พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 385

“พวกเจ้าเข้าไปต่อได้!” ลั่วหยุนส่งข้อความทางโทรจิตให้กับตวนจู้และคนกลุ่มเดียวกับนางที่ยังรออยู่

เนื่องจากเรื่องทั้งหมดได้รับการคลี่คลายลงเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่านับจากนี้คงไม่มีใครจากสันเขาทรราชที่จะกลับมาอีก

พวกเขาได้ใช้ไพ่ตายใบใหญ่ที่สุดของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว และมันกลับถูกสะบั้นลงด้วยกระบี่เพียงกระบี่เดียวจนสลายหายไปเป็นผุยผง พวกเขาจะยังกล้าแบกหน้ากลับมาได้ยังไง?

ตวนจู้และกลุ่มของนาง เมื่อได้รับคำสั่งก็เคลื่อนตัวเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับต่อในทันที และด้วยการดำรงอยู่ของลั่วหยุนและคนอื่น ๆ ที่ถือโองการจักรพรรดิไว้อยู่ในมือ มันจึงไม่มีใครกล้าโจมตีกลุ่มของตวนจู้อีก

ภายใต้การจ้องมองของทุกคน แสงทั้งสามก็ได้เคลื่อนตัวเข้าไปด้านในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับลึกขึ้นเรื่อย ๆ

แต่แล้วจู่ ๆ เสียงระเบิดก็ดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งทุกคนต่างก็หันไปรอบ ๆ และเห็นว่าทิศทางที่มาของเสียงระเบิดนั้นก็คือทิศทางที่มาจากตำแหน่งที่กองทัพของอาณาจักรมังกรทะยานประจำการอยู่

จากนั้นไม่นาน คลื่นของผู้บ่มเพาะจำนวนนับไม่ถ้วนก็วิ่งกรูกันเข้ามายังทางเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ซึ่งแต่ละคนต่างแสดงอาการที่บ้าคลั่งแตกต่างกันออกไป

“ใครก็ตามที่ขวางทางข้า ข้าจะฆ่ามันให้หมด!”

“อายุขัยของข้าใกล้เข้ามาแล้ว ข้าต้องทะลวงขอบเขตต่อไปให้ได้!”

ผู้คนจำนวนมากต่างตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่งและพุ่งตัวเข้าไปที่ทางเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับโดยไม่สนใจว่าในร่างของพวกเขาจะมีกุญแจอยู่หรือไม่

ซึ่งหลังจากที่คนเหล่านั้นวิ่งเข้าไป ร่างของพวกเขาก็ถูกหมอกที่อยู่รอบ ๆ กลืนกินเข้าไปจนไร้ร่องรอยไปอย่างรวดเร็ว

“นี่คือเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ!” ลั่วหยุนถอนหายใจ “ทุกครั้งมันที่เปิดขึ้นผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตนเองได้ แต่มันก็ยังมีคนที่ต้องสิ้นชีวิตลงเป็นจำนวนอีกไม่นับถ้วนให้กับเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ”

สีเป่ยเซียะถอนหายใจจากด้านข้าง “เฮ้อ ไม่ใช่ว่าคนเหล่านั้นไม่รู้กฎของเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแต่เป็นเพราะพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น นับตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันข้ายังไม่เคยได้ยินว่ามีใครก็ตามที่สามารถผ่านเข้าไปได้ โดยการฝืนบุกเข้าไป”

ภายในค่ายกลกระบี่เหินเมฆา เสี่ยวเยว่เฟิง โม่เอ๋อ และคนอื่น ๆ จ้องมองไปที่กลุ่มแสงที่กำลังค่อย ๆ ลับตาพวกเขาเข้าไปในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ

พวกเขาทุกคนไม่ได้สนใจเลยว่าเมื่อครู่จะมีเหล่าคนที่โง่เง่าตายไปสักกี่คน สิ่งที่พวกเขาสนใจก็คือให้คนของตัวเองเข้าไป

