หนึ่งคืนต่อมา ในที่สุดหมิงจู้กลายเป็นคนของตระกูลหลิงอย่างเต็มตัว
เช้าตรู่ทั้งคู่ลุกจากเตียงด้วยความเสน่ห์หาและทำพิธีคำนับหลิงตู้ฉิงอย่างเป็นทางการ
หลิงตู้ฉิงที่ได้เห็นภาพเช่นนี้เขารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
สำหรับน้อง ๆ ของหลิงยู่ชาน ทุกคนต่างก็เรียกหมิงจู้อย่างเป็นทางการว่าพี่สะใภ้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการยอมรับตัวตนอย่างเป็นทางการของนาง
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าหลิงยี่เทียนจะเป็นจักรพรรดิแล้ว แต่เขาก็ยังคงอาศัยอยู่ในคฤหาสน์สราญรมย์ไม่ใช่พระราชวัง
เขารู้สึกว่าภายในวังนั้นว่างเปล่า ที่สำคัญแม้แต่ในอาณาเขตของพระราชวังก็ไม่ปลอดภัยเหมือนของคฤหาสน์สราญรมย์!
ยิ่งไปกว่านั้นทุกวันเมื่อเขาต้องไปที่พระราชวัง เขาจะเดินทางด้วยรถม้าของหลิงตู้ฉิง ดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยและความรวดเร็วในการออกตรวจราชการ
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเห็นจักรพรรดิประพฤติเช่นนี้ บรรดาเสนาบดีและคนอื่น ๆ ต่างก็ไม่พอใจ จักรพรรดิจะไม่อยู่ในวังได้อย่างไร?
ถึงแม้จะมีเสียงทัดทานอย่างหนักหน่วง หลิงยี่เทียนก็ไม่เคยใส่ใจ
ในอาณาจักรจันทราทั้งหมด เขามีกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุด 3 กองทัพอยู่ในมือและผู้มีอำนาจทางทหารอื่นก็อยู่ในการควบคุมของหลิงเจิ้งสง ดังนั้นจะมีอะไรให้เขากังวล?
และอันที่จริง ด้วยความวุ่นวายของการที่อาณาจักรจันทราพึ่งจะควบรวมอาณาจักรอีกสองแห่งที่พึ่งยึดมา บรรดาพวกขุนนางทั้งหลายส่วนใหญ่ต่างก็ไม่ค่อยจะว่างกันสักเท่าไหร่นัก พวกเขาจึงไม่ค่อยจะมีใครมาวุ่นวายกับหลิงยี่เทียนสักเท่าไหร่ นอกซะจากจะเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ๆ พวกเขาจึงจะมาขอเข้าเฝ้า
ในเวลาเดียวกันบรรดาผู้คนจากตระกูลหลิงก็มาที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง นักศึกษาหลายคนในศาลาศักดิ์สิทธิ์ก็รู้สึกกังวล เนื่องจากพวกเขาไม่รู้จะทำตัวยังไงให้เหมาะสมดี
จู่ ๆ เพื่อนคนหนึ่งของพวกเขากลายเป็นจักรพรรดิ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปหลังจากนี้?
นักศึกษาหลายคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็คุกเข่าลงต่อหน้าหลิงยี่เทียนและพูดว่า “ถวายบังคม ฝ่าบาท!”
หลิงยี่เทียนรีบพูดว่า “ไม่ไม่ไม่ พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้”
เมื่อมองไปที่สถานการณ์หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและไม่พูดอะไร
เมื่อเห็นจ้าวปาเทียนรีบวิ่งมา หลิงตู้ฉิงก็พูดกับเขาว่า “ข้าต้องการให้ท่านประกาศเรื่องที่สำคัญมาก!”
จ้าวปาเทียนถามอย่างสงสัย “มันคืออะไรงั้นหรือ?”
ตั้งแต่หลังเหตุการณ์ล่าสุดที่หลิงตู้ฉิงมาช่วยตระกูลจ้าวของเขา จ้าวปาเทียนก็พยายามทำตามคำแนะนำของจ้าวเหมิงลู่และปฏิบัติต่อหลิงตู้ฉิงด้วยความนอบน้อมเป็นที่สุด
เนื่องจากเขาไม่สามารถใช้สถานะของเขาที่เป็นปู่ของจ้าวเหมิงลู่ ข่มหลิงตู้ฉิงได้อีกต่อไป บุคคลที่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ได้เช่นนี้ เขารู้ตัวดีว่าไม่ควรจะทำตัวเหนือกว่าได้เหมือนเช่นก่อนหน้านี้อีกแล้ว
“ข้ามีเรื่องสำคัญมากที่ต้องทำต่อไป ดังนั้นในอนาคตข้าคงไม่เข้ามาที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์บ่อยเหมือนเมื่อก่อน” หลิงตู้ฉิงพูดกับจ้าวปาเทียนว่า “ท่านควรจะหาคนอื่นมาดูแลศาลาศักดิ์สิทธิ์แทนข้าทันที เพราะข้าจะไม่สนใจเรื่องของที่นี่อีกต่อไป แต่แน่นอนถ้าข้ามีเวลา ข้าจะมาที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์บ้างเพื่อเยี่ยมเยียนทุกคน”
จ้าวปาเทียนยิ้มอย่างขมขื่น “นอกจากเจ้าแล้วใครจะเป็นผู้นำศาลาศักดิ์สิทธิ์นี้ได้อีก ถ้าไม่ใช่เจ้า มันก็คงไม่มีใครหรอกที่สามารถดูแลนักศึกษาเหล่านี้ได้”
หลิงตู้ฉิงพูดอย่างเฉยเมย “นั่นมันเป็นปัญหาของท่าน แต่ไม่ว่าจะยังไงข้าก็ไม่มีเวลาดูแลศาลาศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)