เหลียงซานที่กำลังจะส่งคนไปช่วยกองทัพศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทำการกำจัดตระกูลหลิงให้เร็วที่สุด และจากนั้นเขาจะได้โยกให้กองกำลังของอู่หยุนจี๋ไปช่วยจัดการกับสถานการณ์ที่คฤหาสน์สราญรมย์
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นกองทัพศักดิ์สิทธิ์ที่พ่ายแพ้อย่างยับเยิน
เขามองไปที่สัตว์ประหลาดที่พึ่งถูกสร้างขึ้นในอากาศค่อย ๆ แยกตัวออกเป็นห้าสัตว์เทวะ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นมืดหม่นลงทันที
กองทัพศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาสามารถยืมได้จากอาจารย์ของเขาเพื่อมาใช้ในการรวมทะเลชางหมาง ตอนนี้ไร้ประโยชน์เสียแล้ว และเมื่อกองทัพศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายนั่นก็หมายความว่าปฏิบัติการทางด้านคฤหาสน์ตระกูลหลิงนั้นล้มเหลว
ในเวลานี้เขาไม่สามารถจัดการกับดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตจากคฤหาสน์สราญรมย์ได้อีกต่อไป
“นำคนไปยังตระกูลมี่ และตระกูลจ้าวทันที จับผู้คนของตระกูลทั้งสองนั้นไว้เป็นข้อต่อรอง!” เหลียงซานพูดกับเหล่าคนของเขาด้วยสีหน้ามืดมน
จางหมิงและคนอื่น ๆ ทุกคนรู้ดีว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนมาก พวกเขาพยักหน้าและบินไปยังตระกูลมี่
“ตระกูลจ้าวมีเพียงหุ่นเชิดขอบเขตนภาระดับ 12 ตัวเดียวเท่านั้น พวกเจ้าจงไปบดขยี้มันซะ” จางหมิงพูดกับเหลียงเจียฮุย
จากนั้นเขาหันกลับมาพูดกับเจิ้นป่าเจ่าและผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาคนอื่น ๆ “ตระกูลมี่มีตราคำสั่งอสูรทมิฬ ปล่อยให้ข้าจัดการกับมันก่อน และจากนั้นพวกเจ้าค่อยสนับสนุนข้า”
เหลียงเจียฮุยและคนอื่น ๆ พยักหน้า และรีบบินไปหาตระกูลจ้าว จางหมิงบินไปยังตระกูลมี่พร้อมกับหยิบสมบัติระดับสวรรค์ออกมาและเตรียมพร้อมที่จะใช้มันกับตระกูลมี่ทันทีที่เขาไปถึงเพื่อจบศึกให้รวดเร็วที่สุด
เมื่อดูจางหมิงและคนอื่น ๆ จากไป เหลียงซานมองไปยังทิศทางของคฤหาสน์ตระกูลหลิงด้วยสีหน้ามืดมน
สิ่งที่ทำให้เขาสบายใจมากขึ้นหน่อยก็คือกองกำลังของคฤหาสน์ตระกูลหลิงยังคงไม่เคลื่อนไหวและไม่ได้รีบตรงมาที่พระราชวังเพื่อตามหาเขา ดังนั้นเขาจึงยังคงรั้งดูสถานการณ์อยู่ที่พระราชวังต่อไป เขาไม่ได้วางแผนที่จะหลบหนี
แผนในส่วนของของคฤหาสน์แม่ทัพล้มเหลวไปแล้ว และคฤหาสน์สราญรมย์ล่ะ?
