ้าหากว่าท่านไปถึงที่อาณาเขตทะเลชางหมางเมื่อไหร่ ท่านอย่าพึ่งลงมือทำอะไรทั้งนั้น ท่านควรรอให้คนของสันเขาหมื่นอสูรและคนจากหมู่บ้านราตรีทมิฬมาถึงที่อาณาเขตทะเลชางหมางก่อน และจากนั้นท่านจงติดต่อพวกเขาเพื่อขอการสนับสนุน”
สำนักยอดเขาหยกจักรพรรดินั้นไม่ใช่สำนักที่มีแต่เหล่าจักรพรรดิทั้งหลายมารวมตัวกันเพียงอย่างเดียว ในความเป็นจริงผู้ที่บ่มเพาะดวงใจจักรพรรดินั้นถือว่าเป็นชนกลุ่มน้อยในสำนัก และคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในสำนักก็ล้วนแต่เป็นคนที่คล้ายจางหมิง ซึ่งเส้นทางการบ่มเพาะของพวกเขาก็คือบทบาทในการสนับสนุน
อู่หยุนจี๋ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ท่านแน่ใจเหรอว่าคนของสันเขาหมื่นอสูรและคนจากหมู่บ้านราตรีทมิฬจะมาจริง ๆ?”
จางหมิงหัวเราะ “พวกเขาจะต้องมาแน่นอน เพราะว่าในตอนนี้หนึ่งในคนที่เราจะต้องไปกำจัดทิ้งเขาได้กินหนึ่งในคนของสันเขาหมื่นอสูร ส่วนคนจากหมู่บ้านราตรีทมิฬเองก็จะต้องมาที่นี่แน่นอน เนื่องจากผู้ติดตามของคนผู้นั้นมันคือศัตรูเก่าของพวกเขาเช่นกัน”
อู่หยุนจี๋พูดด้วยน้ำเสียงตื่นตะลึง “หะ! คนบ้าที่ไหนกันที่มันกล้ากินคนของสันเขาหมื่นอสูร? ทำไมมันถึงได้กล้าขนาดนั้น?”
“ในอาณาเขตทะเลชางหมาง มันมีพวกนอกคอกอยู่เยอะมากน่ะท่านแม่ทัพอู่” จางหมิงกล่าวพลางหัวเราะ
เมื่อคุยกันจบ จางหมิงก็รีบแยกตัวออกไปทันที ปล่อยให้อู่หยุนจี๋และกองกลังต้องเดินทางไปที่อาณาเขตทะเลชางหมางด้วยตนเอง
อู่หยุนจี๋ที่เห็นจางหมิงจากไป เขาก็ได้แต่ส่ายหัวและนึกสงสารที่เหลียงซานได้เลือกอาณาเขตทะเลชางหมางให้กลายเป็นอาณาจักรของเขา
แต่เมื่อคิดไปได้สักพักเขาก็สลัดความคิดไร้สาระเหล่านี้ออกไป เนื่องจากปัญหาหยุมหยิมเหล่านี้ของเหลียงซานนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา หน้าที่ของเขาตอนนี้นั้นมีเพียงนำทัพนี้ไปพิชิตดินแดนทั้งหมดของอาณาเขตทะเลชางหมางก็แค่นั้น
จากนั้นเขาหันไปมองเหล่าขันทีทั้ง 12 คนที่ถูกส่งมากับเขา อู่หยุนจี๋ก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาอีกเช่นกัน เขาเดาไม่ออกเลยว่าเหลียงซานได้ตกลงอะไรไว้กับองค์เหนือหัวของเขา ซึ่งส่งผลให้ขันทีคนสนิททั้ง 12 นี้ยังต้องติดตามมาด้วย
ในขณะเดียวกัน ทางด้านสันเขาหมื่นอสูร
ทางด้านสันเขาหมื่นอสูร เมื่อได้รับข่าวว่ามีใครบางคนที่กล้ากินคนของพวกเขา พวกเขาต่างตะโกนกู่ร้องด้วยความเคียดแค้นกันเป็นอย่างมาก “นี่มันเป็นการหยามหน้ากันชัด ๆ พวกเราต้องไปถอนรากถอนโคนตระกูลของคนผู้นั้นให้ครบเก้าชั่วโคตร!”
ในมุมมองของพวกเขา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ร้ายแรงกับการคงอยู่ของพวกเขาเป็นอย่างมาก หากพวกเขาปล่อยเรื่องนี้ไปและไม่จัดการทำอะไรสักอย่างให้คนอื่น ๆ เห็น มันจะต้องมีผู้ลอกเลียนแบบการกระทำนี้ขึ้นมาตาม ๆ กันแน่นอน และมันอาจทำให้พวกเขาต้องถูกล่าเป็นอาหารและตายกันหมด
“ส่งคนของเราออกไปฆ่ามัน หั่นมันออกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น ดึงวิญญาณมันออกจากร่างและขังวิญญาณมันไว้กับอสูรวายุล่าวิญญาณ เราต้องทำให้มันเสียใจที่ได้เกิดมาบนโลกนี้!” ใครบางคนได้ตะโกนขึ้น
“แต่อาณาเขตทะเลชางหมางมันมีผนึกที่ทำให้ใครก็ตามที่อยู่ในขอบเขตสวรรค์หรือเหนือกว่าเข้าไปไม่ได้ แล้วพวกเราจะทำยังไงดี?” บางคนของพวกเขาได้ส่ายหัวและพูดขึ้นด้วยความกังวล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)