หลังจากที่หลิงตู้ฉิงยื่นยันต์สั่งสวรรค์ให้กับเสี่ยวเยว่เฟิง แต่หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์กลับมีท่าทีปฏิเสธ นางกลับลอยขึ้นไปลอยอยู่ด้านบนของค่ายกลกระบี่เหินเมฆาแทน
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์เช่นนี้ หลิงตู้ฉิงก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “เอาล่ะเฟิง เจ้าไม่ต้องไปใส่ใจกับนาง”
หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงก็หันกลับมาและสั่งคนอื่น ๆ “มอบแหวนมิติทั้งหมดให้กับโม่เอ๋อและเฟิง พวกเจ้าไม่สามารถนำสิ่งของอื่น ๆ ทั้งหมดที่เกินระดับสวรรค์ติดตัวเข้าไปได้”
ในขณะที่เขาพูด เขาก็เริ่มที่จะยื่นสิ่งของของเขาออกไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาหยิบสิ่งของอื่น ๆ ในร่างกายออกมา หลิงตู้ฉิงก็หยิบยันต์เคลือบหยก 3 แผ่นออกมาแล้วเดินออกมาจากค่ายกลกระบี่เหินเมฆา เขามอบหนึ่งแผ่นให้กับลั่วหยุนและอีกแผ่นให้กับเย่หยูหลัน
“ถ้าเกิดปัญหาที่เจ้าไม่อาจรับมือได้ให้ใช้มัน ข้าคิดว่าข้าคงไม่ต้องบอกวิธีใช้” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “แต่พวกเจ้าทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่อาณาเขตของค่ายกลกระบี่เหินเมฆา เนื่องจากตอนนี้มันถูกเปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นอย่าโทษข้าทีหลัง ถ้าพวกเจ้าเข้าไปและถูกสังหารลง”
ลั่วหยุนยิ้มอย่างขมขื่น เขาที่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชัน เหตุไฉนทำไมตอนนี้เขาถึงถูกปฏิบัติเหมือนกับคนรับใช้ได้แบบนี้กัน?
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อารมณ์เขากำลังค่อนข้างดีอยู่ เขาจึงไม่เก็บเอาการกระทำที่ดูน่ารำคาญของหลิงตู้ฉิงมาถือสาหาความนัก เขามองดูยันต์เคลือบหยกที่อยู่ในมือและเริ่มตรวจสอบมัน
ซึ่งภาพที่ถูกวาดลงบนยันต์เคลือบหยกนั้นมันเป็นภาพของกระบี่!
เมื่อเห็นเช่นนี้ ลั่วหยุนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับมันมากมายและเก็บมันลงไปในแหวนมิติพร้อมกับที่เย่หยูหลันก็ทำแบบนั้นเช่นกัน
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็ได้เดินกลับเข้าไปด้านในค่ายกลกระบี่เหินเมฆาและมอบยันต์เคลือบหยกแผ่นสุดท้ายให้กับโม่เอ๋อและพูดว่า “ถ้าค่ายกลกระบี่เหินเมฆาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ให้ใช้สิ่งนี้แทน แต่เวลาเจ้าใช้มัน จงอย่าถือมันไว้ในมือของเจ้า เแค่โยนมันออกไปหาเป้าหมายเท่านั้นก็พอ”
ยันต์เคลือบหยกที่โม่เอ๋อได้รับมาด้านในของมันถูกวาดขึ้นเป็นรูปวัตถุทรงกลม ซึ่งนางเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
เย่ชิงเฉิงมอบปึกหนึ่งของโองการจักรพรรดิให้โม่เอ๋อและพูดว่า “นี่คืออำนาจของขอบเขตราชันตอนปลายที่พ่อของข้าทิ้งไว้ ว่าแต่สามี ตอนนี้ในตัวข้านั้นมีหินจันทราศักดิ์สิทธิ์ และหยกวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์อยู่ในห้วงจิตสำนึก มันคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ตอนนี้พวกมันกำลังหลอมรวมกันเพื่อก่อตัวกลายเป็นสมบัติแห่งโชคชะตาประจำกายอยู่ภายในร่างของเจ้า ดังนั้นพวกมันจึงสามารถเข้าไปได้เพราะระดับของพวกมันจะคงอยู่ในระดับการบ่มเพาะเดียวกับของเจ้า เอาล่ะ ในเมื่อตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว พวกเรากลับเข้าไปด้านในรถม้าเพื่อเตรียมตัวเข้าไปกันก่อน! ลั่วเอ๋อ เจ้าเองก็ตามเข้ามารับกุญแจเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับไปด้วย พวกข้าจะเกาะติดไปกับร่างของเจ้าเพื่อเข้าไปด้านใน”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง อี้ลั่วเอ๋อก็เดินตามหลิงตู้ฉิงและคนของครอบครัวเขาเข้าไปด้านในรถม้าและรับกุญแจเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับมา แต่นางรู้สึกสับสนกับคำพูดของหลิงตู้ฉิง
อย่างไรก็ตาม เปลือกตาของนางเริ่มกระตุก เนื่องจากหลิงตู้ฉิงและครอบครัวของเขาทุกคนจู่ ๆ กลับหดตัวเล็กลงจนมีขนาดเท่ากับเมล็ดงา ซึ่งจุดเล็ก ๆ เหล่านั้นก็ได้ไปเกาะอยู่บนมือของนางแทน
ทักษะวิชาเช่นนี้มันคืออะไรกัน!?
“นายท่าน…” อี้ลั่วเอ๋อร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว
เมล็ดงาเล็ก ๆ พูดว่า “อย่าบอกใคร จงไปหาหลิงเฟิงและซือโถว จากนั้นก็เตรียมตัวเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับได้แล้ว!”
“เข้าใจแล้ว” อี้ลั่วเอ๋อรีบพูด หลังจากนั้นนางก็พาพวกเขาทั้งห้าเดินออกไปหาซือโถวเหวินหยวน และเสี่ยวหลิงเฟิงอย่างระมัดระวัง และพูดว่า “ข้าได้รับคำสั่งจากนายท่านให้พาพวกเจ้าเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับด้วยกัน!”
ซือโถวเหวินหยวนถามด้วยความประหลาดใจ “หืม? แล้วนายท่านและคนที่เหลืออยู่ที่ไหน?”
เขาไม่คิดว่าหลิงตู้ฉิงและคนของเขาจะยอมพลาดโอกาสเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแน่นอน ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่ยอมเสียความพยายามมากมายเพื่อให้ได้มาอยู่จนถึงจุดนี้
อี้ลั่วเอ๋อพูดอย่างเรียบเฉย “เรื่องของนายท่านไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถเข้าไปยุ่งได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปกันเถอะ!” ซือโถวเหวินหยวนพยักหน้า หลังจากนั้นทั้งสามก็เดินออกจากค่ายกลกระบี่เหินเมฆาและมุ่งหน้าไปยังทางเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)