เขาจ้องมองไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ ทันใดนั้นเขาก็เห็นดอกบัวหลากสีในคฤหาสน์สราญรมย์หายไปจนหมด เมื่อเห็นเช่นนี้เขารู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก
“โชคดีที่ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตทั้งหมดถูกกำจัดแล้ว!” เหลียงซานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “โม่หยูถังถูกล่อให้ออกมาโดยคนจากหมู่บ้านราตรีทมิฬ และพลังแห่งกฎระหว่างสวรรค์และโลกก็ถูกเหรียญตราผนึกสวรรค์ผนึกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นซือโถวเหวินหยวนหรือหลิงตู้ฉิง ที่ต้องพึ่งพาจากพลังแห่งกฎเมื่อถูกผนึกพลังไว้เช่นนี้ พวกเขาก็กลายเป็นเหมือนคนพิการ เมื่อพวกเขาต้องเผชิญเหล่าคนของสวนร้อยพฤกษาและสำนักอื่น ๆ ที่หมายตากับผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์เอาไว้ พวกเขาก็ไม่ควรจะต้านทานไหวอยู่แล้ว ดังนั้นทางด้านของสำหรับคฤหาสน์สราญรมย์จึงน่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน”
เหลียงซานครุ่นคิดในใจราวกับว่าเขาพยายามโน้มน้าวและเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
ในเวลาเดียวกับที่เขาพึมพำ เสียงตะโกนของโม่หยูถังก็ดังก้องไปทั่วทั้งเมือง “ยังเป็นเศษขยะอยู่จริง ๆ ผ่านไปหลายปีแล้วฝีมือของขยะเช่นเจ้าก็ไม่ดีขึ้นเลย นี่ขนาดข้าพิการอยู่เป็นสิบปีและเพิ่งเริ่มต้นบ่มเพาะใหม่ตั้งแต่ศูนย์ เจ้าก็ยังสู้ข้าไม่ได้! เอาล่ะถึงเวลาตายด้วยกระบวนท่าที่ข้าพึ่งบรรลุได้ไม่นานมานี้ได้แล้ว! กระบวนท่าเงาอสูรทะลวงฟ้าสังหาร!”
หลังจากเสียงของโม่หยูถังจางหายไป เสียงกรีดร้องโหยหวนก็ได้ตามออกมา และจากนั้นในเวลาไม่นานโม่หยูถังก็ร่อนลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับร่างของชายที่สวมชุดสีดำอยู่ในมือ
เมื่อเห็นเช่นนี้เหลียงซานรู้สึกเหมือนว่าเขากินแมลงวันเข้าไป
เขาที่อุ่นใจเมื่อครู่ว่าคนจากหมู่บ้านราตรีทมิฬล่อโม่หยูถังออกไปแล้ว แต่ตอนนี้ในเวลาเพียงแค่ 15 นาที โม่หยูถังก็กลับมา
ด้วยการเสริมกำลังจากโม่หยูถังคงไม่ทำให้แผนทางด้านของคฤหาสน์สราญรมย์ล้มเหลวใช่ไหม? เหลียงซานเริ่มวิตก!
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป หัวใจของเขาก็แทบสลายทันที
จางหมิงที่ระดับการบ่มเพาะของเขาอยู่ในขอบเขตครึ่งสวรรค์ ได้นำสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ออกมาเมื่อเขามาถึงตระกูลมี่
ในความคิดของเขา เขาควรจะกำราบตระกูลมี่ทั้งหมดได้ในพริบตา
หลังจากนั้นเขาจะให้เจิ้นป่าเจ่าและคนอื่น ๆ ที่กำลังตามเขามารับช่วงควบคุมสถานการณ์ของตระกูลมี่ต่อจากเขา
เบื้องต้นเขาวางแผนไว้ว่าเขาจะยังไม่กล้าฆ่าใครในตระกูลมี่เป็นการชั่วคราว เนื่องจากเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นที่คฤหาสน์ตระกูลหลิงยังคงเป็นปริศนา เขาไม่แน่ใจว่าหากเขาใช้ความรุนแรงไปจนเกินควร ทุกอย่างมันจะยิ่งแย่ลงไปกว่านี้อีกหรือไม่
เมื่อมาถึงตระกูลมี่ เขาก็เปิดใช้งานสมบัติวิเศษและสร้าง ‘อาณาเขตสวรรค์’ ทันที เพื่อกำราบทุกคนที่อยู่ด้านในบริเวณคฤหาสน์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)