ในอดีตตอนที่หลิงตู้ฉิงยังไม่ค้นพบกำแพงสมดุล หลิงตู้ฉิงมีความรู้สึกว่ามันแปลกมาตลอดในทุกครั้งที่เขาต้องการจะใช้พลังแห่งกฎระหว่างสวรรค์และโลก ทุกครั้งที่เขาใช้มันเขาจะรู้สึกได้อยู่เสมอว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ขัดขวางอยู่ไม่ให้เขาดึงพลังแห่งกฎนี้มาใช้ได้อย่างเต็มที่
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงคิดไปเองมาตลอดว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนี้มันน่าจะเป็นผลจากที่เขาลงมาจุติในร่างใหม่ ซึ่งมันอาจจะส่งผลให้ปฏิกิริยาของเขาที่มีต่อพลังแห่งกฎระหว่างสวรรค์และโลกอ่อนแอลง
แต่ต่อมาเขาก็พบสาเหตุแล้วว่าที่มันเป็นแบบนี้มันเป็นเพราะกำแพงสมดุล ซึ่งแบ่งกั้นโลกภายนอกกับทะเลชางหมางเอาไว้
ซึ่งผู้ที่สร้างมันเอาไว้นั้นจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากแน่นอน เนื่องจากแม้แต่ความแข็งแกร่งของเขาเองที่มีในตอนนี้ก็ยังไม่สามารถทำลายมันลงได้
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หลังจากเดินทางออกจากทะเลชางหมาง ความรู้สึกที่ถูกกดทับด้วยกำแพงนี้อยู่ก็ผ่อนคลายลงทันที นี่หมายความว่าแม้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหลิงจู้และรถม้า เขาก็สามารถปลดปล่อยความแข็งแกร่งของตัวเองออกมาได้พอสมควร
เมื่อรู้เช่นนี้ หลิงตู้ฉิงจึงสบายใจขึ้นทันที และถึงแม้ว่าจะมีการปะทะกันอย่างรุนแรงอยู่บนเส้นทางด้านหน้าไม่ไกลจากพวกเขา แต่พวกเขาก็ยังคงมุ่งหน้าไปยังเมืองเจินไห่โดยไม่ใช้เส้นทางเลี่ยงไปแต่อย่างใด
หรือต่อให้พวกเขาต้องการจะเลี่ยงอ้อมไปทางอื่น แต่ตอนนี้มันก็คงไม่ทันเสียแล้วเนื่องจากตอนนี้ความผันผวนของกระแสพลังวิญญาณที่มาจากการปะทะกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ได้มุ่งหน้ามาทางพวกเขา ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่จะนำไปสู่ทะเลชางหมาง
“เป็นไปได้มากว่าตอนนี้มีคนกำลังถูกล่าและต้องการหลบหนีเข้าไปในทะเลชางหมาง!” ซือโถวเหวินหยวนพูด
หลิงตู้ฉิงมองไปที่เสี่ยวเยว่เฟิงและยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ
นั่นเป็นเพราะเขารู้สึกได้ถึงความผันผวนของกฎแห่งเพลิงที่เกิดมาจากการต่อสู้ครั้งนี้ ความผันผวนของกฎแห่งเพลิงนี้ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยคล้ายกับที่เขารู้สึกได้จากร่างของเสี่ยวเยว่เฟิง
เสี่ยวเยว่เฟิงเองก็สัมผัสถึงความรู้สึกนี้ได้เช่นกัน นางจึงเริ่มแสดงท่าทีจริงจังอย่างรวดเร็ว นางหยุดรถม้าและจ้องมองไปบนท้องฟ้า
ไม่นานต่อมาร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์สองคนที่ต่อสู้กันก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน และบนพื้นดินยังมีคนจำนวนมากตรงไปยังทางเข้าทะเลชางหมางอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นร่างบางที่คุ้นเคย เสี่ยวเยว่เฟิงหันหน้าไปมองหลิงตู้ฉิงและพูดอย่างเป็นกังวล “นายท่าน…”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ไปเถอะ!”
