เมื่อหลิงตู้ฉิงมองไปยังผลึก จากนั้นจู่ ๆ มันก็ปล่อยแสงหลากสีออกมาทันที ส่งผลให้ภาพที่ปรากฎขึ้นตรงเขาก็ได้เปลี่ยนไปเป็นภาพฉากอันยิ่งใหญ่ที่ดูไม่คุ้นเคย
ภาพที่เขาเห็นในตอนนี้ก็คือภาพของโลกโบราณ ที่มีทวีปอันกว้างใหญ่จนสุดลูกหูลูกตาอยู่ห้าทวีป
ขนาดแต่ละทวีปนั้นมันมีขนาดใหญ่ซะยิ่งกว่ามหาพิภพไร้จุดจบซะอีก ซึ่งแม้แต่หลิงตู้ฉิงเองเขาก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าแต่ละทวีปนี้ใหญ่แค่ไหน
และในโลกอันกว้างใหญ่นี้ อัจฉริยะที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ที่เหนือกว่าทุกคนที่เคยเกิดมาก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
อัจฉริยะผู้นี้ใช้เวลาเพียง 100 ปี ในการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์สามัญ
จากนั้นเมื่อ 500 ปีผ่านไป อัจฉริยะผู้นี้ก็ได้ก้าวไปสู่ขอบเขตจักรพรรดิแล้ว
หลังจากนั้นอีกหมื่นปีต่อมา อัจฉริยะผู้นี้ก็ได้ทะลวงขึ้นไปถึงขอบเขตที่ไม่มีผู้ใดสามารถเดาได้และจากนั้นเขาก็เริ่มสร้างโลก
อย่างไรก็ตามโลกนี้ไม่สามารถสร้างขึ้นจากมวลสารใด ๆ
แต่อัจฉริยะผู้นี้ กลับใช้พลังวิญญาณของตัวเองในการดึงเส้นปราณทวีปออกจากทวีปทั้งห้า ซึ่งเส้นปราณทวีปจากทั้งห้าทวีปก็คือ โลหะ ไม้ น้ำ ไฟและดิน เส้นปราณเหล่านี้คือเส้นปราณที่คอยส่งพลังหล่อเลี้ยงทวีปทั้งห้า
และก็ตามคาด ภายใต้การออกแบบของอัจฉริยะผู้นี้ โลกของเขาถูกสร้างขึ้นจนสำเร็จ
อย่างไรก็ตามเส้นปราณที่เขาดึงมันมาสร้างโลกของเขานั้น มันคือรากฐานที่สำคัญที่สุดของความมั่นคงของทวีปทั้งห้า และในเมื่อเขาได้แยกเส้นปราณของทวีปทั้งห้าออกมาแล้ว ทวีปทั้งห้าที่ไม่ได้รับการค้ำจุนจากเส้นปราณก็แตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย สิ่งมีชีวิตทั้งหลายถูกทำลายเกือบจะทั้งหมด มีเพียงผู้ที่เชี่ยวชาญระดับสูงเท่านั้นที่ยังพอสามารถเหนี่ยวรั้งชิ้นส่วนบางส่วนของทวีปที่แตกออกจากกันและปกป้องชีวิตของผู้คนที่เหลือรอดอยู่บนชิ้นส่วนเหล่านั้นได้
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับผู้ที่ตายไปแล้วนั้นความแตกต่างของผู้ที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากตายนัก
โลกทั้งโลกหยุดนิ่งและเต็มไปด้วยความแค้นและกลิ่นอายแห่งความตาย
ส่วนทางด้านของอัจฉริยะผู้นั้น เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องราวความหายนะที่บังเกิดขึ้นจากเขาเลยแม้แต่น้อย เขาสนใจแค่เพียงการจดจ่ออยู่กับการปรับแต่งโลกของตัวเอง
เขายังคงดึงเส้นปราณของทวีปทั้งห้าอย่างต่อเนื่อง และค่อย ๆ นำมันหลอมรวมเข้ากับโลกของเขาทีละน้อย จนโลกของเขาก็เริ่มแสดงการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลาย
สิ่งแรกที่ปรากฏขึ้นก็คือพลังวิญญาณและพลังธาตุทุกประเภทตลอดจนองค์ประกอบพื้นฐานที่สุดของโลก หลังจากที่องค์ประกอบพื้นฐานที่สุดของโลกได้ก่อตัวขึ้น เต๋า 3,000 รูปแบบก็ค่อย ๆ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างและกลายเป็นเหมือนดวงดาวที่แขวนอยู่เต็มไปทั่วท้องฟ้า
จากนั้นเมื่อท้องฟ้าได้เต็มไปด้วยดวงดาวแล้ว มิติและอาณาเขตต่าง ๆ ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น
“นี่มันคือกระบวนการก่อตัวขึ้นของเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ…” หลิงตู้ฉิงพึมพำกับตัวเองขณะที่เขามองไปที่ฉากเหล่านั้น “ไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าเมื่อครั้งบรรพกาลมันจะมีทวีปใหญ่อยู่ห้าทวีป ส่วนมหาพิภพไร้จุดจบ นั้นก็เป็นเพียงผลลัพธ์หลังจากที่ทั้งห้าทวีปได้ถูกทำลาย!”
หลิงตู้ฉิงยังคงมองดูด้วยสีหน้างงงวย
เห็นได้ชัดว่าโลกที่ก่อตัวขึ้นในฉากนั้นก็คือเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับและในตอนท้าย เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับก็ไม่ได้พัฒนาไปเป็นโลกที่สมบูรณ์และอัจฉริยะผู้นั้นก็เสียชีวิตลง
ว่าแต่ทำไมเขาถึงตาย?
ความลับนี้เป็นสิ่งที่หลิงตู้ฉิงต้องการจะรู้ที่สุด
ในขณะนี้ฉากที่เขาเห็นนั้นก็คือฉากที่อัจฉริยะผู้นั้นกำลังดึงเส้นปราณทั้งห้าเส้นของห้าทวีปเข้าไปหลอมรวมกับโลกของเขา ซึ่งมันส่งผลให้ทั้งห้าทวีปที่แตกสลายไปแล้วก็ค่อยพังทลายหนักเข้าไปใหญ่ จนมันทำให้ตอนนี้มีผู้คนหลายคนนั้นไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่มีระดับการบ่มเพาะที่สูงส่งต่างร่วมมือกันโจมตีอัจฉริยะผู้นั้นจากทุกทิศทุกทาง
อย่างไรก็ตาม อัจฉริยะผู้นั้นแข็งแกร่งเกินไป!
ในขณะที่เขาดึงเส้นปราณทวีปทั้งห้าอย่างรุนแรง เขาก็ต่อต้านอำนาจแห่งสวรรค์และโลกรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญจำนวนมหาศาลไปด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)