พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 224

สรุปบท บทที่ 224 มิตร ศัตรู ผลประโยชน์ คนรู้จัก: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

สรุปเนื้อหา บทที่ 224 มิตร ศัตรู ผลประโยชน์ คนรู้จัก – พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดย Internet

บท บทที่ 224 มิตร ศัตรู ผลประโยชน์ คนรู้จัก ของ พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 224 มิตร ศัตรู ผลประโยชน์ คนรู้จัก
บทที่ 224 มิตร ศัตรู ผลประโยชน์ คนรู้จัก

หลิงตู้ฉิงนั่งรถม้าของเขามาส่งจ้าวเหมิงลู่ที่ตระกูลจ้าว

เมื่อเสร็จนางเสร็จ

เขาได้มุ่งหน้าต่อไปที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์

ในคฤหาสน์ตระกูลจ้าว จ้าวปาเทียนขมวดคิ้วและถามขึ้น “นี่เจ้ากลับมาทำอะไรที่นี่?”

จ้าวเหมิงลู่ยิ้มและตอบปู่นางทันที “ข้าก็กลับมาที่นี่เพื่อช่วยพวกท่านยังไงล่ะ”

จ้าวเทียนจุนที่อยู่ด้วยในตอนนี้ขมวดคิ้วเช่นกันและถามขึ้น “เจ้าจะช่วยพวกเราด้วยอะไร? ตอนนี้สถานการณ์ตึงเครียดเป็นอย่างมาก ไม่มีใครรู้ว่าจักรพรรดิจะลงมือเมื่อไหร่ด้วยซ้ำ และอีกอย่างถ้าหากเจ้าไม่กลับมาที่นี่ จักรพรรดิอาจจะมองข้ามพวกเราไปก็ได้ แต่นี่เจ้าดันกลับมาที่นี่ซะอย่างนั้น ข้าเกรงว่าจะต้องมีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่นี่เพื่อจับตัวเจ้าเป็นตัวประกันเพื่อใช้ต่อรองกับสามีของเจ้า!”

จ้าวเหมิงลู่น้อยใจเล็กน้อย “ท่านหมายความว่าข้าไม่ควรกลับมางั้นเหรอ?”

จ้าวปาเทียนพูดด้วยน้ำเสียงกระอักอ่วน “ความขัดแย้งระหว่างตระกูลเรากับราชวงศ์ ที่มีต่อกันนั้นอย่างมากก็คือความแย้งในเรื่องของศาลาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งในกรณีที่เลวร้ายที่สุดปู่ก็แค่ยอมยุบศาลาศักดิ์สิทธิ์ทิ้งไป จักรพรรดิก็คงอาจจะไม่ทำอะไรกับเรา แต่ถ้าหากเจ้ากลับมาอยู่ที่นี่แบบนี้ สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นกับตระกูลเราต่อไปมันจะยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น”

ทุกคนต่างรู้ว่าสถานการณ์ในอาณาจักรจันทราตอนนี้ได้มีการแบ่งฝ่ายแบ่งพวกกันอย่างชัดเจน และในเวลาไม่ช้ามันจะต้องมีการต่อสู้กันเกิดขึ้นแน่นอน

เนื่องจากความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินมาถึงจุดที่ไม่สามารถประนีประนอมกันได้อีกต่อไปแล้ว

ในสถานการณ์เช่นนี้ ตระกูลจ้าวที่รู้ตัวว่าพวกเขาไม่มีกำลังพอจะไปต่อต้านอะไรใครได้ จึงเลือกที่จะอยู่อย่างเงียบ ๆ ที่สุดเพื่อเอาตัวรอด

จ้าวเทียนจุนถอนหายใจและพูดไปทางจ้าวปาเทียนว่า “เฮ้อ…ถ้าข้ารู้มาก่อนว่าเรื่องราวมันจะเป็นแบบนี้ ข้าคงไม่หลงเชื่อท่านอนุญาตให้เหมิงเอ๋อไปแต่งงานกับหลิงตู้ฉิงแน่นอน แล้วดูสิตอนนี้ ด้วยการตัดสินใจของท่านทำให้ตระกูลจ้าวของเราตอนนี้ถูกลากลงไปในวังวนแห่งความวุ่นวายนี้ไปด้วยแถมเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะออกจากวังวนนี้ได้ยังไง”

