หลิงฟ่างหัวมองไปที่จี้จู่ด้วยความคาดหวัง ตอนนี้นางต้องการพัฒนาความเข้าใจเรื่องของมิติเป็นอย่างมาก
แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของนางจะอยู่แค่ขอบเขตควบแน่นลมปราณ แต่วิชาของนางเป็นวิชาสำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา หากนางไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับมิติจนเพียงพอนางย่อมไม่สามารถฝึกฝนได้เมื่อนางได้ก้าวไปถึงขอบเขตนภา
หลิงตู้ฉิงเองก็ไม่สามารถให้ความรู้เรื่องนี้กับนางได้ เพราะตัวหลิงตู้ฉิงเองก็ไม่เก่งเรื่องกฎแห่งมิติเช่นกัน
ด้วยการข่มขู่ของหลิงตู้ฉิง จี้จู่ก็เหงื่อแตก เขาเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างแน่วแน่ว่า “ข้าบอกเจ้าได้เกี่ยวกับกฎแห่งมิติ แต่หลังจากที่ข้าบอกเจ้า เจ้าต้องปล่อยข้าไป”
หลิงตู้ฉิงพูดอย่างเย็นชาว่า “สำหรับศัตรูอย่างเจ้าที่สามารถเดินทางผ่านมิติได้ ข้าไม่โง่พอที่จะปล่อยเจ้าไปหรอก”
“งั้นข้าก็จะไม่พูด ถ้าเจ้าอยากจะฆ่าข้าก็เชิญ แต่เจ้าก็จะไม่ได้อะไรจากข้าอยู่ดี” จี้จู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
หลิงตู้ฉิงมองไปที่จี้จู่อย่างเย็นชาและพูดว่า “ได้! ในเมื่อเจ้าไม่รู้ว่าอะไรดีสำหรับตัวเจ้า! งั้นข้าจะเป็นคนทำให้เจ้าเปิดปากเอง!”
เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดจบ อักขระเวทย์ที่อยู่ภายในคฤหาสน์สราญรมย์ก็เริ่มรวมตัวกันเข้าหาเขา
ส่งผลให้ระดับการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงพุ่งขึ้นไปถึงขอบเขตสวรรค์ทันที แต่ถ้าหากจะถามถึงระดับนั้นแม้แต่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าไปถึงขอบเขตสวรรค์ระดับที่เท่าไหร่
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็เริ่มบริกรรมคาถา จนคาถาที่เขาออกเสียงออกมาเริ่มควบแน่นกลายเป็นตัวอักษรให้เห็นได้ด้วยตาเปล่า และอักษรเหล่านั้นก็เริ่มบินไปประทับบนร่างของจี้จู่จนเต็มทั่วร่าง
หลังจากนั้นไม่นาน จี้จู่ที่ทั้งร่างเต็มไปด้วยตัวอักษรมากมายถูกประทับอยู่ก็คุกเข่าต่อหน้าหลิงตู้ฉิงอย่างเคารพ และเริ่มพูดกี่ยวกับความเข้าใจในการเดินทางผ่านห้วงมิติและกฎแห่งมิติ
หลิงตู้ฉิงมองไปที่จี้จู่ด้วยสายตาเย็นชาแล้วหันกลับมาถามหลิงฟ่างหัวว่า “ลูกพ่อ เจ้าเข้าใจไหม?”
“ข้าไม่เข้าใจ…” หลิงฟ่างหัวตอบอย่างกระอักกระอ่วน
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดกับจี้จู่ “ลูกของข้ายังคงไม่เข้าใจที่เจ้าอธิบาย เจ้าจงเอาชิ้นส่วนวิญญาณที่เก็บความเข้าใจของเจ้าเกี่ยวกับกฎแห่งมิติมาให้ข้า”
“รับทราบ!” จี้จู่ฉีกวิญญาณของตัวเองเป็นชิ้น ๆ ทันที
หลิงตู้ฉิงเอื้อมมือไปหยิบชิ้นส่วนวิญญาณ เขาจับพวกมันและหลอมมันเข้าไปในหัวของหลิงฟ่างหัว
“ความรู้ทั้งหมดนี้เป็นของเจ้าแล้ว ตอนนี้เจ้าจงค่อย ๆ ดูดซับและทำความเข้าใจมันอย่างช้า ๆ!” หลิงตู้ฉิงพูดต่อ “นอกจากนี้มันยังช่วยเสริมสร้างรากฐานจิตวิญญาณของเจ้าให้เพิ่มขึ้นไปอีกระดับ!”
