พวกเขาต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อเข้าและออกจากทะเลชางหมาง? หลิงตู้ฉิงมองไปที่เสี่ยวเยว่เฟิงด้วยสายตางุนงง
เสี่ยวเยว่เฟิงยิ้มให้หลิงตู้ฉิง หลังจากนั้นนางก็ปลดปล่อยรัศมีของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ของนางและพูดกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รีบไสหัวไปให้พ้นจากสายตาข้าซะ!”
ในทันทีที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์เหล่านั้นสัมผัสได้ถึงรัศมีของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ของเสี่ยวเยว่เฟิง สีหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นหวาดผวาและจากไปทันที
เมื่ออุปสรรคที่ขวางทางพวกเขาจากไป เสี่ยวเยว่เฟิงจึงพูดขึ้น “นายท่าน ทางเข้าและออกของทะเลชางหมางนั้นค่อนข้างวุ่นวาย เนื่องจากความพิเศษของผนึกที่ปิดกั้นที่นี่ไว้มันจึงเป็นสถานที่ยอดนิยมที่บรรดาพวกนอกรีตหรือพวกผู้กระทำความผิดจะมาที่นี่เพื่อลี้ภัย”
“ดังนั้นมันจึงมีพวกคนเหลือเดนเหล่านี้ที่ปะปนมากับพวกลี้ภัยอยู่บ้างที่คอยเรียกเก็บค่าผ่านทางสร้างรายได้ให้กับตัวเองที่ทางเข้าออกแห่งนี้ หรือจะให้พูดอีกนัยหนึ่งคือคนพวกนี้กำลังจะปล้นพวกเรา”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวพลางคิดในใจ ‘นี่ดูเหมือนว่ามันจะเหมือนกันไปหมดทุกที่สินะ?’
หลิงตู้ฉิงเงยหน้าขึ้นและมองขึ้นไปยังกำแพงล่องหนตรงหน้า ในบางครั้งเขาจะลองยื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสพลังแห่งกฎระหว่างสวรรค์และโลก เพื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังบริเวณรอบ ๆ
ไม่นานเขาก็พูดว่า “ไปกันเถอะ!”
หลังจากนั้น กงหนิวก็เริ่มออกตัวแต่เขาไม่ได้ลากรถขึ้นไปบนฟ้า แต่ค่อย ๆ ลากรถม้าไปบนพื้นดิน
เขาไม่รู้ว่าทางออกอยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงฟังคำสั่งของเสี่ยวเยว่เฟิง
ขณะที่รถม้าแล่นผ่านไปผู้คนมากมายทั้งสองฝั่งของข้างทางก็จ้องมองไปที่รถม้า
บางคนแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความโลภ บางคนเต็มไปด้วยความอิจฉา และบางคนก็มองดูด้วยแววตาเรียบเฉย
ขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังทางออก ก็มีคนอื่นกำลังเดินเข้ามา
ทันทีที่คนข้างนอกเข้ามา คนที่อยู่ด้านในที่กำลังจะออกไปก็ต้องหยุดชะงัก
“ทุกท่าน! เส้นทางของทะเลชางหมางนั้นอันตราย ข้าคิดว่าพวกท่านต้องได้รับการคุ้มครองจากใครสักคนเพื่อความปลอดภัยของตัวพวกท่านเอง ฉะนั้นโปรดให้ข้าได้เป็นผู้คุ้มกันของพวกท่าน แล้วข้าจะปกป้องพวกท่านอย่างสุดความสามารถ และข้าสัญญาว่าค่าใช้จ่ายนั้นจะไม่แพงอย่างที่ทุกท่านคิดแน่นอน!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์คนหนึ่งตะโกนขึ้น
ในฝูงชนชายหนุ่มที่แต่งตัวดูภูมิฐาน เขายิ้มและพูดว่า “หืม? นี่พวกเจ้ากล้าเรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองข้างั้นเหรอ? พวกเจ้าไม่รู้งั้นเหรอว่าข้าเป็นใคร?”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์พูดอย่างหยิ่งผยอง “ไม่ว่าข้างนอกเจ้าจะเป็นใคร แต่ที่นี่คือทะเลชางหมาง ที่นี่มันแตกต่างจากโลกภายนอกที่เจ้าจากมา! ไม่ว่าข้างนอกนั่นเจ้าจะมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งขนาดไหน แต่สำหรับที่นี่ถ้าเจ้าไม่ระวังให้ดีข้าขอเตือนว่าเจ้าอาจจะตายได้ง่าย ๆ”
ทุกคนรู้กฎของทะเลชางหมางอยู่แล้วว่าคนที่แข็งแกร่งเกินไปจะไม่สามารถเข้ามาได้ ถึงต่อให้ชายคนนี้ที่อวดอ้างว่าตัวเองมาจากตระกูลใหญ่แล้วมันยังไงล่ะ? อย่างมากต่อให้เขาได้ล่วงเกินพวกคนตระกูลใหญ่ของโลกภายนอกไป เขาก็แค่ซ่อนตัวหลบอยู่ในทะเลชางหมางไปตลอดชีวิตก็แค่นั้น
สิ่งที่จะทำให้เขากลัวได้ก็มีเพียงแค่ เขาไม่ต้องการที่เจอกับผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งกว่าเขาในทะเลชางหมางก็แค่นั้น
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายหนุ่มที่แต่งตัวดูภูมิฐานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงชัดเจน “ข้าคือ หยูเฉิงฮุย องค์ชายแห่งอาณาจักรมังกรทะยาน พี่ชายของข้าปกครองอาณาจักรหลงซานในทะเลชางหมางนี้ เจ้าเคยได้ยินรึเปล่า? เอาล่ะตอนนี้เจ้ายังจะกล้าเอาเงินค่าคุ้มครองจากข้าอีกไหม?”
ในขณะเดียวกันกลุ่มทหารที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารก็บินเข้ามาอย่างรวดเร็ว แม่ทัพที่นำหน้ากลุ่มทหารเยาะเย้ย “พวกเจ้านี่กล้าจริง ๆ กล้าดูหมิ่นองค์ชายของพวกเรางั้นเหรอ?”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ 2-3 คนมองมาที่เขาด้วยสายตาหงุดหงิด จากนั้นพวกเขาจึงหันหลังบินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
อาณาจักรหลงซาน คืออาณาจักรที่ครอบครองพื้นที่ของเกาะน้ำเต้าแทบจะทั้งหมด ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาต้องเคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของอาณาจักรนี้ ฉะนั้นพวกเขาจะกล้าดึงดันยั่วยุชายผู้นี้ต่อได้ยังไง?
กลุ่มทหารที่เห็นว่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์จากไปแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นพวกเขาก็ติดตามหยูเฉิงฮุยและบินจากไป
“พี่สาว ผู้ชายคนนั้นหล่อมาก!” ดวงตาของเสี่ยวหลิงเฟิงเบิกกว้างขณะที่นางมองไปที่หยูเฉิงฮุย
เสี่ยวเยว่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หล่อไปก็เท่านั้น มีแต่คนอย่างนายท่านเท่านั้นถึงจะนับว่าเป็นบุรุษที่ยอดเยี่ยมที่สุด! เอาล่ะไปกันเถอะ”
คนในตระกูลหลิงก็เห็นสถานการณ์ภายนอกเช่นกัน หลิงเทียนหยุนยิ้มและพูดว่า “ถ้าพี่สองเห็นเขา นางก็คงมีปฏิกิริยาเช่นเดียวกับน้องหลิงเฟิง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)