ขณะนี้หลิงเทียนหยุน อี้ลั่วเอ๋อและหวงเซียะได้รออยู่ข้างนอกดาวจันทราเป็นเวลาเกือบ 1 ปีก่อนที่หลิงตู้ฉิงจะออกมา
ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่พวกเขาทั้งสามได้เฝ้าระวังพื้นที่ด้านนอกของดาวจันทรามานานกว่า 1 ปี มันก็ได้ดึงดูดความสนใจของเหล่าผู้คนที่ผ่านมาเห็น
อย่างไรก็ตาม ด้วยระดับการบ่มเพาะของหวงเซียะที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 14 ประกอบกับที่นางเป็นคนดัง แถมยังมีภูตนางฟ้าที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 13 ดังนั้นมันจึงไม่มีใครกล้าเข้ามาหาเรื่องกับพวกเขา
และด้วยเหตุผลอีกอย่างคือ ผู้คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในโลกขอบเขตรวมแสงดารานั้น เป้าหมายหลักของทุกคนคือการไล่ตามหาโชคและค้นหาโอกาสต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายบนดาวแต่ละดวง
หากไม่ใช่เพื่อการแข่งขันก็ไม่มีใครยอมสละเวลาเพื่อต่อสู้กัน
นอกเสียจากว่าจะมีความบาดหมางฝังลึกกันมานานจากโลกภายนอกก่อนที่จะเข้ามาในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแล้ว มันก็ไม่มีใครอยากจะพัวพันเสียเวลาไปกับการสู้รบกันสักเท่าไหร่
แต่แน่นอนว่ามันก็ยังมีบางคนที่เข้ามาทักทายพวกเขา แถมยังเชิญหวงเซียะและอี้ลั่วเอ๋อให้เข้าร่วมกลุ่มเพื่อออกไปตามหาโชคต่าง ๆ กับพวกเขา แต่เนื่องจากพวกนางกำลังรอหลิงตู้ฉิงอยู่ พวกนางทั้งคู่จึงปฏิเสธคนเหล่านั้นไปทั้งหมด
และในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 1 ปี หลิงตู้ฉิงก็ออกมา ซึ่งมันทำให้หวงเซียะดูมีความสุขมาก
เนื่องจากตั้งแต่ที่นางเข้ามาในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับนางก็มีโอกาสแค่ได้ฝึกฝนบนดาวสุริยะเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่เจอกับหลิงตู้ฉิงเพียงเท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้นนางก็ยังไม่มีโอกาสได้ฝึกอะไรต่อเลย
และในตอนนี้ที่หลิงตู้ฉิงได้ออกมาแล้ว เขาก็ควรจะพานางไปที่ที่เหมาะสมกับนางใช่ไหม?
“ไปต่อที่ดาวอเวจี!” หลิงตู้ฉิงพูด
เนื่องจากทุกคนเข้าใจดีว่าหลิงตู้ฉิง คือคนที่รู้เกี่ยวกับเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับดีที่สุด พวกเขาทุกคนจึงไม่มีใครคิดจะถามอะไรเกี่ยวกับคำสั่งของเขา
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งสามก็ติดตามหลิงตู้ฉิงมาจนถึงดาวที่เป็นจุดหมาย
“นี่คือดาวอเวจีงั้นเหรอ ทำไมมันถึงเล็กได้ขนาดนี้?” หวงเซียะอดไม่ได้ที่จะถาม
ดาวอเวจีที่อยู่ข้างหน้ามีขนาดเล็กมาก ดาวทั้งดวงมีความกว้างเพียง 10 ถึง 15 เมตร ซึ่งถ้าเทียบกับดาวดวงต่าง ๆ ในโลกขอบเขตรวมแสงดารามันก็ถือว่าเป็นดาวที่ค่อนข้างเล็กมาก
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดขึ้นว่า “อย่าดูถูกเพราะมันเล็ก สาเหตุที่มันเล็กมากเพราะคนธรรมดาไม่สามารถเข้าใจได้ เอาล่ะเข้าไปกันเถอะ!”
จากนั้นทุกคนก็ค่อย ๆ บินเข้าไป แต่เมื่อพวกเขายิ่งบินเข้าไปใกล้กับดาวดวงนี้มากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าในใจของพวกเขาหนาวเหน็บขึ้นมากเท่านั้น
ที่สำคัญที่สุดคือพวกเขารู้สึกราวกับว่าวิญญาณของพวกเขากำลังจะบินออกจากร่าง
“ข้ากำลังจะเสียการควบคุมดวงวิญญาณที่แท้จริงของข้า…” หวงเซียะมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าหม่นหมองขณะที่นางพูด
“งั้นเจ้าจงไปรออยู่ข้างนอกก่อน ข้าจะกลับออกไปในเวลาไม่นาน” เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็ใช้มือผลักร่างของหวงเซียะให้ถอยกลับออกไปให้พ้นเขตของดาวอเวจี
ส่งผลให้นางล่องลอยออกไปอย่างควบคุมไม่ได้ แต่นางก็รู้สึกได้ว่าอาการของนางเองก็เริ่มจะดีขึ้นจากระยะที่นางยิ่งลอยห่างออกจากดาวอเวจี
สำหรับหลิงเทียนหยุนและอี้ลั่วเอ๋อ เนื่องจากในร่างของพวกเขามีพลังที่มีความสัมพันธ์พิเศษกับดาวดวงนี้ พวกเขาจึงไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวของพวกเขา ในทางกลับกันพวกเขากลับรู้สึกคุ้นเคยกับมันอีกต่างหาก
“ท่านพ่อ ข้ารู้สึกได้ว่าที่นี่มันเหมือนมีร่องรอยของพลังของเก้าเทพอสูรอยู่ข้างใน” หลิงเทียนหยุนพูดกับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าสงสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)