“ขอบคุณ นายท่าน!” ในเวลาเดียวกัน นางเตือนเสี่ยวหลิงเฟิงว่า “เจ้าอยู่ข้าง ๆ นายท่านเอาไว้และอย่าทำอะไรทั้งนั้น!”
พูดจบ เสี่ยวเยว่เฟิงก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที
ในเวลานี้กลุ่มคนที่กำลังวิ่งอยู่บนพื้นพูดขึ้นด้วยสีหน้าลังเลว่า “เอ๊ะ นั่นมันใช่เด็กสาวของตระกูลเสี่ยวรึเปล่า?”
หนึ่งในนั้นสัมผัสได้ถึงกฎแห่งสวรรค์บนร่างกายของเสี่ยวเยว่เฟิงและพูดด้วยสีหน้าขัดแย้ง “ไม่น่าจะเป็นไปได้! นี่เจ้าไม่รู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง? มันจะเป็นไปได้ยังไงที่นางจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ในช่วงเวลาสั้น ๆ?”
“แต่เห็นได้ชัดว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ผู้นี้กำลังช่วยเหลือพวกเรา ไม่อย่างนั้นนางจะเป็นใครไปได้?”
“ถ้างั้นพวกเราก็ไปถามกันเถอะ!” ถึงแม้ว่าพวกเขากำลังถูกไล่ล่า แค่ด้วยระยะห่างที่พวกเขาทิ้งมาจากกลุ่มคนที่ตามล่าพวกเขานั้นยังค่อนข้างมากอยู่ พวกเขาจึงมีเวลาพอที่จะเข้ามาถามกลุ่มของหลิงตู้ฉิงว่าเป็นใคร
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังหยุดวิ่งและส่งตัวแทนเดินเข้ามาถาม “ขอโทษนะ ท่าน…”
ซือโถวเหวินหยวนยกมือส่งสัญญาณให้พวกเขาหยุดอยู่กับที่และตะโกนแทรก “หยุดอยู่แค่นั้นพอแล้ว!”
ในคนกลุ่มนี้มีบางคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ ซือโถวเหวินหยวนจึงไม่สามารถอนุญาตให้คนเหล่านี้เข้ามาใกล้ได้
“พวกเรามาจากอาณาเขตฟีนิกซ์และเป็นคนจากเมืองเพลิงอมตะ” ชายชราจากขอบเขตครึ่งสวรรค์เอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ เนื่องจากอีกฝ่ายมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ร่วมอยู่ในกลุ่มและยังดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับพวกเขา เขาจึงเป็นฝ่ายแจ้งตัวตนของเขาก่อน
เสี่ยวหลิงเฟิงมองไปที่อีกฝ่าย นางหันกลับมาและพูดกับหลิงตู้ฉิง “นายท่าน เขาเป็นคนพวกเดียวกับข้า!”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “เจ้าคุยกับพวกเขาได้ แต่ตัวเจ้าต้องยืนคุยกับพวกเขาตรงนี้อย่าเข้าไปใกล้”
หลังจากได้รับอนุญาต เสี่ยวหลิงเฟิงก็หันกลับมาและพูดกับคนเหล่านั้นว่า “ข้าคือ เสี่ยวหลิงเฟิง คนที่ช่วยพวกท่านคือเสี่ยวเยว่เฟิงพี่สาวของข้า”
“เป็นพวกเจ้าจริง ๆ ด้วยเหรอนี่?” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาพูดด้วยความตกใจ “แล้วพี่สาวของเจ้ากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์เร็วขนาดนี้ได้ยังไง? แล้วนี่พวกเจ้าได้รับภารกิจมาให้ช่วยเหลือพวกเรางั้นเหรอ?”
“ไม่!” เสี่ยวหลิงเฟิงส่ายหัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)