ในตอนนี้ทุกคนในเรือนหลิงรู้ว่าคนจากตระกูลเจิ้นจะมาที่นี่อย่างแน่นอน แต่ไม่มีใครในเรือนหลิงมีท่าทีหวาดกลัว
หลิงยู่ชานที่ต้องฝึกออกหมัดก็ยังคงออกหมัดต่อไป หลิงฟ่างหัวที่ต้องเข้าออกประตูก็ต้องทำซ้ำ ๆ ต่อไป เงาที่ต้องหาก็ยังต้องหาต่อไป
สำหรับหลิงตู้ฉิง เขายังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้าในขณะที่เล่นหมากรุกกับหลิงยี่เทียนและหลิงว่านจุน นี่เป็นการเล่นหมากรุกกันรอบที่ 5 แล้ว
รอบนี้หลิงยี่เทียนก็แพ้อีกครั้ง หลิงยี่เทียนแสดงอาการหงุดหงิดเขากระแทกตัวหมากลงบนกระดานและพูดกับหลิงว่านจุนว่า “พี่สี่ มา! ข้าจะไปวิ่งรอบลานก่อน”
หลิงตู้ฉิงเมื่อเห็นอาการหงุดหงิดของลูกชายตัวเองเขาจึงพูดว่า “ถ้าเจ้าแพ้เจ้าควรคิดถึงวิธีที่จะชนะไม่ใช่หาวิธีระบายอารมณ์ ถ้าเจ้าไม่พยายามแก้ไขจุดบกพร่อง เจ้าก็จะแพ้ต่อไปอีก เมื่อถึงเวลาที่เจ้ากลับมาเล่นตาต่อไปกับพ่อ ในขณะที่เจ้ายังมีความโกรธอยู่ในใจโอกาสพ่ายแพ้ของเจ้าก็จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว!”
เมื่อได้ยินคำสอนของหลิงตู้ฉิง หลิงยี่เทียนก้มหน้าสำนักผิด และเริ่มออกวิ่งไปรอบลานพร้อมกับคิดไตร่ตรองถึงสิ่งที่พ่อของเขาสอน
หลิงวานจุนผู้ซึ่งนั่งตรงข้ามกับหลิงตู้ฉิงสูดหายใจลึกและเริ่มมีสมาธิกับกระดานหมากรุก
หลังจากการเล่นไปได้สักพักเขาก็แพ้อีกเช่นเคย
เขารู้สึกว่าหมากรุกเป็นเกมที่ง่ายมาก แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่อาจเอาชนะได้ แม้แต่เสมอเขาก็ไม่อาจจะทำได้
“ไม่เลว แต่เจ้าต้องพยายามให้มากกว่านี้!” หลิงตู้ฉิงยิ้ม “เจ้าสามารถยื้อได้มากขึ้นอีกถึงห้าตาเดินเจ้าพัฒนามาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เอาล่ะ! แต่ถึงยังไงจากที่เราตกลงกันไว้เจ้าก็ยังถือว่าแพ้อยู่ดี ไปยี่เทียน เจ้าออกไปวิ่งได้แล้ว! ส่วนว่านจุนเจ้ามาเล่นกับพ่อต่อ!”
หลิงยี่เทียนที่สงบลงแล้ว เขามองเข้าไปในดวงตาของหลิงตู้ฉิงและพูดอย่างมั่นใจว่า “ท่านพ่อข้าจะเอาชนะท่านตานี้ให้ได้!”
“เช่นนั้นหรือ?” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ
พวกเขาทั้งสองเริ่มเล่นหมากรุกต่อไป หลิงว่านถิงและถังชี่หยุนที่เพิ่งทำความสะอาดห้องเสร็จเดินมายังด้านด้านข้างและดูทั้งสองเล่นหมากรุก
ในลานกลางเรือนนอกเหนือจากหมากรุกก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ
จากนั้นครู่หนึ่งหลิงยี่เทียนตะโกนอย่างมีความสุขว่า “ข้ากำลังจะชนะแล้ว! รีบ ๆ เดินหน่อยท่านพ่อ ข้าจะกินหมากท่านให้หมดเลย!”
หลิงตู้ฉิงยืนขึ้นแล้วพูดว่า “เจ้าจะชนะอะไร! นี่เจ้ายังดูไม่ออกอีกหรือว่าหมากเจ้าบอดไม่มีตาเดินอีกแล้ว”
“นี่…นี่เป็นไปได้อย่างไร?” หลิงยี่เทียนไม่เชื่อ
“เจ้าศึกษาด้วยตัวเองซะ ตอนนี้ตระกูลเรามีแขก ข้าต้องออกไปต้อนรับเสียหน่อย” หลิงตู้ฉิงกล่าวพร้อมทอดสายตามองไปที่ด้านนอกของเรือนอย่างใจเย็น สักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักดังมาจากนอกเรือน
“หลิงตู้ฉิง! เจ้ารังแกน้องชายของข้าอีกแล้วงั้นเหรอ! เจ้าเบื่อชีวิตของเจ้านักใช่ไหม?” เจิ้นป่าเจ่าตวาดอย่างโกรธแค้น ครั้งนี้เขาพาผู้เชี่ยวชาญติดตามมาด้วย 7-8 คน ซึ่งกำลังยืนรายล้อมตัวเขา
เจิ้นป่าเจ่าเดินมาถึงหน้าประตูเรือนหลิงที่ยับเยินจากฝีมือเจิ้นสีชวง
เจิ้นป่าเจ่ามองไปยังเจิ้นสีชวงที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงประตูด้วยสายตาโกรธแค้น ด้วยความโมโหเขาออกหมัดอย่างรุนแรงไปยังประตู ส่งผลให้ประตูลอยกระเด็นเข้าไปตกอยู่ตรงจุดที่หลิงตู้ฉิงยืนมองอยู่
ถังชี่หยุนซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ หลิงตู้ฉิงได้ตระหนักว่าหลิงตู้ฉิงไม่ได้มีเจตนาที่จะทำอะไรเลย นางจึงส่งพลังวิญญาณเข้าสกัดเศษไม้ที่กระจัดกระจายพุ่งไปทางเด็ก ๆ ที่กำลังฝึกฝนอยู่
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดกับตัวเองว่า “ยังไงก็ต้องเปลี่ยนมันใหม่อยู่ดี จะแตกเพิ่มอีกสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร”
ในขณะนี้ เมื่อเขาระบายอารมณ์กับประตูเสร็จ เจิ้นป่าเจ่าที่เห็นเจิ้นสีชวงยังคงคุกเข่าอยู่ไม่ยอมลุกขึ้นเขาตวาดทันที “ลุกขึ้น! ข้าอยู่ตรงนี้แล้วเจ้ายังนั่งคุกเข่าอยู่ทำบ้าอะไร?!”
เจิ้นสีชวงเงยหน้าขึ้น หน้าตาของเขาบูดบึ้ง เขาต้องการพูดว่าไม่ใช่ว่าเขาต้องการคุกเข่าอย่างนี้ แต่มันเป็นเพราะเขาไม่สามารถขยับตัวได้ต่างหาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)