เมื่อสีเป่ยเซียะเข้าไปในสวนด้านหลังหมู่ตึกหยูอี่ และเห็นว่าหลิงตู้ฉิงกำลังปรับแต่งกระบี่บินให้อยู่ในระดับราชวงศ์ขั้นสูงสุด นางก็รู้สึกตกตะลึงและพบว่ามันมีอะไรบางอย่างแปลก ๆ
นอกจากอักขระเวทย์และการหลอมโอสถแล้วเขายังรู้วิธีปรับแต่งอาวุธด้วยงั้นเหรอ?
ความสามารถเช่นนี้นี่คือปีศาจชนิดใดกันแน่?
คนที่สามารถฝึกฝนเต๋าอักขระเวทย์ได้จนถึงระดับนี้ก็นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะแล้ว และถ้าหากยังสามารถฝึกฝนเต๋าโอสถจนสามารถหลอมโอสถระดับสวรรค์ได้อีกเขาสามารถถูกขนานนามได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบ แต่ถ้ายังสามารถมีทักษะการสร้างสมบัติวิเศษได้อีกอย่าง แบบนี้ไม่ใช่อัจฉริยะ แต่เป็นสัตว์ประหลาด!
“เชิญนั่ง!” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างไม่แยแส สายตาของเขายังคงอยู่ที่กระบี่บินในมือเพราะมันกำลังจะเป็นรูปเป็นร่าง
สีเป่ยเซียะพยักหน้าเล็กน้อย และนั่งตรงข้ามหลิงตู้ฉิงโดยไม่พูดอะไร
ในทางกลับกัน หยูเอ๋อเกือบจะระเบิดความโกรธของนางออกมา และตะโกนด่าหลิงตู้ฉิงที่กล้าดูหมิ่นองค์หญิงของนางโดยการแสดงท่าทีไม่แยแสเช่นนี้
แต่เนื่องจากองค์หญิงของนางและหลิงตู้ฉิง ทั้งสองฝ่ายต่างได้พบกันแล้ว และสีเป่ยเซียะก็ไม่ได้พูดอะไร นางจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามและทำได้แค่ยืนอยู่ข้าง ๆ สีเป่ยเซียะพลางจ้องมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยแววตาเย็นชา
หลังจากนั้นในไม่กี่อึดใจ หลิงตู้ฉิงก็ได้สร้างกระบี่บินในมือเสร็จ จากนั้นต่อหน้าสีเป่ยเซียะ หลิงตู้ฉิงก็ได้เดินไปที่ค่ายกลเพื่อสับเปลี่ยนกระบี่บินอันใหม่เข้าไป ซึ่งทำให้อำนาจของค่ายกลกระบี่เพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็หันกลับมาและยิ้มให้สีเป่ยเซียะ “เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับค่ายกลกระบี่ของข้า?”
“คุณชายเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง…” สีเป่ยเซียะถอนหายใจ
ในตอนที่หลิงตู้ฉิงเปลี่ยนกระบี่บิน มันทำให้นางรู้สึกได้ถึงพลังของค่ายกลกระบี่ที่เปลี่ยนแปลงไปจนนางอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน
เหตุผลที่หลิงตู้ฉิงเอ่ยถามขึ้นนั้นจุดมุ่งหมายของเขาไม่ใช่เพื่อโอ้อวดต่อสีเป่ยเซียะ แต่เพื่อเตือนนางว่าเขามีความสามารถพูดคุยกับนางได้อย่างเท่าเทียมกัน
“สายตาไม่เลว” หลิงตู้ฉิงยิ้มและเดินกลับมานั่งที่นั่งของเขา
สีเป่ยเซียะหัวเราะ “ข้าเป็นคนที่ได้รับการฝึกฝนจนเข้าสู่ขอบเขตนักบุญ ดังนั้นแน่นอนว่าสายตาของข้าย่อมไม่เลว ด้วยเหตุนี้ข้าจึงรีบออกจากเมืองหลวงทันทีหลังจากได้ยินชื่อเสียงของคุณชาย”
“แล้วยังไงต่อ?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น
“ข้าอยากเชิญให้คุณชายมาอยู่กับอาณาจักรข้า!” สีเป่ยเซียะพูดอย่างตรงไปตรงมา “ไม่ใช่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา แต่เป็นแขกผู้มีเกียรติ ตราบใดที่คุณชายเห็นด้วยและตราบใดที่ค่าตอบแทนที่คุณชายต้องการนั้นสมเหตุสมผล ข้ารับปากว่าได้ว่าข้าจะทำให้ท่านพึงพอใจได้อย่างแน่นอน”
หยูเอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยินข้อเสนอนี้ขององค์หญิงของนาง นางตื่นตระหนกเป็นอย่างมากพลางคิดในใจ ‘นี่ไม่ใช่ว่าองค์หญิงของนางกำลังจะยื่นเงื่อนไขให้ชายผู้นี้ขออะไรก็ได้เพื่อเป็นสิ่งตอบแทนไม่ใช่หรือ?’