พวกเขาไม่ได้โง่ เมื่อเห็นสถานการณ์ที่วุ่นวายขนาดใหญ่ภายนอกแต่หลิงตู้ฉิงกลับยังคงไม่ปรากฏตัวขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงเดาได้ว่า หลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ น่าจะต้องมีวิธีการบางอย่างเพื่อเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับไปแล้ว ไม่ว่าในกรณีใดพวกเขาต่างรู้สึกว่าหลิงตู้ฉิงลึกลับอย่างไม่น่าเชื่อ และสามารถทำเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน ส่วนวิธีการนั้นพวกเขาไม่รู้

เมื่อเห็นว่า ‘กลุ่มแสง’ ได้จางหายไปแล้ว เสี่ยวเยว่เฟิงและโม่เอ๋อสบตากันก่อนจะหัวเราะ “นายท่านกับนายหญิงเข้าไปแล้ว!”

จากนั้นเสี่ยวเยว่เฟิงก็พูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง “ข้าล่ะกังวลจริง ๆ ว่าน้องสาวซื่อบื้อของข้าจะมีโชคมากพอที่จะได้รับผลประโยชน์อะไรมาบ้างไหม แม้ว่านางจะเข้าไปได้ก็จริง แต่นางก็คงจะต้องเผชิญกับการทดสอบนับไม่ถ้วนที่รออยู่ด้านในนั้น”

“ไม่ต้องกังวล หากมีนายท่านอยู่ด้วย น้องของเจ้าจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก!” โม่เอ๋อปลอบใจ

ในขณะนี้อี้ลั่วเอ๋อและเสี่ยวหลิงเฟิงก็สังเกตเห็นว่า ซือโถวเหวิยหยวนที่มากับพวกนางได้หายไปแล้ว

“เขาไปไหนแล้ว?” เสี่ยวหลิงเฟิงอดไม่ได้ที่จะตกใจเมื่อเห็นเช่นนี้

อี้ลั่วเอ๋อหัวเราะ “เขาได้เข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแล้วไป! ผู้ที่อยู่ในขอบเขตนภาจะเป็นคนแรกที่ถูกส่งตัวเข้าไป สำหรับพวกเรา พวกเรายังคงอยู่ในเส้นทางการเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ แต่เจ้าไม่ต้องกลัว นายท่านและครอบครัวของนายท่านก็ได้เข้ามาด้วยกับเราเช่นกัน หลังจากที่เจ้าถูกส่งตัวเข้าไปแล้ว เจ้าจงตามหาพวกเขาก่อนเป็นอันดับแรก! ส่วนข้าเองที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดารา ข้าเองก็คงจะต้องถูกส่งตัวไปเข้าไปในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน”

เมื่อพูดจบ อี้ลั่วเอ๋อวางเมล็ดงาจำนวนหนึ่งลงบนพื้นอย่างใจเย็น และทันใดนั้นร่างของนางก็หายไปจากสายตา

เสี่ยวหลิงเฟิงตกใจมากที่เห็นเช่นนี้จนนางไม่ได้สังเกตว่า หนึ่งใน ‘เมล็ดงา’ นั้นหายไปด้วย

เสี่ยวหลิงเฟิงที่ตอนนี้ถูกปล่อยให้อยู่คนเดียว โดยไม่รู้ตัวนางกอดตัวเองไว้แน่น ซึ่งนางไม่ได้สังเกตเลยว่ายังมีเมล็ดงาอยู่ข้าง ๆ นาง

ในสถานที่ที่รอบด้านมืดมิดเช่นนี้ มันทำให้นางรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก

แต่ทันใดนั้นจู่ ๆ นางก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดที่มีอำนาจมหาศาลดึงร่างกายของนางไปยังอุโมงค์ที่มีแสงสว่างอยู่ปลายทาง ซึ่งนางเองก็กรีดร้องออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)