จ้าวปาเทียนถอนหายใจและตอบกลับ “ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าจักรพรรดิจะสามารถไปขอความช่วยเหลือจากคนทวีปอื่นมาได้ เฮ้อ…แต่ก็ช่างเถอะยังไงซะมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้นที่เราจะมาบ่นเรื่องนี้กันเอาป่านนี้”

จ้าวเหมิงลู่มองไปยังปู่และพ่อของนางด้วยสายตาที่ผิดหวังอย่างรุนแรง “ท่านปู่ ท่านรู้ไหมว่าทำไมสามีของข้าถึงไม่ยอมรับท่านสักที? แล้วท่านพ่อ ท่านรู้ไหมว่าทำไมสามีของข้าไม่เคยสนใจท่านเลย?”

จ้าวปาเทียนและจ้าวเทียนจุนต่างมองมายังจ้าวเหมิงลู่โดยไม่ได้ตอบกลับอะไร

“นั่นก็เพราะว่าพวกท่านไม่เคยจริงใจกับเขาเลยยังไงล่ะ หรือต่อให้ท่านจะคิดถึงเขา พวกท่านก็คิดแค่ว่าจะได้รับผลประโยชน์มาจากเขาได้ยังไงบ้าง!” จ้าวเหมิงลู่พูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ “หรือถ้าจะให้ข้าอธิบายให้ละเอียดก็คือ ท่านเป็นที่เป็นปู่ของข้า สามีของข้าควรจะเรียกท่านว่าปู่เช่นกัน แต่เขาก็ไม่เคยเรียกแบบนั้นเลย”

“แต่ในทางกลับกันสำหรับท่านแม่ทัพหลิงที่สามีของข้าเรียกเขาว่าท่านปู่ ท่านแม่ทัพหลิงยอมลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด เพียงเพื่อที่จะแสดงเจตนารมณ์ว่าเขาต้องการสนับสนุนสามีของข้าและเขายังเตรียมตัวที่จะทำศึกอยู่เคียงข้างสามีข้าโดยไม่ปริปากบ่นแม้สักนิด”

“จากการกระทำของท่านแม่ทัพหลิงเช่นนี้และเมื่อมาเทียบกับสิ่งที่ท่านทำอยู่ การกระทำของพวกท่านทั้งคู่มันต่างกันราวฟ้ากับเหว ข้าสามารถบอกได้ว่าในเวลาอีกไม่นานพวกท่านจะต้องเสียใจ แต่ตอนนี้ ในเมื่อข้ากลับมาที่นี่แล้ว และข้าได้รับมอบหมายหน้าที่จากสามีของข้าให้มาปกป้องที่นี่ ฉะนั้นพวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกท่าน ข้าจะปกป้องที่นี่อย่างสุดความสามารถ”

“และโปรดพวกท่านออกคำสั่งกับทุกคนในตระกูลด้วยว่านับจากวันนี้ทุกคนจะต้องอยู่แต่ในอาณาเขตของคฤหาสน์เท่านั้น ข้าจะปกป้องแต่เฉพาะคนที่อยู่ในอาณาเขตของคฤหาสน์ หากใครออกไปนอกตระกูลแล้วถูกสังหารหรือถูกจับตัว ก็อย่าหาว่าข้าเลือดเย็นเพราะว่าข้าจะไม่ช่วยเหลือหรือปกป้องพวกเขาทั้งนั้น”

เมื่อจ้าวเหมิงลู่พูดจบ นางก็หันหลังเดินกลับไปยังห้องของนางทันที โดยไม่ฟังคำโต้แย้งอะไรทั้งนั้นของปู่และพ่อของนาง

ทางด้านของจ้าวปาเทียนและจ้าวเทียนจุนต่างรู้สึกมึนงง

“เดี๋ยวนี้นางมีความสามารถพอที่จะปกป้องพวกเราแล้วงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าระดับการบ่มเพาะของนางตอนนี้อยู่แค่ในขอบเขตประสานทะเลปราณเท่านั้นไม่ใช่เหรอ?” จ้าวเทียนจุนอุทานถามขึ้นด้วยสีหน้าแปลกประหลาด

