เจิ้นป่าเจ่าเคยส่งคนให้ไปสืบเรื่องราวของหลิงตู้ฉิงมาแล้วหลายครั้ง
เขาพอจะรู้ว่าพ่อของหลิงตู้ฉิงนั้นเป็นลูกคนใหญ่คนโตในเมืองหลวง แต่ความสัมพันธ์พ่อของหลิงตู้ฉิงกับญาติทางเมืองหลวงนั้นไม่ค่อยจะดีนัก และเมื่อไม่กี่ปีมานี้พ่อและแม่ของหลิงตู้ฉิงได้หายตัวไป ส่งผลให้ฐานะของหลิงตู้ฉิงหลิงเริ่มตกต่ำลง เขายากจนข้นแค้นเป็นอย่างมากถึงขั้นต้องนำสมบัติเก่ามาขายเพื่อประทังชีวิต ส่วนในด้านความสามารถส่วนตัวนั้นก็ไม่ได้มีอะไรดีเด่เลย กระทั่งรากฐานทางจิตวิญญาณยังไม่มี หลิงตู้ฉิงมีชื่อเสียงในทางดีเพียงอย่างเดียวคือใจบุญสุนทานอุปการะเด็กกำพร้าจำนวน 7 คนเอาไว้ในบ้าน
ในเวลานี้ เจิ้นป่าเจ่ารู้สึกเหมือนว่าข้อมูลที่เขาเคยได้รับมาทั้งหมด มันคือขยะ! คนไม่มีรากฐานจิตวิญญาณบ้าอะไรสามารถฆ่าฝูงผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของตระกูลเขาได้เหมือนผักปลา แต่ก็ยังมีบางอย่างที่เจิ้นป่าเจ่าแน่ใจ เขาแน่ใจว่าต่อให้หลิงตู้ฉิงจะบ่มเพาะได้แต่หลิงตู้ฉิงต้องไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราแน่นอน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันต้องมีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา!
“ไปตามทุกคนที่เห็นเหตุการณ์มาเล่าให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้!” เจิ้นป่าเจ่าตะโกน
มีเพียงไม่กี่คนในหอมรกตแดงที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานั้น
เด็กสาวคนหนึ่งพูดว่า “ข้าเห็นผู้คนมากมายวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ละ แล้ว…ราชาปีศาจนั่นก็เพียงแค่สะบัดนิ้วและคนทั้งหมดก็ตายไป”
ผู้หญิงอีกคนพูดว่า “ข้าเห็นเขาโบกมือและคนเหล่านี้ก็ตายไปหมด”
ทุกคนเริ่มพูดถึงสิ่งที่เห็น อย่างไรก็ตามผู้หญิงเหล่านี้เป็นแค่คนธรรมดาพวกเขาจะเข้าใจบุคคลที่ผิดธรรมชาติอย่างหลิงตู้ฉิงได้อย่างไร
ในที่สุดเจิ้นป่าเจ่าก็ได้ข้อสรุป เขาพึมพำกับตัวเองด้วยความสับสน “เป็นไปได้ไหมว่ามันใช้อาวุธวิเศษระดับสูง?”
“เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้มันอยู่ที่ขอบเขตหลอมรวมลมปราณเท่านั้นเอง หรือว่าเป็นคนอื่น? หรือจะเป็นนางคณิกาที่ปรนนิบัตรมัน? แต่ถ้านางคณิกาผู้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับสูงจริง ๆ แล้วนางมาทำอะไรที่นี่?”
เจิ้นป่าเจ่าถามหงเหม่ยซ้ำแล้วซ้ำอีกในเรื่องของหลิวเฟ่ยเฟ่ย ซึ่งหงเหม่ยเองก็ยืนยันซ้ำ ๆ เช่นกันว่า หลิวเฟ่ยเฟ่ยเป็นนางคณิการธรรมดาคนหนึ่งจริง ๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจิ้นป่าเจ่าก็เหลือเพียงข้อสันนิษฐานเดียวซึ่งคล้ายกันกับของจ้าวเหมิงลู่ที่เคยเดาว่าหลิงตู้ฉิงสังหารอสูรเกราะเหล็กได้โดยการใช้อาวุธวิเศษระดับสูง นี่เป็นคำอธิบายเดียวที่เขานึกออกได้ในเวลานี้
“ข้าไม่สนใจว่ามันมีของดีอะไร แต่มันกล้าฆ่าน้องชายของข้า ข้าจะกวาดล้างคนของมันให้หมด!” เจิ้นป่าเจาคิดในใจอย่างดุเดือด จากนั้นเขาจึงสั่งให้คนไปนำศพเจิ้นสีชวงกลับไปยังตระกูล
สำหรับเหตุการณ์ทั้งหมด เจิ้นป่าเจ่าไม่ได้เอาผิดกับหอมรกตแดง เนื่องจากเขาเข้าใจว่าหลิงตู้ฉิงนั้นทรงพลังเกินกว่าที่คนของทางหอมรกตแดงจะทำอะไรได้
หลังจากกลับถึงเรือน เจิ้นป่าเจ่าเรียกหาบ่าวคนสนิทที่เชื่อถือได้คนหนึ่งที่ชื่อว่า จี้ชิงหยวน และพูดว่า “เจ้าไปที่เมืองหลวงเข้าพบพ่อของข้า แจ้งข่าวแก่เขาว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองฟินิกซ์ และบอกแก่เขาด้วยว่าข้ากำลังจะใช้งานคนกลุ่มนั้น!”
“รับทราบนายน้อย! ข้าจะส่งข่าวไปถึงมือนายท่านแน่นอน!” จี้ชิงหยวนตอบรับ
คืนนั้น จี้ชิงหยวนเดินทางออกจากเมืองฟีนิกซ์
หลิงตู้ฉิงผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับแผนต่อไปของตระกูลเจิ้น ในขณะนี้เขากำลังพัฒนาเต๋าตู้ฉิงอีกครั้ง รัศมีพลังวิญญาณค่อย ๆ แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา
รัศมีนี้ส่งผลทำให้หลิวเฟ่ยเฟ่ยตื่นขึ้นมา
ในฐานะนางคณิกาที่ถูกไถ่ตัวมา นางพร้อมที่จะเสียสละตัวเองได้ทุกเมื่อ นางไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงต้องการการปรนนิบัติจากนางหรือไม่เมื่อเขาบ่มเพาะเสร็จ ดังนั้นนางจึงนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ เพื่อรอเขาเรียกนาง
หลิวเฟ่ยเฟ่ยลืมตาและมองดูหลิงตู้ฉิงอย่างระมัดระวัง นางสังเกตเห็นว่าหลิงตู้ฉิงหลับตาแต่มีรอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)