ผู้บ่มเพาะแทบทุกคนรู้ดีว่าพรสวรรค์และความสามารถของพวกเขาได้ถูกฟ้ากำหนดมานานแล้วว่าแต่ละคนจะไปได้ถึงจุดไหน
แน่นอนว่ายังมีคนที่มีตระกูลที่ดีที่สามารถผลักดันความสามารถและพรสวรรค์ของพวกเขาไปจนเลยขีดจำกัดได้บ้าง
อย่างไรก็ตามมีคนจำนวนมากที่ไม่โชคดีขนาดนั้น
สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือหลายคนที่ยังไม่ได้ใช้ศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงบางอย่างของโชคชะตาชะตาชีวิต โชคลาภของพวกเขาจึงถูกพรากไปและพวกเขาก็ถูกบังคับให้ละทิ้งในเส้นทางการบ่มเพาะก่อนเวลา
ตัวอย่างเช่นหากใครที่อยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 ต้องการที่จะทะลวงผ่านระดับ 13 แต่หากต้องกลับเผชิญกับสถานการณ์ถูกไล่ล่าที่ร้ายแรงถึงตาย พวกเขาก็จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทะลวงเข้าสู่ขอบเขตรวมแสงดาราก่อนเวลาเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่เผชิญอยู่
แต่โลกใบนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าอัศจรรย์อยู่ นั่นก็คือบนโลกนี้ยังมีตัวช่วยสำหรับผู้ที่ในอดีตได้บ่มเพาะไปในแนวทางที่ผิดพลาด ซึ่งก็คือใช้เหล่าสมบัติวิเศษจากสวรรค์ที่ถือกำเนิดขึ้นและนำพวกมันมาชดเชยในเรื่องนี้
ตราบเท่าที่พบสมบัติสวรรค์ชนิดที่ถูกต้อง ผู้ที่ในอดีตทำผิดพลาดไปในขั้นตอนการบ่มเพาะก็จะสามารถเพิ่มศักยภาพของตัวเองได้อีกครั้ง
เนื่องจากสมบัติสวรรค์บางชนิดสามารถทำลายขีดจำกัดของระดับการบ่มเพาะของตัวเองที่ถูกฟ้ากำหนดไว้ได้
อย่างไรก็ตามสมบัติสวรรค์ชนิดนี้เป็นสิ่งที่พบเจอได้ยากจนเหนือกว่าที่จะจินตนาการได้ การได้พานพบกับพวกมันนั้นย่อมต้องเป็นผู้ที่มีโชควาสนาเหนือล้ำกว่าผู้คนมากมายนับล้านล้านคน แต่ในอีกแง่หนึ่งมันก็ถือว่าเป็นหายนะแก่คนผู้นั้นเช่นกัน
เนื่องจากต่อให้จะได้สมบัติมาครอบครองแล้วปัญหาก็ยังคงไม่จบ เพราะเมื่อไหร่ที่สมบัติแบบนี้ปรากฏขึ้นมันก็เหมือนกับเป็นสัญญาณลั่นกลองรบให้เหล่าผู้คนมากมายหรือแม้แต่ขุมอำนาจใหญ่ต่าง ๆ ต้องฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงมันมาครอบครอง
อย่างไรก็ตามถึงแม้เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับจะเป็นสถานที่ที่อันตรายแต่มันก็เป็นโอกาสสำหรับผู้ฝึกฝนระดับล่างที่จะเปลี่ยนชะตากรรมของพวกเขาให้แข็งแกร่งขึ้น
ตามตำนาน เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับเป็นสถานที่ที่จะสามารถค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้เกือบทั้งหมด มีหลายสิ่งที่สามารถเพิ่มศักยภาพของผู้บ่มเพาะ แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้อยู่ทุกหนทุกแห่งภายในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ แต่อย่างน้อยก็มีโอกาสมากกว่าโลกภายนอกหลายเท่า
ที่สำคัญที่สุดคือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ขึ้นไปจะไม่สามารถเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับได้และจะต้องตายหากฝืนเข้ามา สิ่งนี้ทำให้ผู้บ่มเพาะระดับล่างมีโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากขึ้น
สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือผู้ที่จะเข้าไปในสถานที่แห่งนี้ได้จะต้องมีกุญแจเพื่อที่จะผ่านเข้าไปได้เท่านั้น และกุญแจทุกดอกต่างก็จำกัดจำนวนคนที่มันจะพาเข้าไปด้านในได้อีกต่างหาก ฉะนั้นในบรรดาคนนับล้านคนมันก็จะมีเพียงแค่คนไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าเสี่ยงโชคในสถานที่แห่งนี้ได้
ดังนั้นเมื่อเสี่ยวเยว่เฟิงได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงอาจให้โอกาสแก่น้องสาวของนาง นางก็อดไม่ได้ที่จะละล่ำละลักขอบคุณ
ในเวลานี้ เสี่ยวหลิงเฟิงยังไม่ทราบถึงการมีอยู่ของเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ เมื่อนางตอนที่นางยังอาศัยอยู่ในภูเขาฟีนิกซ์นางยังเด็กเกินไปที่จะรู้เรื่องราวของสถานที่สำคัญต่าง ๆ บนโลก และเมื่อนางมาถึงทะเลชางหมางก็ไม่มีใครที่จะบอกนางเกี่ยวกับการมีอยู่ของมัน
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่านางจะไม่รู้ถึงความสำคัญในการได้รับโอกาสได้เข้าไปยังเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ แต่ก็นางเข้าใจถึงคุณค่าของคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นวิธีการบ่มเพาะระดับสูงสุดในสายเลือดฟีนิกซ์ของพวกนาง
ดังนั้นเมื่อหลิงตู้ฉิงอนุญาตให้พี่สาวของนางถ่ายทอดคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ให้นาง นางจึงแสดงความขอบคุณต่อหลิงตู้ฉิงอย่างซาบซึ้ง
“ขอบคุณ นายท่าน!” เสี่ยวหลิงเฟิงพูดอย่างซาบซึ้ง
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เจ้าก็เหมือนกับพี่สาวของเจ้า ซึ่งมีศักยภาพที่จะบ่มเพาะไปได้ถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 เท่านั้น เจ้าต้องฝึกฝนจนถึงระดับ 12 ให้ได้และใช้ศักยภาพของเจ้าให้ถึงขีดจำกัด จากนั้นเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับถึงจะมีประโยชน์กับเจ้า”
“แม้ว่าจะยังมีเวลามากกว่า 30 ปี แต่เจ้าอยู่ในระดับ 5 เท่านั้น มันยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าที่จะฝึกฝนจนถึงขอบเขตประสานทะเลปรารณระดับ 12 ให้ทันในเวลาที่เหลืออยู่ ดังนั้นจงฝึกฝนให้หนักขึ้น!”
เสี่ยวเยว่เฟิงตอบว่า “นายท่าน ข้าจะกระตุ้นให้นางฝึกฝนอย่างหนัก หากนางไม่สามารถไปถึงขอบเขตประสานทะเลปรารณระดับ 12 ได้ พวกเราสองพี่น้องคงจะละอายเกินไปที่จะขอโอกาสจากนายท่าน”
“อืม” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “เอาล่ะ ในเมื่อไม่มีอะไรแล้วก็ไปกันเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)