พวกเขาทั้งคู่ต่างไม่ทราบว่า ตอนนี้ในร่างของจ้าวเหมิงลู่ได้มีหลิงจู้ซ่อนอยู่ภายใน ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจว่าจ้าวเหมิงลู่เอาความมั่นใจมาจากไหนในการปกป้องพวกเขา

แต่ในอีกด้านหนึ่ง บรรดานักศึกษารุ่นหลัง ๆ ที่พึ่งเข้าร่วมกับศาลาศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาดูค่อนข้างลังเลและยังไม่รู้ว่าจะตัดสินใจทำอย่างไรกับทางเลือกที่มีอยู่ดี

ถ้าหากพวกเขาเลือกที่จะอยู่ฝั่งเดียวกับหลิงตู้ฉิง พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรหากต้องเผชิญกับบรรดาคนจากราชวงศ์

เนื่องจากถ้าพวกเขาตัดสินใจผิดพลาดไปมันจะไม่ใช่แค่พวกเขาที่ซวยเพียงคนเดียว แต่มันจะหมายถึงพวกเขาได้ลากคนทั้งตระกูลให้ซวยไปกับพวกเขาด้วย

หลิงตู้ฉิงที่ได้จากมาแล้วเขาไม่ได้สนใจกับการตัดสินใจของบรรดานักศึกษาสักเท่าไหร่ เขาคิดว่าการที่เขาได้มาแจ้งข้อความแบบนี้มันก็ถือว่าเขาทำมากพอแล้ว

ซึ่งถ้าหากมีนักศึกษาคนไหนที่ถูกจับตัวเพื่อมาเป็นข้อต่อรองกับเขา เขาจะถือว่าเขาได้ให้ทางเลือกกับนักศึกษาเหล่านี้ได้เลือกที่จะหนีไปก่อนแล้ว หรือถ้าหากตระกูลของนักศึกษาเหล่านี้ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมต่อต้านเขา เขาก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้พวกเขาหายไปพร้อม ๆ ไปกับเหล่าศัตรูของเขา

เมื่อหลิงตู้ฉิงได้กลับมาถึงคฤหาสน์ กงหนิวได้รีบพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “นายท่าน ข้าอยากที่จะกลับไปส่งข้อความให้กับคนในตระกูลของข้าให้พวกเขาอยู่ห่างจากเรื่องนี้”

“ไปเถอะ” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า

“นายท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่บอกข้อมูลอะไรกับพวกเขามากมาย และด้วยความเร็วของข้า ข้าเชื่อว่าไม่มีใครตามข้าได้ทันแน่นอน” กงหนิวพูดขึ้น

ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของกงหนิวได้ก้าวขึ้นมาอยู่ที่ขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 9 ซึ่งส่งผลให้เขามีความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

หลังจากที่กงหนิวจากไป เสี่ยวเยว่เฟิงเองก็พึ่งกลับมาจากเมืองฟินิกซ์พอดี

“นายท่าน ข้าได้ตรวจสอบใต้พื้นของลานประลองที่ในวันนั้นข้าได้ตบร่างของเจิ้นป่าเจ่าให้จมลงไปแล้ว ที่ใต้พื้นนั่นมันมีร่องรอยหยดเลือดจากแก่นแท้โลหิตของผู้อาวุโสทิ้งไว้ นี่มันนับได้ว่าโชคของชายผู้นั้นมันดีอย่างน่าเหลือเชื่อที่บังเอิญได้เจอกับหยดเลือดนี้เข้าและชุบชีวิตของเขาขึ้นมาใหม่ แถมยังทำให้ระดับการบ่มเพาะของเขาเพิ่มมาอนู่ที่ขอบเขตนภาระดับ 10 ได้ แต่ว่านายท่านนอกจากที่ข้าจะเจอร่อยรอยของหยดเลือดแล้ว ข้ายังเจอต้นกล้าหวูทง ซึ่งมันน่าจะถูกท่านผู้อาวุโสลืมทิ้งไว้” พูดจบเสี่ยวเยว่เฟิงได้ยื่นต้นกล้าหวูทงให้กับหลิงตู้ฉิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)