หวงซีมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความงุนงง นางรู้สึกได้ถึงเจตจำนงแห่งการสังหารที่คุ้มคลั่งจากร่างของหลิงตู้ฉิง ซึ่งมันทำให้นางอดไม่ได้ที่จะสั่นกลัว
คนที่ตั้งชื่อให้นางนั้นเป็นเป็นถึงบรรพจารย์ที่สุดแสนจะแข็งแกร่งของภูเขาฟีนิกซ์ เขากล้าพูดได้อย่างไรว่าจะฆ่าคนที่ตั้งชื่อให้นาง ด้วยระดับการบ่มเพาะขอบเขตประสานทะเลปราณ?
อย่างไรก็ตาม หากดูจากท่าทีของเขาแล้วนางเองก็แน่ใจว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น
นอกจากนี้ สำหรับคนที่มีความสามารถถึงขนาดทะลวงกำแพงแบ่งโลกขอบเขตและผนึกนางไว้ได้โดยใช้พลังแห่งกฎในสถานที่อย่างเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ นางไม่เคยได้ยินคนที่มีความสามารถเช่นนี้มาก่อน
ถึงแม้ว่าเขาจะมีความสามารถจริง นางก็ยังรับไม่ได้ เหตุใดบุคคลนี้จึงบังคับให้นางเปลี่ยนชื่อ?
ทำไมนางถึงไม่สมควรถูกเรียกว่า หวงซี?
นางเริ่มคิดหนัก
ทันใดนั้นนางก็จำได้ว่านางเคยได้อ่านข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวกับสิ่งต้องห้ามในภูเขาฟีนิกซ์ ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมนางถึงเคยได้อ่านข้อมูลลับสุดยอดแบบนี้นั้น เนื่องจากในฐานะที่นางเป็นองค์หญิงน้อย นางจึงมีโอกาสแอบอ่านข้อมูลนี้
ซึ่งในเนื้อหาของข้อมูลต้องห้ามนี้ บุคคลที่ชื่อหวงซีก็ได้ถูกบันทึกไว้ในนั้นอยู่เช่นกัน
แต่แล้วในช่วงเวลาที่นางเพิ่งจะเปิดอ่านหน้าแรก นางก็ถูกจับได้โดยผู้อาวุโสของนางซะก่อน ซึ่งจากนั้นนางก็ถูกพาตัวออกไปทันที
และหลังจากนั้นแม้ว่านางจะมีฐานะเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์สูงสุดในรอบหมื่นปีและเป็นคนที่ทุกคนในภูเขาฟีนิกซ์เอาอกเอาใจมากที่สุด นางก็ถูกต้องโทษโดยการต้องหันหน้าเข้ากำแพงเพื่อสำนึกผิดเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่นางถูกลงโทษและไม่มีใครกล้าออกหน้าแทนนาง
จากนั้นนางก็ไม่กล้าแอบดูข้อมูลต้องห้ามนั้นอีกเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดของหลิงตู้ฉิงในวันนี้ และพฤติกรรมแปลก ๆ ของเขา นางอาจจะลืมเหตุการณ์นี้ไปตลอดกาล
แม้ว่านางจะไม่รู้รายละเอียด แต่นางก็รู้อย่างชัดเจนว่านางมีชื่อเดียวกันกับใครบางคนในภูเขาฟีนิกซ์
ซึ่งมันอาจเป็นเพราะเหตุนี้ทำให้บุคคลที่ดูคล้ายกับปีศาจร้ายที่อยู่ตรงหน้านาง จึงจับตัวนางไว้และบอกให้นางเปลี่ยนชื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมเขายังย้ำเตือนกับนางว่านางไม่คู่ควรกับชื่อนั้น
หลังจากเงียบไปนาน นางก็เงยหน้าขึ้นและพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “ข้ารู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับชื่อของข้า แต่ข้าไม่รู้เหตุผลเบื้องหลังของมัน ในเมื่อเจ้าบอกว่าข้าไม่คู่ควรกับชื่อนั้น ถ้าเจ้าบอกเหตุผลกับข้า ข้ายินดีที่จะเปลี่ยนชื่อของข้าโดยที่ข้าจะไม่ปริปากบ่นออกมาแม้แต่ครึ่งคำ”
หลิงตู้ฉิงตอบด้วยรอยยิ้มเย็นชา “เจ้าจะอายุครบ 200 ปีในปีนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าบุคคลที่เจ้านำชื่อของนางมาใช้ตอนที่นางอายุ 200 ปีนั้นอยู่ในขอบเขตไหน? นางอยู่ในขอบเขตสวรรค์สามัญเข้าไปแล้ว! โดยที่รากฐานการบ่มเพาะของนางก็เหมือนกันกับเจ้าทุกอย่าง นางใช้รากฐานขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 14 ในการทะลวงขอบเขต!”