หลิงฟ่างหัวมองไปที่จี้จู่ที่เลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดของเขา แต่ในดวงตาเขากลับมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความเคารพ นางถือว่าได้เห็นอีกด้านหนึ่งของความน่าหวาดกลัวของพ่อของนาง
“นอกจากนี้พ่อจะปลุกสายเลือดของหนูมิติทั้งหมดให้หลอมรวมเข้าไปในร่างกายเจ้าด้วยเช่นกัน” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น
หลังจากนั้นจี้จู่ก็ถูกหลอมเป็นก้อนเลือดขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ซึ่งก้อนเลือดนี้ประกอบไปด้วยแสงสีดำสลับสีขาวหมุนวนโอบล้อมก้อนเลือดวูบวาบดูแปลกตา จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็ควบแน่นมันเข้ากับร่างกายของหลิงฟ่างหัว
“ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไรไป?” หลิงฟ่างหัวถามด้วยความกังวล
แม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะดูสงบมาก แต่นางก็สัมผัสได้ถึงไอสังหารที่รุนแรงภายใต้ความสงบนั้น นางไม่เคยเห็นพ่อของนางน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน มันน่ากลัวยิ่งกว่าครั้งที่แล้วที่เขาทำลายฟางเหล่ยถงเป็นชิ้น ๆ เสียอีก
หลิงตู้ฉิงพูดอย่างเรียบเฉย “พ่อไม่เป็นอะไร มันคือจิตสำนึกปีศาจภายในของพ่อเอง! เอาล่ะ ถ้าเจ้าดูดซับสายเลือดของหนูมิติจนสมบูรณ์และเข้าใจถึงพลังของสายเลือดรวมไปถึงชิ้นส่วนจิตวิญญาณของอสูรโลหิตนี่แล้ว ความแกร่งของเจ้าจะได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นอย่างแน่นอน”
“ท่านพ่อต้องการให้ข้าทำอะไรให้ไหม?” หลิงฟ่างหัวไม่สนใจที่พ่อของนางอธิบาย นางยังคงถามเกี่ยวกับอาการของหลิงตู้ฉิงอย่างเป็นห่วง
“ไม่จำเป็นหรอก เจ้าตั้งใจบ่มเพาะให้ดีเท่านั้นก็พอ” พูดจบหลิงตู้ฉิงก็หันหลังและจากไป
เขากลับไปที่ห้องและขังตัวเองไว้ เขานั่งเงียบ ๆ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สงบลง ก่อนจะส่ายหัวและถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าจะมีปัญหา! นี่ข้าก็บ่มเพาะเต๋าตู้ฉิงมาเป็นเวลานานแล้ว ทำไมการฆ่าคนแค่ไม่กี่คน มันเกือบจะทำให้ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือว่าเต๋าในชาติก่อนของข้ามีพลังมากเกินไป?”
เมื่อหลิงตู้ฉิงเดินออกจากห้อง มีคนหลายคนยืนคอยเขาอยู่ที่ประตูและมองมาด้วยความกังวล หลิงฟ่างหัวได้แจ้งให้ทุกคนรู้เรื่องของพ่อนางแล้วและพวกเขาก็รีบมาทันที
“สามี ท่านสบายดีไหม?” จ้าวเหมิงลู่และเหลียงเฟ่ยเอ๋อถาม
“สามี มีอะไรที่ต้องการให้เราช่วยไหม?” มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยก็ถามเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)