ในพริบตา เวลา 1 ปีได้ผ่านไปอีกครั้ง
ขณะนี้สีหน้าของขันทีทั้ง 12 ของอาณาจักรอ้าวเทียนเริ่มน่าเกลียดขึ้นมากเรื่อย ๆ
พวกเขาที่อยู่ในอาณาเขตทะเลชางหมางมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถพาเหลียงเฟ่ยเอ๋อกลับไปได้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปพวกเขาอาจจะถูกลงอาญาจากเจ้านายของพวกเขาได้
ในเวลาเดียวกับที่พวกเขากำลังจะตัดสินใจไม่เชื่อคำแนะนำของเหลียงซานและบุกไปยังคฤหาสน์สราญรมย์ เหลียงซานได้ส่งคนให้มาบอกให้พวกเขาเข้าพบ “ทุกท่าน ฝ่าบาทได้มีรับสั่งให้พวกท่านเข้าพบ”
บรรดาขันทีได้พ่นลมหายใจอย่างไม่พอใจ พวกเขาลุกขึ้นและเดินไปยังท้องพระโรงทันที
พวกเขาต้องการที่จะรู้ว่าเหลียงซานต้องการที่จะทำอะไรต่อ และถ้าหากเหลียงซานยังมีความคิดที่ยังไม่ต้องการจะเคลื่อนไหวเช่นเดิม พวกเขาก็คงจะไม่สนใจอีกแล้วและจะเริ่มบุกคฤหาสน์สราญรมย์ทันที
พวกเขาไม่เชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้ง 12 คนที่ร่วมมือกันจะไม่สามารถถล่มคฤหาสน์สราญรมย์ให้ราบเป็นหน้ากลองได้
และเมื่อจบงาน พวกเขาจะปล่อยเหลียงซานทำหน้าที่เก็บกวาดงานที่เหลือด้วยตัวของเขาเอง
เมื่อเข้ามาถึงด้านในท้องพระโรง ไม่ใช่แค่อู่หยุนจี๋ที่ยืนรออยู่ แต่จางหมิงในเวลานี้ก็อยู่ที่ด้านในท้องพระโรงด้วยเช่นกัน
“เมื่อไหร่จะเริ่มลงมือ?” หัวหน้าขันทีถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ
จางหมิงหัวเราะ “ขันทีหลี่ ท่านใจเย็นก่อน โปรดท่านฟังข้อมูลที่ข้ากำลังแจ้งท่านต่อไปนี้ให้จบ ข้าคิดว่าท่านจะต้องสนใจมันเป็นอย่างมากแน่”
ขันทีหลี่จ้องไปยังจางหมิงด้วยแววตาเย็นชาโดยไม่พูดอะไร
เหลียงซาน มองไปทางจางหมิงและพูดว่า “จางหมิง แจ้งข้อมูลของเจ้าให้พวกเราทราบเร็วเข้า ข้าเบื่อกับเรื่องบ้าๆนี้เต็มทนแล้ว ข้าอยากให้มันจบไวๆสักที”
จางหมิงโค้งคำนับและพูดว่า “ฝ่าบาท เมื่อตอนที่ข้าได้กลับไปถึงสำนักยอดเขาหยกจักรพรรดิของเราแล้ว หลังจากใช้ความพยายามอย่างหนักในที่สุดข้าก็สามารถโน้มน้าวตระกูลเฉินให้ส่งคนมาสนับสนุนเราได้ และไม่เพียงแค่นั้น พวกเขายังนำสมบัติประจำตระกูลของพวกเขามาด้วย ซึ่งก็คือเหรียญตราผนึกสวรรค์ ด้วยสมบัติชิ้นนี้เราจะสามารถผนึกพลังแห่งกฎระหว่างสวรรค์และโลกได้ ซึ่งนับได้ว่าสมบัติชิ้นนี้คือยาขมที่รุนแรงสำหรับเหล่าผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์เลยทีเดียวฝ่าบาท”
“เมื่อหลิงตู้ฉิงต้องเผชิญกับสมบัติชิ้นนี้ เขาจะไม่สามารถใช้ความสามารถของเขาได้และสิ่งที่เขาพึ่งได้จะมีเพียงพลังจากระดับการบ่มเพาะของเขา ซึ่งสำหรับพวกเราแล้วมันไม่น่ากลัวเลยแม้แต่น้อย”
“และอีกอย่าง ทางสันเขาหมื่นอสูรเองก็ได้ส่งอสูรโลหิตของพวกเขามาแล้ว 12 ตน จากการคำนวณ พวกเขาน่าจะมาถึงที่นี่ภายในครึ่งเดือน แต่ว่าพวกเราก็ต้องมีแผนรับมือกับบรรดาอสูรโลหิตพวกนี้ด้วย ไม่เช่นนั้นพวกมันอาจจะทำการสังหารหมู่ชาวบ้านที่บริสุทธิ์ภายในเมืองได้ ซึ่งในเรื่องนี้ข้าแนะนำให้ท่านแม่ทัพอู่ควรเป็นผู้ออกไปต้อนรับเหล่าอสูรโลหิตพวกนี้ พวกมันจะได้ไม่สร้างความเสียหายให้กับอาณาจักรของเรา”
“และในเวลาเดียวกับที่พวกอสูรโลหิตมาถึง คนของจากหมู่บ้านราตรีทมิฬก็น่าจะมาถึงด้วยเช่นกัน ซึ่งกลุ่มนี้ที่มาทีหลังข้าแนะนำว่าฝ่าบาทต้องเป็นผู้ต้อนรับพวกเขาเอง ขันทีหลี่ ข้าคิดว่าด้วยข้อมูลทั้งหมดนี้ที่ท่านได้ยิน ท่านคงจะสามารถรอเวลาได้อีกสักครึ่งเดือนจริงไหม?”
