เมื่อเข้ามาในห้อง หลิวเฟ่ยเฟ่ยยิ้มทันที “สามี ภรรยาของท่านมาแล้ว!”
หลิงตู้ฉิงไม่ได้พูดอะไรตอบโต้นาง แต่เขากลับยื่นหยกจันทราเยือกแข็งให้กับหลิวเฟ่ยเฟ่ยแทน
หลังจากฝึกฝนวิชาดรุณีเยือกแข็งมาเป็นเวลานาน หลิวเฟ่ยเฟ่ยจึงรู้ดีว่านางต้องการอะไร นางเข้าใจว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงไม่เลือกกระดูกศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับเลือกหยกจันทราเยือกแข็ง จากตำหนักเทพเหมันต์
นั่นเป็นเพราะหลิงตู้ฉิงต้องการนำหยกจันทราเยือกแข็งมาให้กับนาง
“สามี ข้าคิดว่าหากข้าหลอมรวมหยกจันทราเยือกแข็งเข้ากับร่างกายของข้าเมื่อไหร่ ข้าคิดว่าร่างของข้าคงจะต้องบรรลุไปถึงระดับ ร่างหยินทมิฬ แน่นอน!” หลิวเฟ่ยเฟ่ยพูดขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ถูกต้อง! และเมื่อร่างกายของเจ้าพัฒนาจนไปถึงระดับร่างหยินทมิฬเมื่อไหร่ ความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด!”
“เป็นเพราะข้า สามีของข้าเลยไม่ได้รับกระดูกศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งข้าต้องขออภัยต่อท่านด้วยจริง ๆ ”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะและพูดว่า “มันก็แค่กระดูกศักดิ์สิทธิ์ชิ้นเดียวเท่านั้นเอง สำหรับข้ามันก็เป็นแค่วัตถุที่ไว้ใช้สร้างสมบัติวิเศษเท่านั้น ถ้าข้าอยากได้มันในไม่ช้าก็เร็วข้าก็หามันมาได้ไม่ยากนักหรอก”
“ซึ่งถ้านำมาเทียบกับการที่จะทำให้เจ้าพัฒนาร่างกายไปถึงระดับร่างหยินทมิฬนั้นย่อมสำคัญกว่าแน่นอน ถึงแม้ว่าเจ้าจะบรรลุพลังไปถึงระดับน้ำแข็งทมิฬได้แล้ว แต่เมื่อเทียบกับมี่ไลและคนอื่น ๆ เจ้าก็ยังคงอ่อนแอกว่า แต่เมื่อไหร่ที่เจ้าพัฒนาร่างกายไปถึงระดับร่างหยินทมิฬได้ ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำของพลังของเจ้าและคนอื่น ๆ ก็จะหมดไป”
“เข้าใจแล้วสามี งั้นข้าจะพัฒนาร่างของข้าให้เร็วที่สุด!” แต่ก่อนที่หลิวเฟ่ยเฟ่ยจะจากไป นางก็เหลือบมองไปที่หลิงตู้ฉิง “ว่าแต่สามี ก่อนข้าจะไปท่านต้องการให้ข้าปรนนิบัติท่านก่อนไหม?”
