ในขณะนี้เหลียงซานก็รออยู่เช่นกัน
จางหมิงที่ยังไม่กลับมาพร้อมกับสมบัติวิเศษที่สำคัญมากกับแผนการของเขา เขาต้องรอจนกว่าจางหมิงจะมาถึง
นอกจากนั้นยังไม่มีใครจากสันเขาหมื่นอสูรและไม่มีใครจากหมู่บ้านราตรีทมิฬมาถึงเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อจือหมิงฮ่าวเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการบุกคฤหาสน์สราญรมย์ เหลียงซานจึงได้ให้คำตอบไปกับเขาแค่ยังคงให้รอต่อไป
จือหมิงฮ่าวจากไปพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน
ในอีกด้านหนึ่ง อู่หยุนจี๋และคนจากกองทัพศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกับกลุ่มของขันทีที่ถูกส่งมาโดยเจ้านายเดียวกันของพวกเขา
เนื่องจากคำสั่งของพวกเขาที่ได้รับมานั้นแตกต่างกัน
อู่หยุนจี๋นั้นได้รับคำสั่งให้มาที่ทะเลชางหมางเพื่อช่วยเหลียงซานรวมดินแดนในทะเลชางหมาง แต่สำหรับบรรดาขันทีอีก 12 คนนั้นพวกเขาได้รับคำสั่งให้มารับตัวเหลียงเฟ่ยเอ๋อไปกับพวกเขา
ซึ่งตอนนี้เวลามันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว และเรื่องการรับตัวเหลียงเฟ่ยเอ๋อก็ยังไม่คืบหน้าเลยแม้แต่น้อย สิ่งนี้จึงทำให้พวกเขาทุกคนต่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการมาในสถานที่ที่น่าสังเวชเช่นนี้จะเสียเวลามากกว่าที่คิด
อย่างไรก็ตาม หากเหลียงซานไม่สั่งการกองทัพศักดิ์สิทธิ์ให้บุกถล่มคฤหาสน์สราญรมย์ พวกเขาย่อมไม่กล้าไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ด้วยตัวเอง
ตอนนี้อาณาจักรจันทราดูสงบนิ่งเหมือนผิวน้ำ แต่ใต้น้ำกำลังพล่านไปด้วยคลื่น
เมื่อไม่นานมานี้แม่ทัพใหญ่หลิงเจิ้งสงผู้นำทัพครึ่งหนึ่งของอาณาจักรเป็นเวลาหลายสิบปีก็ขอสละตำแหน่งของตัวเองด้วยเหตุผลในเรื่องความชราและเลือกที่จะเกษียนตัวเองอยู่ในแต่ในคฤหาสน์ของเขา และสิ่งที่แปลกอีกอย่างก็คือเหลียงซานยอมอนุญาตตามคำขอโดยไม่เอ่ยถามใด ๆ ซึ่งเรื่องนี้ตามปกติแล้วมันดูเป็นไปไม่ได้ที่เหลียงซานจะไม่ขอให้หลิงเจิ้งสงแม่ทัพอาวุโสที่ทำงานอย่าซื่อสัตย์มานานให้อยู่ต่อ
ไม่ว่าจะอย่างไร หลิงเจิ้งสงนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุที่มากขึ้นก็จริง แต่ด้วยความแข็งแกร่งของระดับการบ่มเพาะของเขา มันก็ไม่ควรถึงขนาดที่จะทำให้แม่ทัพชราผู้นี้หมดเขี้ยวเล็บไปง่าย ๆ แบบนี้
คนส่วนใหญ่ที่เห็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น บางคนก็คิดไปว่าการขอออกจากราชการของหลิงเจิ้งสง คงหมายถึงตระกูลหลิงได้สูญเสียอำนาจไปแล้ว
“ท่านพ่อ ท่านกำลังพยายามทำอะไรอยู่?” หลิงเล่อชานพูดกับหลิงเจิ้งสง “เห็นได้ชัดว่าพวกเราเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในอาณาจักรจันทรา และการที่องค์จักรพรรดิใช้กองกำลังจากภายนอกมาแก้ปัญหา นั่นก็หมายความว่าเขาย่อมจะให้ความสำคัญกับท่านและไม่ต้องการให้ท่านต้องลำบากใจและยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากจบเรื่องทั้งอำนาจและศักดิ์ศรีของตระกูลหลิง ตระกูลของเราควรจะเติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็งและแข็งแกร่ง แต่ถ้าหากท่านขอลาออกตอนนี้ก็ชัดเจนว่าท่านต้องการต่อต้านองค์จักรพรรดิ ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าการช่วยเหลือหลานชายของท่านมันสำคัญมากนักจนท่านยอมแลกทุกอย่างเลยงั้นเหรอ?”
