พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 335

ในชั่วพริบตาเวลาก็ผ่านไปอีก 1 ปี

ในช่วงปีที่ผ่านมา หุบเขาบุปผาอนันต์ค่อนข้างสงบ

เนื่องจากครึ่งปีที่แล้ว ได้มีผู้เชี่ยวชาญพเนจรผู้หนึ่งทำการสังหารศิษย์หุบเขาบุปผาอนันต์ไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์นี่มันทำให้ซือเสี่ยวฮุยโกรธแค้นเป็นอย่างมาก นางไล่ล่าผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นไปกว่า 3,000 กิโลเมตรและสังหารผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นที่ระดับการบ่มเพาะอยู่ในระดับนักบุญลงอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับนำหัวของเขามาเสียบประจานไว้ที่หน้าประตูสำนัก หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะล่วงเกินศิษย์ของหุบเขาบุปผาอนันต์อีกเลย

แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครกล้ามาล่วงเกินพวกนาง แต่เหล่าศิษย์ของหุบเขาบุปผาอนันต์ก็ไม่รู้สึกว่าตัวของพวกนางนั้นโชคดีอะไรมากนัก พวกนางทั้งหมดต่างใช้ชีวิตอยู่ในสำนักด้วยอาการสั่นกลัว

ทุกคนรู้ดีว่าแม้ว่าสำนักของพวกนางจะมีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งคอยปกป้องอยู่ในสำนัก แต่ผู้เชี่ยวชาญผู้นี้ก็เป็นทั้งเทพผู้พิทักษ์และยังเป็นยมฑูตที่รอเก็บเกี่ยววิญญาณของพวกนางไปด้วยเช่นกัน

เนื่องจากมันมีคำสั่งใหม่ที่ออกมาว่าถ้าศิษย์ทั้ง 3,000 คนไม่สามารถบรรลุวิชาบุปผาสยบมารได้ถึงขั้น 3 จนครบทุกคนก่อนที่กล้วยไม้หยกจะผลิบาน ยมฑูตตนนี้จะเอาชีวิตพวกนางทันทีเมื่อถึงเวลาเส้นตาย

ภายใต้บทลงโทษที่โหดร้ายเช่นนี้ ทุกคนในสำนักจึงต่างพร้อมใจกันปิดปากเงียบและตั้งใจฝึกฝนกันอย่างขะมักเขม้น

และในที่สุดการทำงานหนักของพวกนางก็บังเกิดผล ในช่วงเวลากว่า 1 ปี จำนวนศิษย์ของสำนักในหุบเขาบุปผาอนันต์ก็ได้มีมากกว่า 4,000 คน ซึ่งมีมากกว่า 3,000 คนที่ในตอนนี้ได้บรรลุวิชาบุปผาสยบมารไปถึงขั้น 3 เรียบร้อยแล้ว

“ท่านหลิง เท่านี้พอหรือยัง?” ซือเสี่ยวฮุยถามหลิงตู้ฉิง

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ดีมาก! นี่นับได้ว่าผลที่ออกมานั้นเหนือความคาดหมายของข้าไปซะอีก!:

“ถ้าอย่างนั้น ท่านจะให้เราทำอะไรต่อไปดี?” ซือเสี่ยวฮุยถาม

“ต่อไป จงรวบรวมศิษย์ทั้งหมดในหุบเขาบุปผาอนันต์และพาไปที่เมืองหยูหลัน!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น

ซือเสี่ยวฮุยพยักหน้า จากนั้นนางหันไปหาเหวินลู่หยาน “ลู่หยานรวบรวมศิษย์ทั้งหมดแล้วพาไปที่เมืองหยูหลัน!”

เมื่อได้ยินคำสั่ง เหวินลู่หยานกลับแสดงสีหน้าลังเล ราวกับนางตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

ในห้วงความคิดของนาง นางคิดว่าตอนนี้หุบเขาบุปผาอนันต์นั้นได้รับการพัฒนาไปจนเรียกได้ว่าแข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองหยูหลันแล้ว ดังนั้นการที่จะให้นางละทิ้งมันไปอย่างง่าย ๆ เช่นนี้มันจึงเป็นเรื่องที่นางตัดใจได้ยากเป็นอย่างมาก

นางมองไปที่หลิงตู้ฉิงและซือเสี่ยวฮุยอย่างไม่กล้าที่จะพูดอะไร แต่การแสดงออกบนใบหน้าของนางได้อธิบายทุกอย่าง

ในช่วงปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าซือเสี่ยวฮุยจะได้ฝึกฝนวิชาวัชระสงบจิตอยู่ทุกวัน ซึ่งมันทำให้ความโหดเหี้ยมของนางจึงถูกลดทอนลงพร้อมกับทำให้นางอ่อนโยนขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ถึงแม้จะรู้เช่นนี้ เหวินลู่หยานก็ยังคงไม่ลืมว่าสำนักกระบี่วารีนั้นถูกทำลายโดยคนที่อยู่ตรงหน้านาง

เมื่อเห็นการแสดงออกบนใบหน้าของเหวินลู่หยาน ซือเสี่ยวฮุยพูดอย่างเฉยเมย “เจ้าจะกลัวอะไร? เมื่อเราทำเรื่องของเหล่าเจ้านายเสร็จแล้ว หากมีใครกล้ามาบุกยึดหุบเขาบุปผาอนันต์ของเราในตอนที่เราไม่อยู่ ข้าจะฆ่าพวกมันทั้งหมดเอง”

เมื่อได้ยินที่ซือเสี่ยวฮุยเอ่ยปาก เหวินลู่หยานก็ทำได้เพียงแต่พยักหน้าและพูดว่า “ข้าจะรวบรวมศิษย์ทั้งหมดและเตรียมมุ่งหน้าไปยังเมืองหยูหลัน เอ่อ…ว่าแต่คุณชายหลิงและผู้อาวุโสซือ ต้องการพาพวกเราไปในเมืองหยูหลันเพื่อที่จะชิงกล้วยไม้หยกอย่างนั้นเหรอ?”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ไม่!”

ซือเสี่ยวฮุยหัวเราะอย่างเย็นชา “จริง ๆ แล้ว กล้วยไม้หยกนั่นคือ วิญญาณปีศาจ ไม่ใช่โอสถระดับสวรรค์อย่างที่ทุกคนคิดกัน ผู้ที่เคยได้สัมผัสกับกล้วยไม้หยกทั้งหมดจะกลายเป็นหุ่นเชิดของวิญญาณปีศาจ และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ข้าต้องทำลายสำนักกระบี่วารี เพราะว่าพวกเขานั้นเคยได้รับกล้วยไม้หยกนั่นไปแล้ว”

เหวินลู่หยานตัวสั่น เมื่อรู้เบื้องหลังอันน่าสะพรึงกลัวของกล้วยไม้หยกที่นางเชื่อมาตลอดว่ามันคือโอสถสวรรค์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)