เจิ้นป่าเจ่าจ้องมี่ตั้วตั้วอย่างดุร้าย เขาไม่นึกว่าเรื่องราววันนี้มันจะยุ่งยากขนาดนี้
โดยเฉพาะตอนนี้ที่มี่ตั้วตั้วได้นำผู้เชี่ยวชาญกลุ่มใหญ่มาและบวกกับความแข็งแกร่งของมี่ตั้วตั้วเอง ทำให้เจิ้นป่าเจ่าตระหนักว่าวันนี้เขาไม่สามารถแก้แค้นได้สำเร็จแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าให้กับมี่ตั้วตั้ว และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าผู้แซ่เจิ้นจะจำเรื่องวันนี้ไว้ ถ้าข้ามีโอกาสเมื่อไหร่ ข้าจะไปเยี่ยมผู้อาวุโสถึงตระกูลมี่แน่นอน!”
“นายท่านพวกเรายังกลับไม่ได้ นายน้อยยังอยู่ที่นี่!” ผู้คุ้มกันข้างเจิ้นป่าเจ่าพูดด้วยความกังวลใจ
“หืม?” เจิ้นป่าเจ่ามองไปยังบรรดาผู้เชี่ยวชาญของเขาที่กำลังช่วยกันพยุงเจิ้นสีชวงที่ยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสายตางุนงง
ในตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญ 4-5 คนกำลังดึงเจิ้นสีชวงอย่างสุดแรงให้ลุกขึ้น แต่ไม่ว่าพวกเขาจะช่วยกันดึงสักเท่าไหร่ร่างกายของเจิ้นสีชวงก็ยังถูกตรึงนิ่งไม่ไหวติงแม้แต่น้อย
“พวกเจ้าทั้งหมดมันไม่ได้เรื่อง!” เจิ้นป่าเจ่าคำราม
คนตั้งมากแต่กลับไม่สามารถทำให้คนคนเดียวขยับเขยื้อนตัวได้ไง?
ก่อนหน้านี้ขณะที่เขากำลังคุยกับหลิงตู้ฉิงและมี่ตั้วตั้ว เขาคิดว่าลูกน้องของเขาได้ช่วยน้องชายเขาไปนานแล้ว แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเจิ้นสีชวงยังคงคุกเข่าอยู่
อันที่จริง ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นที่กำลังช่วยดึงเจิ้นสีชวงกันอยู่ พวกเขาใกล้จะหลั่งน้ำตาออกมาแล้ว พวกเขาไม่สามารถดึงเจิ้นสีชวงขึ้นมาได้และไม่กล้าใช้วิธีการที่รุนแรง พวกเขาจึงทำได้เพียงออกแรงดึงอย่างสุดความสามารถเท่านั้น
“พวกเจ้าหลบไป ข้าเอง!” เจิ้นป่าเจ่าตะโกน
หลังจากที่ผู้คุ้มกันออกไป เจิ้นป่าเจ่าสูดลมหายใจและโคจรพลังวิญญาณทั้งหมดในร่าง เขานั่งยองและกอดร่างกายของเจิ้นสีชวง
อันที่จริงแล้วเจิ้นป่าเจ่าเองไม่ได้โง่ขนาดนั้น เพียงแค่เห็นผู้เชี่ยวชาญหลายคนของเขาร่วมมือกันแล้วยังดึงเจิ้นสีชวงขึ้นมาไม่ได้ เขาก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขารู้ว่าหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญนั้นมีระดับการบ่มเพาะอยู่ในขอบเขตควบแน่นลมปราณระดับ 7 แต่กลับไม่สามารถดึงเจิ้นสีชวงให้ลุกขึ้นได้?
เขาใช้กำลังเต็มที่เพื่ออุ้มเจิ้นสีชวงขึ้น แต่เมื่อเขาได้ลองด้วยตัวเอง เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาพยายามอุ้มภูเขาทั้งลูก ไม่เพียงแต่เขาล้มเหลวในการอุ้มเจิ้นสีชวงขึ้นมา เขายังสะดุดและเกือบจะล้มหงายหลังไปอีกด้วย ใบหน้าของเขาแดงก่ำและดวงตาของเขาก็แทบพ่นไฟได้เมื่อเขามองหลิงตู้ฉิง รังสีสังหารอันเข้มข้นก็ถูกเปิดเผยโดยไม่มีการปกปิดใด ๆ
แม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะรู้สึกถึงรังสีสังหารอันเข้มข้น แต่เขาก็ไม่สนใจและพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่ซื้อประตูใหม่ให้ข้า น้องชายเจ้าจะต้องคุกเข่าและเฝ้าประตูนี้ต่อไป ต่อให้เจ้าจะเรียกเทพมาช่วยเขามันก็ไร้ประโยชน์”
เจิ้นป่าเจ่าสบถกับตัวเองอยู่สักพักก่อนจะตะโกนขึ้นอย่างอาฆาต “ได้! ข้าจะซื้อประตูให้เจ้า!”
หลิงตู้ฉิงมองเขาพลางพยักหน้างึก ๆ โดยไม่พูดอะไรเลย
เจิ้นป่าเจ่าหยิบแหวนมิติที่ภายในเต็มไปด้วยเหรียญทองออกมา จากนั้นเขาโคจรพลังวิญญาณจนถึงจุดสูงสุดและขว้างแหวนออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี “ในแหวนนี่มีเหรียญทอง 100,000 เหรียญ น่าจะเพียงพอสำหรับประตูระยำของเจ้าใช่ไหม!”
“ท่านหลิงระวัง!” มี่ตั้วตั้วรีบเตือนอย่างเร่งร้อน
แม้ว่าจะเตือนหลิงตู้ฉิง แต่มี่ตั้วตั้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าไปช่วย เนื่องจากจริง ๆ แล้วมี่ตั้วตั้วเองก็ต้องการเห็นความแข็งแกร่งของหลิงตู้ฉิงเช่นกัน
ภายใต้การเขวี้ยงของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตควบแน่นลมปราณระดับ 9 ต่อให้แหวนมิติวงเล็ก ๆ จะไม่ใช่อาวุธก็ตาม แต่ด้วยความเร็วการพุ่งมาของมันหากโดนปะทะเข้าไปเต็ม ๆ ความรุนแรงของมันก็ไม่แตกต่างจากการถูกม้าวิ่งชน
อย่างไรก็ตาม ภาพที่มี่ตั้วตั้วเห็นก็ทำให้เขาตกตะลึง เพราะแหวรมิตินั้น เมื่อมันพุ่งเข้าไปใกล้หลิงตู้ฉิง ความเร็วของมันกลับลดลงอย่างกระทันหันและค่อย ๆ ลอยตกลงบนฝ่ามือของเขาอย่างนุ่มนวล
เมื่อหลิงตู้ฉิงเก็บแหวนมิติที่เจิ้นป่าเจ่าเขวี้ยงมาแล้ว เขาจึงชี้นิ้วออกไปทางเจิ้นสีชวงทำลายรูปแบบของอักขระเวทย์ที่เขาวาดไว้รอบกายของเจิ้นสีชวง
เจิ้นสีชวงที่ถูกตรึงให้คุกเข่ามาเป็รเวลานาน เมื่อถูกปลดปล่อยจากการพันธนาการ เขาก็ล้มลงไปนอนกับพื้นทันที เขาอ้าปากเพื่อพยายามตะโกนอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากลำคอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)