คำพูดของมี่ตั้วตั้วทำให้มี่ไลตกตะลึงในทันที
นางเป็นถึงบุตรสาวคนโตของผู้นำตระกูลมี่ นางจะไปเป็นบ่าวรับใช้ให้ตระกูลอื่นได้ไง?
“ท่านพ่อ! ท่านเลอะเลือนไปแล้วรึไง?” มี่ไลพูดกับมี่ตั้วตั้วเสียงต่ำ
มี่ตั้วตั้วพูดอย่างมั่นใจ “ในชีวิตพ่อของเจ้า การตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดนอกจากการตั้งชื่อเจ้าสองคนพี่น้อง มันอาจจะเป็นการตัดสินใจครั้งนี้! เชื่อพ่อสิ พ่อของเจ้าไม่เคยทำเรื่องผิดพลาดในชีวิต มิฉะนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่พ่อจะพัฒนาหอการค้ามี่ตั้วตั้วให้รุ่งเรืองได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ”
“แต่…ท่านจะให้ลูกสาวของท่านไปเป็นบ่าวรับใช้คนอื่น แล้วทุกคนจะมองข้ายังไง?” มี่ไลพูดอย่างว่องไว
มี่ตั้วตั้วพูดในทันที “พ่อรู้…แต่เชื่อพ่อ…คนที่หัวเราะทีหลังย่อมดังกว่า ในอีกไม่กี่ปี เจ้าคอยดูได้เลยว่าใครจะหัวเราะเยาะเจ้าได้บ้าง”
มี่ไลส่ายหัวและพูดด้วยความไม่เชื่อว่า “ทะ ท่าน! ต้องไม่ใช่พ่อของข้าอย่างแน่นอน หรือไม่ท่านก็ต้องบ้าไปแล้ว!”
มี่ตั้วตั้วเหม่อมองไปไกลอย่างไม่มีจุดหมายและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เจ้าได้สังเกตทุก ๆ อย่างของหลิงตู้ฉิงดีแล้วหรือยัง ทั้งอากัปกริยา ทั้งสีหน้า ทั้งความเยือกเย็นของหลิงตู้ฉิงหลังจากที่เราเข้าไปในเรือนของเขา รวมถึงสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในเรือน”
มี่ไลขมวดคิ้วแน่นในขณะที่นางเริ่มนึกถึงสภาพแวดล้อมภายในลานกลางเรือน
มี่ตั้วตั้วไม่รอคำตอบจากมี่ไล เขาพูดต่อ “พ่อเห็นระดับการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิง ซึ่งอยู่ในระดับจุดสูงสุดขอบเขตหลอมรวมลมปราณ แต่เมื่อเขาเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญในระดับขอบเขตประสานทะเลปราณอย่างข้าและคนตระกูลเจิ้นที่มาสร้างปัญหาให้ หลิงตู้ฉิงกลับไม่มีปฏิกิริยาตื่นกลัวใด ๆ เลย”
“ยิ่งกว่านั้นเจ้าสังเกตสายตาของพวกเด็ก ๆ หรือไม่ พวกเขาทั้งหมดมองหลิงตู้ฉิงอย่างตื่นเต้น ไม่มีท่าทางหวาดกลัวเลยสักนิด ซึ่งทั้งหมดนี้มันผิดปกติมาก! นอกจากนี้ถังชี่หยุนที่เจ้าเชิญมาให้ตระกูลหลิงก็ยังมองหลิงตู้ฉิงด้วยความชื่นชม”
“ปัจจุบันระดับบ่มเพาะของถังชี่หยุนอยู่ที่จุดสูงสุดขอบเขตควบแน่นลมปราณ แต่นางกลับมองหลิงตู้ฉิงด้วยความชื่นชม ทั้ง ๆ ที่นางเป็นผู้ฝึกตนในระดับที่สูงกว่าหลิงตู้ฉิงอยู่หนึ่งขอบเขตเต็ม ๆ และเจ้าเห็นเจิ้นสีชวงที่นั่งคุกเข่าในตระกูลหลิงโดยไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ไหม? ตระกูลเจิ้นพาคนมาตั้งมากมายแต่ยังไม่สามารถทำให้เจิ้นสีชวงที่นั่งคุกเข่าอยู่เคลื่อนไหวได้เลย เจ้าคิดว่ามันไม่แปลกหรือยังไง? แม้ภายหลังจะสามารถลุกขึ้นได้ แต่ก็เป็นเพราะหลังจากที่หลิงตู้ฉิงอนุญาตให้ลุกขึ้นเท่านั้น จากที่พ่ออธิบายให้เจ้าฟังทั้งหมด เจ้ายังคิดว่าหลิงตู้ฉิงเป็นคนธรรมดาอยู่ไหม?”
มี่ไลพูดเสียงเบาว่า “ก็จริงที่มันแปลก แต่ข้าก็ยังไม่เข้าใจว่าทำำมท่านพ่อต้องให้ข้าวไปเป็นบ่าวของเขาอยู่ดี!”