หลิงเจิ้งสงตอบว่า “มีหลายสิ่งที่เจ้าไม่เข้าใจและข้าขี้เกียจที่จะบอกเจ้า ข้าเคยขอให้เจ้าลาออกมานานแล้ว แต่เจ้าก็ไม่ได้ฟังข้า มันจะมีสักวันที่พวกเจ้าจะต้องเสียใจที่ไม่ฟังข้า”
หลิงเล่อชานพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ท่านพ่อ ดูเหมือนว่าท่านจะตัดสินใจแล้วสินะว่าท่านต้องการที่จะติดตามหลานชายของท่านเพื่อก่อกบฏ? แต่ท่านต้องอย่าลืมว่าตอนนี้องค์จักรพรรดิได้เรียกกำลังสนับสนุนมามากมาย หลานชายของท่านคงไม่มีโอกาสที่จะทำสิ่งที่เขาหวังได้สำเร็จหรอก ข้ากำลังคิดว่าข้าควรใช้โอกาสนี้ออกห่างจากหลานชายของท่านให้ได้มากที่สุด ไม่งั้นเมื่อถึงเวลาที่ทุกอย่างมันจบลง ข้าจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนตามไปด้วย”
หลิงเจิ้งสงเยาะเย้ย “ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะทำอะไร เจ้าไม่จำเป็นต้องฟังข้า เพราะแม้ว่าข้าจะให้พวกเจ้าอยู่ที่คฤหาสน์พวกเจ้าก็คงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ อยู่ดี แต่ข้าจะบอกเจ้าสองอย่าง อย่างแรกข้าเป็นคนเดียวที่สามารถเคลื่อนย้ายองครักษ์ส่วนตัวของตระกูลทั้งหมดได้ อย่างที่สองห้ามมิให้ผู้ใดแตะต้องรูปแบบค่ายกลที่วางไว้รอบคฤหาสน์ไม่เช่นนั้น…หึหึ!”
จริง ๆ แล้วหลิงเจิ้งสงเองก็พอจะเข้าใจที่ลูกชายของเขาบ่นออกมาแบบนี้เพราะเขารู้ว่าก่อนหน้านี้ลูกชายของเขามีเรื่องเดือดร้อนเพราะหลิงตู้ฉิงมามากมาย และถ้าเขาบอกหลิงเล่อชานเกี่ยวกับแผนการ แผนทุกอย่างอาจถูกเปิดเปยโดยบังเอิญจากลูกชายของเขา
เขาทำได้เพียงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะจำกัดการเคลื่อนไหวของลูกชายเขาให้ได้มากที่สุด เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ทำอะไรที่ผลเสียต่อแผนการของหลิงตู้ฉิงในอนาคต
จากข้อมูลที่เขารวบรวมมา หากเขาเดินหมากผิด ในอนาคตจะไม่มีโอกาสให้แก้ตัว สองพ่อลูกที่กำลังคุยกัน จู่ ๆ เสียงหวีดยาวที่ดังและชัดเจนก็ดังไปทั่วท้องฟ้า จากนั้นแรงกดดันที่ท่วมท้นก็หล่นลงทับลงมาบนหัวของทุกคน
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองร่างบนท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ ไม่มีใครรู้ว่าผู้เชี่ยวชาญปริศนาที่พึ่งมาถึงผู้นี้คือใคร
ในขณะนี้ร่างสีแดงเพลิงตะโกนขึ้น “หลิงตู้ฉิงออกมาเดี๋ยวนี้!”
ทุกคนเมื่อได้ยินเช่นนี้ต่างสะดุ้ง เกิดอะไรขึ้น? เป็นไปได้ไหมที่การต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น?
ภายในคฤหาสน์สราญรมย์หลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ ก็ได้ยินเสียงนี้เช่นกัน
“นายท่าน เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตนภาระดับ 10” ซือโถวเหวินหยวน เสี่ยวเยว่เฟิงและคนอื่น ๆ พูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)