หลิวเฟ่ยเฟ่ยซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ นางรู้สึกขบขันเมื่อเห็นว่าจูหยงเฉียนต้องการเชื้อเชิญหลิงตู้ฉิงเข้าไปรับตำแหน่งขุนนางของอาณาจักรแห่งนี้
หลังจากที่จูหยงเฉียนจากไป หลิวเฟ่ยเฟ่ยก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในที่สุดและพูดว่า “นายท่าน ถ้าคนผู้นั้นรู้ว่ายี่เทียนกำลังรวมทะเลชางหมาง ข้าสงสัยว่าปฏิกิริยาของเขาจะเป็นอย่างไร?”
ทุกคนในตระกูลหลิงรู้ดีว่าหลิงยี่เทียนกำลังรวมทะเลชางหมางของเขาอย่างตั้งใจ
เมื่อตอนที่พวกเขาจากมา อาณาจักรจันทราได้รวมเกาะหลายเกาะเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว และไม่ช้าก็เร็วทุกเกาะหรือทวีปในทะเลชางหมางทั้งหมดจะถูกรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
สำหรับอาณาจักรอี้จิ๋นที่มีอาณาเขตอยู่ใกล้เคียงกับทะเลชางหมาง แน่นอนว่าพวกเขาจะเป็นอาณาจักรต่อไปที่หลิงยี่เทียนจะเข้าโจมตีด้วย และเมื่อถึงเวลานั้น พวกเขายังจะยินดีเชื้อเชิญหลิงตู้ฉิงที่เป็นบิดาของจักรพรรดิอาณาจักรจันทราให้มาเป็นขุนนางของพวกเขาเองอีกงั้นเหรอ?
แต่อันที่จริงจะโทษว่าพวกเขาเหล่านี้โง่เง่าก็ไม่ถูก เนื่องจากด้วยความเร็วของกงหนิวที่ใช้เวลาเดินทางมาถึงที่นี่นั้นเร็วมากเกินไป มันเร็วเกินกว่าข่าวแผนการรวบรวมทะเลชางหมางของหลิงยี่เทียนจะมาถึงที่นี่ จนทำให้คนเหล่านี้ไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงจริง ๆ แล้วเป็นใครกันแน่
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ช่างพวกเขาไปก่อนเถอะ เจ้าเองน่ะรีบ ๆ ไปฝึกวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่งของเจ้าได้แล้ว”
หลิวเฟ่ยเฟ่ยเหลือบมองไปที่หลิงตู้ฉิง นางลุกขึ้นด้วยท่าทีหว่านเสน่ห์และพูดว่า “สามี หลังจากที่ท่านทำเรื่องของท่านเสร็จแล้ว วันนี้ท่านก็มาที่ห้องของข้าก็แล้วกัน พี่หญิงมี่ไลวันนี้นางกำลังบ่มเพาะอย่างเคร่งเครียดอยู่ นางคงไม่ว่างรับใช้ท่านหรอกท่านสามีของข้า…”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเพื่อแสดงว่าเขาเข้าใจ
เสี่ยวเยว่เฟิง ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เขาแสร้งทำเป็นหูทวนลมกับคำพูดเหล่านี้
ในขณะเดียวกับที่จูหยงเฉียนเพิ่งจากไป ก็มีใครบางคนที่อยู่ด้านนอกมาขอพบกับหลิงตู้ฉิงอีกครั้ง
เสี่ยวเยว่เฟิงรีบลุกขึ้นเพื่อออกไปดูข้างนอก จากนั้นนางก็กลับมารายงาน “นายท่าน เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของเมืองเจินไห่ ชื่อของเขาคือ ฮ่องกวง เขาบอกว่าเขามีเรื่องสำคัญมากที่เขาอยากจะคุยกับนายท่าน ท่านอยากจะพบกับเขาไหม?”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดขึ้นว่า “อืม ไปตามเขาเข้ามา และมาดูกันว่าเขาอยากจะพูดอะไร”
ไม่นานต่อมา ฮ่องกวงก็เข้ามาด้านใน เขายิ้มและพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “ขอคารวะ ท่านผู้สูงศักดิ์!”