มี่ตั้วตั้วหยุดเหม่อและหันมามองดูมี่ไลด้วยแววตาเป็นประกาย “นั่นก็เพราะ พ่อเคยเห็นวิธีการแบบนี้มาก่อน! ตอนที่สมัยพ่อยังเป็นเด็ก ปู่ของเจ้าพาพ่อไปที่สำนักจันทราเคลื่อนคล้อย ที่นั่นพ่อได้เห็นการต่อสู้อันยิ่งใหญ่”
คนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 9 ส่วนอีกคนเพิ่งบรรลุเข้าสู่ขอบเขตการประสานทะเลปราณ ในตอนนั้นทุกคนที่ชมการประลองต่างก็คิดว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราต้องเป็นเป็นฝ่ายชนะแน่นอน แต่แล้ว..เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นมันก็แทบจะจบลงทันที”
“เมื่อสัญญาณการประลองเริ่มขึ้น ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณได้โบกมือวาดลวดลายบางอย่างบนอากาศและจากนั้นร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 9 ก็ถูกแยกออกเป็นสองส่วนและดับสิ้นชีวิตลงทันที พ่อจำภาพการต่อสู้ในครั้งนั้นได้ดีและพ่อคงไม่มีวันลืมตลอดชีวิตของพ่อ ต่อมาพ่อก็ได้รู้ว่าผู้ที่ชนะการประลองในครั้งนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวท หลังจากสอบถามคนรู้จักและค้นคว้าหาข้อมูลเป็นเวลานาน ในที่สุดพ่อก็เข้าใจตัวตนอันน่าสะพรึงของผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทคืออะไร ถ้าจะให้พูดง่าย ๆ คือ ผู้เชี่ยวชาญอักขระเวท เป็นกลุ่มคนที่ศึกษาวิชานอกรีต แต่มีความสามารถที่จะท้าทายศัตรูที่อยู่เหนือกว่าขอบเขตของตนเองได้ พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ศึกษาพลังแห่งกฎต่าง ๆ ในโลกใบนี้ ตราบใดที่พวกเขาบรรลุความเข้าใจกฎของโลกใบนี้มากพอ การสังหารศัตรูที่มีระดับขอบเขตเหนือกว่าก็ไม่ยากอีกต่อไป”
“หลังจากที่พ่อได้ฟังเจ้าพูดถึงวีรกรรมของหลิงตู้ฉิงที่สถาบันหงส์เพลิง และวันนี้พ่อเห็นวิธีที่หลิงตู้ฉิงใช้กับเจิ้นสีชวง ดังนั้นพ่อจึงค่อนข้างมั่นใจว่าหลิงตู้ฉิงจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทแน่นอน”
“เจ้ายังรู้สึกอับอายที่ต้องเป็นคนรับใช้ของคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้อีกงั้นเหรอ? เมื่อใดที่ผู้คนรู้ว่าหลิงตู้ฉิงนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวท เมื่อนั้นจะมีผู้คนมากมายที่แข็งแกร่งกว่าเจ้า สถานะสูงกว่าเจ้า เข้าแถวเรียงกันขอยอมเป็นบ่าวรับใช้ให้เขา”
“แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ความสามารถที่แท้จริงของเขา นี่จึงเป็นโอกาสอันดีงามของเจ้า และเพื่อที่จะเข้าใกล้กับเขาเจ้าจำเป็นต้องเป็นบ่าวรับใช้ของเขาก่อน และในอนาคตเจ้าต้องทำให้เขาแต่งงานกับเจ้าให้ได้และยิ่งถ้าเจ้าสามารถให้กำเนิดทายาทสักคนสองคนให้กับเขาได้ด้วยยิ่งดี แต่ต่อให้เจ้าจะไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้ เจ้าก็ยังมีโอกาสได้รับคำชี้แนะจากเขา”
“ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมในตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของเขาถึงต่ำมาก บางทีอาจจะมีอะไรเกิดอะไรขึ้นกับเขามาก่อนหน้านี้ แต่เจ้าจงจำไว้ว่าถ้าเจ้าร่วมมือกับเขา เมื่อใดที่เขาแข็งแกร่งเพียงพอ เจ้าจะได้รับผลประโยชน์ที่เจ้าไม่สามารถจะจินตนาการถึงได้เลย”
หลังจากพูดจบเขาก็ตบไหล่ของมี่ไลอย่างหนักหน่วงและพูดว่า “ลูกรักของพ่อ อนาคตของเจ้าขึ้นอยู่กับตัวเจ้าแล้วตราบใดที่เจ้ายินยอมอยู่รับใช้เขา ชื่อเสียงตระกูลมี่ของเราจะต้องรุ่งเรืองมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน! เอาล่ะ เจ้ากลับไปที่ตระกูลหลิงก่อน ส่วนบ่าวรับใช้ที่เหลือพ่อจะส่งพวกเขามาที่นี่หลังจากกลับไปถึงคฤหาสน์ตระกูลเรา”
หลังจากพูดจบมี่ตั้วตั้วก็รีบเดินกลับไปพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญที่เขานำมา เขาทิ้งความยุ่งเหยิงในใจให้มี่ไลที่ยังยืนอยู่ตรงทางเข้าของตระกูลหลิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)