แม่ของเย่ชิงเฉิงทิ้งไว้เพียงเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของนางในห้วงจิตสำนึกเท่านั้น หากเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณปกติแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ว่าระดับการบ่มเพาะของนางอยู่ในขอบเขตใด
แต่ในทางกลับกัน การที่ผู้เชี่ยวชาญสามารถแบ่งเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของตัวเองไปฝังไว้ในห้วงจิตสำนึกของผู้อื่นได้มันพิสูจน์ได้ว่า แม่ของเย่ชิงเฉิงอย่างน้อยที่สุดนางคือผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตราชัน
แม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะไม่สามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันได้ในตอนนี้ แต่หลิงตู้ฉิงก็มั่นใจว่าด้วยวิธีการลับของเขา เขาสามารถที่จะลบเศษเสี้ยวจิตวิญญาณซึ่งต่อให้เจ้าของอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเขาก็ยังทำได้โดยไม่มีปัญหา
เย่ชิงเฉิงเหลือบมองไปที่หลิงตู้ฉิง เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงยังคงต่อล้อต่อเถียงกับนางต่อ นางจึงขี้เกียจที่จะเถียงอะไรกับเขาอีก ไม่ว่าจะยังไงก็ตามแม่ของนางก็บอกแล้วว่านางจะต้องแต่งงานกับหลิงตู้ฉิง
ยิ่งไปกว่านั้นปัญหาของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ยังคงต้องได้รับการแก้ไขจากเขาอยู่ ดังนั้นการต่อล้อต่อเถียงกันไปให้ยืดยาวมันจึงไม่เป็นผลดีอะไรสักเท่าไหร่
“ค่ายกลกระบี่นี้มันคือค่ายกลกระบี่อะไร?” เยว่ชิงเฉิงถาม
หลิงตู้ฉิงตอบกลับทันที “ความลับของข้า ข้าไม่บอกกับใครไปทั่วหรอกนะ”
เยว่ชิงเฉิงอดไม่ได้ที่จะเกิดอารมณ์โมโหที่ได้ยินเช่นนี้ “นี่แม่ของข้าให้ข้าแต่งงานกับเจ้าแล้ว เจ้ายังคิดว่าข้าเป็นคนอื่นอีกงั้นเหรอ?”
“มันเป็นแค่คำสัญญาทางวาจาที่เจ้าพูดขึ้นมาเท่านั้น” หลิงตู้ฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “แต่ถ้าเจ้าอยากรู้จริง ๆ ก่อนที่เจ้าจะมาเป็นภรรยาของข้าอย่างเต็มตัว เจ้าก็ต้องทำสัญญากับข้า ถ้าทำเช่นนั้นข้าก็บอกเจ้าได้เช่นกัน”
ได้ยินเช่นนี้ อารมณ์ของนางพุ่งปรี้ดทันที!
จากสิ่งที่เขาพูด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องร่วมหอกันก่อนงั้นเหรอ? เขารีบขนาดนี้เพื่ออะไร? เขาไม่ได้ขาดผู้หญิงนี่นา มีผู้หญิงอยู่เคียงข้างเขาอยู่แล้วทำไมมันดูเหมือนว่ากระหายอยากได้นางถึงขนาดนี้อีก?
แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะต้องไปถึงจุดนั้นอยู่แล้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ตาม แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าเขาและนางค่อย ๆ ทำความรู้จักกันไปก่อน จนมีความรู้สึกที่ผูกพันธ์กันมากกว่านี้?
นางจ้องมองหลิงตู้ฉิงอย่างเกลียดชังก่อนที่จะเดินจากไป
ในแง่หนึ่งนางโกรธหลิงตู้ฉิง อีกเหตุผลก็คือนางต้องไปจัดการกับเรื่องอื่น ๆ ของนาง
เมื่อเดินออกจากหมู่ตึกหยูอี่ โม่เอ๋อที่เห็นเย่ชิงเฉิงหุนหันเดินออกมาอาคารอีกแล้ว นางก็รู้สึกไม่พอใจหลิงตู้ฉิงมากเข้าไปอีก
แต่น่าเสียดายที่นางเองก็ไม่รู้ว่าคุณหนูของนางโกรธเรื่องอะไรมา ดังนั้นในฐานะคนรับใช้นางจึงไม่กล้าเอ่ยถามอะไร เนื่องจากมันจะดูเป็นการก้าวก่ายเรื่องของเจ้านายมากเกินไป
เย่ชิงเฉิงพาโม่เอ๋อกลับไปที่เรือนชั่วคราวของพวกนางในเมืองเจินไห่ จากนั้นนางนำสมบัติวิเศษระดับเซียนของสำนักอักขระวิญญาณออกมา และมอบมันให้กับหญิงวัยกลางคน “ป้าหลัน ครั้งนี้ข้าคงต้องรบกวนให้ท่านนำมันกลับไปคืนให้กับสำนักอักขระวิญญาณแล้วล่ะ นอกจากนี้บอกกับพวกเขาด้วยว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องนำสมบัติใด ๆ มามอบให้กับเราอีก และท่านอย่าลืมย้ำเตือนกับพวกเขาด้วยว่าเรื่องราวความขัดแย้งของพวกเขากับหลิงตู้ฉิง นับแต่นี้มันต้องจบลง แต่ถ้าหากพวกเขากล้าที่จะทำให้สามีในอนาคตของข้าขุ่นเคืองอีกล่ะก็ข้าก็ยินดีที่จะทำให้สำนักของพวกเขาราบเป็นหน้ากลอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ชิงเฉิงทุกคนก็ตกใจ พวกเขาต่างถามขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กันว่า “สามีในอนาคต!?”
เย่ชิงเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดว่า “แม่ของข้าได้ตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว หลิงตู้ฉิงมีความสำคัญต่อสำนักเราเป็นอย่างมากในเรื่องของการช่วยแก้ปัญหาให้กับสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเรา ดังนั้นเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ในอนาคตข้าจึงจะต้องแต่งงานกับเขา”
เย่หยูหลันพูดว่า “คุณหนู เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปทำไมท่านต้องด่วนประกาศเร็วขนาดนี้ แม้ว่านายหญิงจะเห็นด้วย แต่ข้าคิดว่าเราควรพูดคุยกันเรื่องนี้อีกทีหลังจากที่หลิงตู้ฉิงได้แก้ปัญหาให้พวกเราสำเร็จแล้ว!”
ชายชราอีกคนพูดว่า “ข้าก็เห็นด้วยกับคำพูดของหยูหลัน ตอนนี้มีเพียงพวกเราเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นชื่อเสียงของท่านยังคงไม่แปดเปื้อนใด ๆ แม้แต่น้อย เราควรจะพูดคุยเรื่องนี้อีกทีหลังจากที่คนแซ่หลิงได้แก้ปัญหาให้เราแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)