“ดังนั้นการที่เจ้ามีอายุครบ 200 ปี แล้วเพิ่งบ่มเพาะมาจนถึงแค่ขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 14 แล้วผู้คนมากมายต่างเยินยอว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะในรอบหมื่นปี นี่มันเป็นเรื่องที่น่าขันสิ้นดี! แล้วจากนั้นเจ้าคงไม่มีทางจินตนาการได้หรอกว่านางกลายเป็นตัวตนระดับไหนในท้ายที่สุด!”
“ข้ารู้ว่าเจ้าเคยเห็นข้อมูลมาก่อน แต่สำหรับสิ่งที่เจ้ารู้นอกเหนือจากคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ ข้ารู้ทุกอย่าง ดังนั้นเจ้าจงคิดให้ดีว่าเจ้าทำสิ่งใดไปบ้าง เจ้ามีสิทธิ์สมควรอะไรถึงได้รับชื่อนั้น? นอกเหนือจากฐานะองค์หญิงน้อยที่ทุกคนยินยอหรืออัจฉริยะที่ปรากฏตัวในรอบหมื่นปี เจ้ามันก็ไม่มีค่าอะไรมากไปกว่าตัวตนที่ทุกคนอุปโลกน์ขึ้น”
หวงซีก้มหัวลงช้า ๆ โดยไม่ตอบกลับแม้แต่คำเดียว
หลิงตู้ฉิงพูดต่อไปอย่างเย็นชา “แม้ว่าเจ้าจะได้รับการถ่ายทอดคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์มา แต่เนื้อหาที่เจ้าได้รับการถ่ายทอดมามันก็ไม่สมบูรณ์ด้วยซ้ำ เจ้ารู้เรื่องนี้รึเปล่า? เจ้าคิดว่าตัวเจ้าเองรู้จักคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ งั้นเหรอ?”
เมื่อนางได้ฟังมาถึงตรงจุดนี้ มันก็ราวกับว่านางมีความมั่นใจขึ้นมา หวงซีเงยหน้าขึ้นมองและพูดว่า “ข้าเข้าใจคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์…”
ก่อนที่นางจะพูดจบนางก็หุบปากลง เพราะนางสังเกตเห็นว่าร่างของหลิงตู้ฉิงถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงฟีนิกซ์และมีเงาของฟีนิกซ์ปรากฏอยู่ด้านหลังของหลิงตู้ฉิง ซึ่งมันทำให้นางไม่สามารถเอ่ยอะไรต่อไปได้อีก
นี่เป็นเพราะคนตรงหน้านางได้ฝึกฝนคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์จนถึงระดับภาพเสมือนแล้ว ซึ่งมันคือสัญลักษณ์บ่งบอกว่าคนผู้นี้ได้ฝึกฝนคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ไปจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบ
เมื่อเห็นเช่นนี้ นางจึงรีบโค้งคำนับลงต่อหน้าหลิงตู้ฉิงอย่างเคารพโดยไม่กล้าพูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)