ขันทีหลี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ได้ ข้าจะรออีกครึ่งเดือน แต่ถ้าหลังจากครึ่งเดือนแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้าอีกข้าจะบุกไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ด้วยตัวเองทันที”
หลังจากพูดจบเขาหันหลังเดินออกไปจากท้องพระโรงทันที
ต่อให้จะเป็นที่อาณาจักรอ้าวเทียน ตำแหน่งที่เขาดำรงอยู่ก็ถือว่าสูงมาก และด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาที่อยู่ในขอบเขตครึ่งสวรรค์ หากเมื่อไหร่ที่เขาหมดความอดทน เขาก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องไว้หน้าเหลียงซาน
เหลียงซานยิ้มและหันไปหาอู่หยุนจี๋ “ท่านแม่ทัพอู่ ในเรื่องของอสูรโลหิต ข้าคงต้องขอรบกวนท่านด้วยแล้ว”
อู่หยุนจี๋พยักหน้า “ไม่มีปัญหาฝ่าบาท พรุ่งนี้ข้าจะนำกองกำลังไปรับพวกเขาเองที่ชายแดนของอาณาจักร”
หลังจากอู่หยุนจี๋จากไป จางหมิงได้หันมาหาเหลียงซานและพูดว่า “ฝ่าบาท ครั้งนี้ตระกูลเฉินได้ส่งทายาทสายหลักของพวกเขา เฉินถิงฟาง มาด้วย ข้าคงต้องรบกวนให้ฝ่าบาทต้อนรับนาง ส่วนกระหม่อมจะไปดำเนินการติดต่อจือหมิงฮ่าว ให้พวกเขารู้ถึงแผนการของเรา”
เหลียงซานพยักหน้า “ไม่ต้องเป็นห่วงทางด้านของเฉินถิงฟาง ข้าจะดูแลนางเอง เจ้าไปหาจือหมิงฮ่าวเถอะ”
“เช่นนั้นกระหม่อมขอกราบถวายบังคมลา” จางหมิง เมื่อพูดจบเขาก็หันหลังและเดินจากไป
เหลียงซาน เมื่อเห็นจางหมิงจากไปแล้ว เขาจึงส่งคนให้ไปเตรียมพร้อมรอรับเฉิงถิงฟางทันที
เขารู้ดีว่าตระกูลเฉินนั้น คือตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในสำนักหยกจักรพรรดิ และบ่อยครั้งที่ตระกูลเฉินนิยมส่งคนของพวกเขาไปช่วยเหลือบรรดาจักรพรรดิที่บ่มเพาะเต๋าดวงใจจักรพรรดิที่เป็นคนของสำนัก และทุกคนที่พวกเขายื่นมือช่วยเหลือล้วนแล้วแต่เป็นบรรดาจักรพรรดิที่พวกเขาได้หมายตาไว้แล้วว่าเป็นผู้มีความสามารถและน่าส่งเสริม
แต่ตอนนี้ ผู้ที่ถูกส่งมาจากตระกูลเฉินกลับเป็นถึงทายาทสายหลัก ซึ่งนี่มันเป็นเรื่องที่แปลก เหลียงซานรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่าตระกูลเฉินต้องการอะไรจากเขากันแน่
ทางด้านของจางหมิง ขณะนี้เขาได้มาพบกับจือหมิงฮ่าว และพูดว่า “พี่จื่อ ข้ามีข่าวดี ในอีกครึ่งเดือนจะถึงเวลาที่พวกเราจะลงมือแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)