“ไม่จำเป็น ตอนนี้เจ้าจงรีบไปพัฒนาร่างของเจ้าก่อนเถอะ!” หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดขึ้น “กล้วยไม้หยกนั่นมันจะปรากฏขึ้นในอีกไม่ช้า ดังนั้นเจ้าจงรีบพัฒนาร่างของเจ้าให้เร็วที่สุด”
หลิวเฟ่ยเฟ่ยพยักหน้า พลางหยิบหยกจันทราเยือกแข็ง และรีบเดินกลับห้องของนางเพื่อไปฝึกฝนต่อทันที
และในขณะเดียวกับที่หลิงตู้ฉิงเสร็จสิ้นจากการเตรียมการทุกอย่างให้กับคนในครอบครัวของเขา ปิงยู่หลางและครอบครัวของเขาก็มาถึงที่เรือนพอดี
เนื่องจากที่อยู่ของหลิงตู้ฉิงนั้นไม่ได้ถูกปกปิดเป็นความลับอะไรนัก ฉะนั้นมันจึงหาได้ง่ายมากและโดยเฉพาะถ้าหากยังไม่พูดถึงที่ลั่วหยุนก็ได้เอ่ยบอกไว้กับพวกเขาแล้วเช่นกัน
“ท่านหลิง ข้าน้อยผู้นี้คือ ปิงเจิ้งซู จากตำหนักเทพเหมันต์ ที่ข้ามาเยี่ยมท่านในครั้งนี้เนื่องจากข้าอยากจะฝากลูกชายของข้า ปิงยู่หลาง ให้ติดตามท่านไปสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ เมื่อถึงเวลานั้นโปรดท่านกรุณาช่วยดูแลลูกชายของข้าด้วย!” ปิงเจิ้งซูพูดกับหลิงตู้ฉิงด้วยน้ำเสียงเคารพ
ในท้ายที่สุดเขาก็เลือกที่จะเชื่อลั่วหยุน และพาลูกชายของเขามาพบหลิงตู้ฉิงล่วงหน้า
เมื่อพูดจบเขาก็มอบวัสดุ 15 ชิ้นและพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “นี่เป็นวัสดุทั้งหมดที่ท่านหลิงต้องการ ทางเราได้เตรียมพวกมันมาให้ท่านที่นี่ทั้งหมดแล้ว โปรดเชิญตรวจสอบดูก่อน”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ถ้างั้นก็ให้ลูกชายของเจ้ามาอยู่กับข้าก่อน ข้าสามารถนำเขาเข้าไปในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับด้วยกันกับข้าได้ แต่ข้าจะทำเพียงแค่นำเขาเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับเท่านั้น หลังจากเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกของเจ้าด้านในข้าจะถือว่าไม่ใช่เรื่องเรื่องของข้าอีกต่อไป จะว่าไปถ้าลูกชายของเจ้ากลายเป็นศัตรูของข้าในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ข้าก็อาจจะไม่ละเว้นเขา”
ปิงเจิ้งซูขมวดคิ้วแล้วยิ้ม “ข้าไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรแบบนั้นขึ้นแน่นอนท่านหลิง!”
ปิงเจิ้งซูตอบพลางคิดในใจว่า เนื่องจากทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในขอบเขตเดียวกัน มันจึงน่าจะเป็นไปยากที่พวกเขาจะกระทบกระทั่งกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจ
หลิงตู้ฉิงสลับมองไปยังปิงเจิ้งซู และปิงยู่หลาง จากนั้นก็หันกลับไปมองที่ปิงเจิ้งซู และพูดว่า “เอาล่ะ ในเมื่อตอนนี้เจ้าส่งเขาเสร็จเรียบร้อย เจ้าก็จงออกไปได้แล้ว”
คิ้วของปิงเจิ้งซูกระตุก เขายังคงฝืนยิ้มและพูดว่า “นอกจากลูกชายของข้าแล้วยังมีคนรับใช้เก่าที่จะคอยดูแลลูกชายของข้า ข้าหวังว่าท่านหลิงจะอนุญาตให้เขาอยู่ด้วย”
“อืม!” หลิงตู้ฉิงโบกมือส่งสัญญาณให้ปิงเจิ้งซูออกไป
ปิงเจิ้งซูแอบส่ายหัวอย่างลับ ๆ โดยคิดว่าเขาเองที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด ซึ่งกำลังจะทะลวงไปสู่ขอบเขตถัดไปได้อยู่แล้ว แต่หลิงตู้ฉิงกลับทำตัวหยาบคายกับเขาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าในอดีตเขาจะวิเศษวิโสมากสักแค่ไหน แต่ตอนนี้เขายังอยู่แค่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 10 เพียงเท่านั้น ไม่ใช่ว่าเขาควรจะทำตัวให้เกียรติผู้อื่นบ้างสักหน่อยจะไม่ได้เลยงั้นเหรอไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)