“ถ้ามีอะไรจะพูดก็รีบพูดออกมา” หลิงตู้ฉิงเผยมือแสดงท่าทางอนุญาต
เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ ฮ่องกวงจึงพยักหน้าแสดงออกว่าเขาเข้าใจและเขาก็ลดเสียงลงโดยไม่รู้ตัว “ท่านหลิง ตระกูลจื่อและจางเป็นตระกูลที่ค่อนข้างใหญ่โตและทั้งสองตระกูลนั้นมีความมั่งคั่งอยู่พอสมควร ตอนนี้เสาหลักของตระกูลพวกเขาถูกท่านและคนของท่านสังหารไปแล้ว ฉะนั้นที่ตระกูลของพวกเขาตอนนี้จึงกำลังระส่ำระส่ายนี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีในการยึดทรัพย์สินของพวกเขา แต่บังเอิญว่าในตระกูลจื่อและตระกูลจางก็ยังคงมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์เหลืออยู่ตระกูลละ 1 คน ข้าต้องการร่วมมือกับท่านเพื่อกำจัดผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ของพวกเขาด้วยกัน เมื่อถึงเวลาเราสามารถฉกทรัพย์สินของพวกเขามาได้ ข้าขอส่วนแบ่ง 40 ส่วน และท่านจะได้ 60 ส่วน”
เมื่อได้ยินข้อเสนอเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงจ้องไปที่ฮ่องกวงโดยไม่พูดอะไร
การที่ถูกหลิงตู้ฉิงจ้องมองแบบนี้ ฮ่องกวงก็พูดขึ้นอีกรอบอย่างกระอักกระอ่วนว่า “เอ่อ…ถ้าหากว่าท่านมีปัญหาเรื่องส่วนแบ่ง งั้นเอาเป็นว่าทางข้าเองขอส่วนแบ่งเพียงแค่ 30 ส่วน ก็พอส่วนท่านเอาไป 70 ส่วนเลยเป็นไง?”
“ข้าไม่สนใจที่จะทำเรื่องเหล่านี้!” หลิงตู้ฉิงพูดว่า “ตราบใดที่พวกเขาไม่ยั่วยุข้าอีก ข้าก็ไม่รู้สึกติดใจอะไรต่อพวกเขา แต่ถ้าหากว่าพวกเขาต้องการแก้แค้นข้า ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะฆ่าพวกเขาให้หมดเช่นกัน เอาล่ะเจ้ากลับไปได้แล้ว!”
ฮ่องกวงที่ได้ยินเช่นนี้รู้สึกไม่เต็มใจที่จะจากไป แต่หลังจากที่เห็นว่าหลิงตู้ฉิงทำท่าจะหมดความอดทน ฮ่องกวงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันหลังจากไป
หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้ว “เฟิง เจ้าจงไปทำประกาศเหมือนกฎการเข้าพบข้าของคฤหาสน์สราญรมย์ที่ทางเข้าหมู่ตึกหยูอี่ด้วย! จงปิดประกาศไว้สำหรับผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะขอบเขตนภาขึ้นไปพวกเขาจะต้องจ่ายค่าเข้าไปเป็นวัสดุราชวงศ์เป็นค่าเข้า ส่วนระดับการบ่มเพาะที่ต่ำกว่านั้นพวกเขาจะต้องจ่ายเป็นวัสดุระดับสูงแทน”
หลิงตู้ฉิงไม่สนใจคำแนะนำของฮ่องกวงเลย
เขาจำเป็นต้องใช้วิธีเข่นฆ่าเพื่อให้ได้มาซึ่งความมั่งคั่งงั้นเหรอ? ไม่! เขาไม่ต้องการกลับไปใช้วิธีเดิมที่เคยใช้ในชีวิตก่อนหน้านี้
ในชีวิตนี้ แค่การฆ่าคนสักคนหนึ่งเขายังต้องคิดแล้วคิดอีก ดังนั้นลืมไปได้เลยกับการที่ต้องให้เขามามีส่วนร่วมในการฆ่าล้างตระกูลของผู้อื่นที่มีจำนวนคนนับร้อยชีวิต
เสี่ยวเยว่เฟิงยิ้มและพูดว่า “นายท่าน ข้าเข้าใจแล้ว!”
จากนั้นนางก็เขียนกฎที่ทางเข้าหมู่ตึกหยูอี่ ในขณะที่นางกำลังเขียนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์อีกคนก็วิ่งเข้ามาและยิ้มอย่างสุภาพ “แม่นาง ข้าชื่อ หวงไท่อี้ จากตระกูลหวง ข้ามาที่นี่เพื่ออยากขอเข้าพบเจ้าของหมู่ตึกหยูอี่”
เสี่ยวเยว่เฟิงที่ได้ยินผู้มาใหม่พูดขึ้น นางจึงชี้ไปที่กฎที่วางอยู่ข้างประตู
หวงไท่อี้ตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะหยิบวัสดุระดับราชวงศ์ออกมา และส่งให้นางด้วยท่าทีงุนงง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)