เมื่อพบกับหญิงสาวที่งดงามเช่นสีเป่ยเซียะ ไม่ใช่ว่าคนหยาบคายผู้นี้จะถือโอกาสเรียกร้องอะไรที่มันยอดแย่จากองค์หญิงของนางอย่างนั้นเหรอ?
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของหลิงตู้ฉิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากที่ได้ยินข้อเสนอ ราวกับว่าเขาไม่เห็นว่าสีเป่ยเซียะนั้นน่าดึงดูดแค่ไหน เขาส่ายหัวและพูดว่า “ข้าว่าข้าเคยบอกคนของเจ้าไปแล้วนะว่าข้าไม่สนใจ!”
สีเป่ยเซียะแสดงสีหน้าสงสัยและถามว่า “ทำไมล่ะ? ถึงแม้ว่าคุณชายจะมีความสามารถ แต่ท่านเองก็ยังต้องการผู้สนับสนุนเพื่อช่วยให้ท่านพัฒนาตัวเองและบรรลุเป้าหมายบางอย่างที่ท่านไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ ไม่เช่นนั้นมันจะน่าเสียดายมากสำหรับความสามารถที่คุณชายมีอยู่ทุกวันนี้หากไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างถูกต้อง”
สีเป่ยเซียะรู้สึกสนใจในตัวของหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างมาก เพราะความสามารถที่เป็นดั่งสัตว์ประหลาดของเขาที่สามารถบรรลุเต๋าอักขระเวทย์ หลอมโอสถ สร้างอาวุธวิเศษและค่ายกลไปจนถึงระดับที่น่ากลัวได้ขนาดนี้
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “อาณาจักรอี้จิ๋นของเจ้าดีแค่ไหนกัน?”
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงได้ดูถูกอาณาจักรอี้จิ๋น หยูเอ๋อซึ่งอยู่ด้านข้าง นางไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปและตะคอกเสียงดังว่า “อาณาจักรอี้จิ๋นของเราเป็นหนึ่งในห้าอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งที่สุดในอาณาเขตนภา แถมตอนนี้พวกเรายังมีคนที่มีความสามารถมากมาย ซึ่งเพียงพอที่จะรวบรวมอาณาจักรทั้งหมดในอาณาเขตนภาให้เป็นหนึ่งเดียวกับเราได้ทั้งหมดอีกด้วย!”
สีเป่ยเซียะ ซึ่งฟังอยู่ก็ไม่พอใจกับการใช้คำพูดเชิงดูหมิ่นอาณาจักรอี้จิ๋นของนางเช่นนี้เหมือนกัน นางจึงปล่อยให้หยูเอ๋อพูดออกมาและเมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงไม่ได้โต้แย้งอะไร นางจึงยิ้มพูดเสริมต่อ “อาณาจักรอี้จิ๋นของเรามาจากสำนักสายธารทองคำ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)