เมื่อหลิงตู้ฉิงเดินออกจากรถม้า คนอื่น ๆ ก็ทำตาม
ในบรรดาคนกลุ่มใหญ่ที่เดินตามหลิงตู้ฉิงออกมา มีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญเพียง 2 คนซึ่งก็คือ เสี่ยวเยว่เฟิงและโม่หยูถัง เท่านั้นส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ในขอบเขตนภาและขอบเขตรวมแสงดารา
หลงเฉินและคนอื่น ๆ ก็ประหลาดใจมากเมื่อเห็นคนกลุ่มนี้พลางคิดในใจ ‘คนพวกนี้คือเป้าหมายของเขาจริง ๆ งั้นเหรอ?’
เขาหันกลับไปและถามจางหมิง “ใช่คนพวกนี้รึเปล่า?”
“ใช่! เป็นพวกมัน! เป็นพวกมันทั้งหมด!” จางหมิงพยักหน้า
เขารู้จักหลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ อยู่แล้ว แถมเขาเองก็เป็นผู้ให้ข้อมูลของอาณาจักรจันทรากับอาณาจักรหลงซานด้วยตัวเอง แล้วเขาจะดูพลาดได้อย่างไร?
ครั้งล่าสุดที่เขามายังอาณาจักรจันทราก็ตั้งแต่ตอนที่เขาตามหยูเฉิงฮุยมาที่นี่ ซึ่งเขาก็เกือบพลาดถูกจับตัวได้ แต่ในตอนนั้นเขายังโชคดีที่หลิงว่านถิง ผู้น่าสงสารยังคงมีใจให้กับหยูเฉิงฮุย เขาจึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ตอนนี้ที่จางหมิงได้มาถึงอาณาจักรจันทราอีกครั้ง ครั้งนี้จางหมิงเต็มไปด้วยความมั่นใจ เพราะเขาเชื่อว่าด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญจำนวนมากขนาดนี้ พวกเขาจะสามารถทำลายล้างตระกูลของหลิงตู้ฉิงได้อย่างแน่นอน
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกข้าทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้วพวกเจ้าน่าจะพอใจใช่ไหม?”
หลงเฉินมองไปที่หลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ และถามว่า “จักรพรรดิของพวกเจ้าอยู่ที่ไหน?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงยี่เทียนก็ก้าวออกมาและถามขึ้น “ข้าอยู่นี่ เจ้ามีอะไร?”
หลงเฉินยิ้มออกมา “ข้าคิดว่าพวกเจ้าคงเห็นสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างชัดเจนแล้ว หากเจ้าฉลาดเจ้าก็ควรจะรู้ว่าอาณาจักรจันทราของเจ้าไม่มีโอกาสรอดแน่นอน ดังนั้นถ้าเจ้าไม่อยากตายเจ้าก็จงมอบสมบัติมิติและบอกความลับของทะเลชางหมางรวมถึงมอบผู้หญิงสองคนนั้นให้กับข้าแต่โดยดี!”
หลิงยี่เทียนหัวเราะและพูดว่า “พวกศัตรูของข้าหลายคนก็เคยพูดแบบนี้ แต่สุดท้ายพวกมันทั้งหมดถ้าไม่ตายก็ตกอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของอาณาจักรจันทราของข้า ซึ่งอาณาจักรหลงซานของเจ้าเองเดี๋ยวก็จะมีชะตากรรมไม่ต่างอะไรจากไอ้พวกศัตรูก่อนหน้านี้ของข้าเช่นกัน ส่วนสำหรับเจ้า ถ้าเจ้าอยากรอดชีวิต เจ้าก็จงมอบจักรพรรดิสุนัขของพวกเจ้าและไอ้สารเลวที่เรียกว่าหยูเฉิงฮุยมาให้ข้าโดยเร็วที่สุด!”
ในขณะที่พวกเขากำลังต่อล้อต่อเถียงกัน ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญทั้ง 70 คน ที่หลงเฉินเป็นผู้พามาก็ได้ล้อมกรอบกลุ่มของหลิงตู้ฉิงไว้หมดทุกทิศทางแล้ว
แต่ครอบครัวของหลิงตู้ฉิงกลับเมินเฉยราวกับว่ากลุ่มคนพวกนี้ไม่มีค่าอะไรให้ใส่ใจ
“เจ้าหมายความว่าเจ้าต้องการขัดขืนจนถึงที่สุดเลยงั้นสิใช่ไหม?” หลงเฉินถามขึ้น
ก่อนที่หลิงยี่เทียนจะพูดอะไร หลิงตู้ฉิงยิ้มและถามว่า “เจ้าคือคนของเผ่ามังกรใช่ไหม?”
หลงเฉินรู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าคือเผ่ามังกร เช่นนั้นก็จงรีบยอมจำนนซะตั้งแต่ตอนนี้ดี ๆ พูดตามตรงข้าเองก็ขี้เกียจจะเปลืองแรงลงมือกับพวกเจ้าเหมือนกัน”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ดีจริง ๆ ที่เจ้ามาจากเผ่ามังกร พวกเจ้าเผ่ามังกรนับได้ว่ามีความแข็งแกร่งพอใช้ได้เหมาะที่จะลากรถม้าให้ข้านับจากนี้ไป!”
แม้ว่าความเร็วของกงหนิวจะรวดเร็ว แต่เขาก็สามารถฝึกฝนได้ถึงขอบเขตนภาระดับ 10 เท่านั้น แม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะมีวิธีการฝึกกงหนิวแต่ราคาที่เขาต้องจ่ายมันก็สูงเกินไป
ยิ่งไปกว่านั้นจุดเริ่มต้นที่กงหนิวต้องมาลากรถม้านั้นก็เพราะเขาเคยทำผิดเอาไว้จึงต้องลากรถม้าเป็นการชดใช้ ดังนั้นด้วยความสัมพันธ์เช่นนี้มันจึงไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่หลิงตู้ฉิงต้องทุ่มเทอะไรให้มันมากมายเพื่อเลี้ยงดูเขา
แต่ในเมื่อตอนนี้กลับมีมังกรระดับสวรรค์สามัญมาปรากฏตัวที่นี่ มันจึงกลายเป็นโอกาสเหมาะพอดีของหลิงตู้ฉิงที่จะเปลี่ยนสัตว์วิเศษตัวใหม่ให้มาลากรถม้าให้เขา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลงเฉินมืดลงทันที เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าอยากตายมากสินะ?”
กงหนิวที่ตอนนี้อยู่ในร่างกระทิงปีศาจอเวจีมองไปที่หลงเฉินด้วยสีหน้าซับซ้อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)