เมื่อเทียบกับความตกตะลึงของคนอื่น ๆ มี่ไล หลิวเฟ่ยเฟ่ยและบรรดาคนที่ไปที่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับกับหลิงตู้ฉิงนั้น พวกเขาดูสงบกว่ามาก
เนื่องจากในระหว่างที่พวกเขาติดตามหลิงตู้ฉิงไปจนถึงเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับนั้น หลิงตู้ฉิงได้ต่อสู้กับคนอื่น ๆ ที่แข็งแกร่งกว่าคนเหล่านี้นับหมื่นนับแสนเท่ามาแล้ว หรือถ้าให้ยกตัวอย่างก็คือในตอนที่หลิงตู้ฉิงร่วมมือกับลั่วหยุน ต่อสู้กับวิญญาณปีศาจโดยเฉพาะการใช้รูปแบบกระบี่ ‘ดาราโลหิตประสานกระบี่’ ข่มขู่เหล่าตัวตนที่มาจากขุมกำลังมหาอำนาจจนพวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว
ดังนั้นกับอีแค่ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญร้อยคนจะต้านทานหลิงตู้ฉิงได้ยังไง?
เย่ชิงเฉิงเป็นคนที่ตื่นเต้นที่สุดเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ
นางไม่แปลกใจที่หลิงตู้ฉิงสามารถรับมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญจำนวนมากได้ เนื่องจากนางรู้ว่าเขาได้ดึงพลังอาณาเขตสวรรค์เทียมจากรถม้ามาใช้ ซึ่งมันเท่ากับว่าเขาจะมีพลังอำนาจเท่ากับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์
แต่ส่งที่ทำให้นางตื่นเต้นมากก็คือ หลิงตู้ฉิงได้ใช้เคล็ดวิชาที่ไม่มีใครสามารถเรียนรู้ได้ นั่นคือวิชาเก้าอักขระมนตรา ซึ่งมันคือวิชาลับของสำนักเต๋าสวรรค์ที่คนภายนอกไม่มีทางได้รับการถ่ายทอดให้แน่นอน
ดังนั้นสามีของนางเรียนรู้วิชาที่คนภายนอกไม่มีวันดีรับการถ่ายทอดให้ได้อย่างไร? ซึ่งมันยิ่งกระตุ้นความอยากรู้ของนางมากยิ่งขึ้นว่าสามีของนางเป็นใครกันแน่ในอดีต?
จากบันทึกของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่นางเคยอ่านมาก่อน นางไม่เคยเห็นบันทึกไหนที่กล่าวถึงตัวตนที่ครอบครองวิชาลับมากมายถึงขนาดนี้ แถมวิชาลับหลายอย่างยังเป็นวิชาที่หายสาปสูญไปแล้วหรือบางวิชายังเป็นวิชาต้องห้ามของสำนักที่คนภายนอกไม่สามารถเรียนรู้ได้เช่นนี้
ในเวลานี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญทั้งหลายต่างก็หยุดการต่อสู้และจ้องมองไปที่หลิงตู้ฉิง หลายคนจากอาณาจักรจันทรามองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อน พวกเขาดีใจมากที่พวกเขายังไม่ทรยศเจ้านายของพวกเขาแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะเริ่มมีความคิดเช่นนั้นก็ตาม ไม่งั้นแล้วเมื่อจบศึกผลลัพธ์ที่เลวร้ายจะต้องรอพวกเขาอยู่แน่ ๆ
ส่วนบรรดาทหารในกองทัพของอาณาจักรหลงซาน พวกเขาต่างก็กำลังสับสนไม่รู้จะทำอะไรต่อ พวกเขาหลายคนต่างมีความคิดในใจ พวกเขาควรจะไปช่วยดีหรือไม่?
แต่แล้วเมื่อพวกเขาคิดได้สักพัก พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ช่วย
เนื่องจากยังมีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญของอาณาจักรจันทราจำนวนมากอยู่รอบ ๆ ตัวพวกเขา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไปช่วยแต่พวกเขาก็ต้องถูกขัดขวางเอาไว้อยู่ดี
จากนั้นบรรดาทหารต่างก็เริ่มมีคำถามอยู่ในใจ ทำไมพวกผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ที่สู้กับหลิงตู้ฉิงอยู่ถึงไม่ถอยออกมา? ด้วยตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้ พวกเขาจะต่อสู้ต่อไปอีกทำไม?
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือไม่ใช่ว่าพวกผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นไม่ต้องการที่จะถอยหนี แต่พวกเขาไม่สามารถทำได้
ทุกคนถูกขังและต้องเผชิญหน้ากับการระดมโจมตีด้วยอำนาจของตัวอักษรนับไม่ถ้วนในทุกขณะ พวกเขากล้าที่จะล่าถอยได้อย่างไร?
พวกเขาไม่กล้าพักเหนื่อยด้วยซ้ำ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นพวกเขาน่าจะตายทันที
ครึ่งวันต่อมาในที่สุดเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ที่โดนหลิงตู้ฉิงระดมโจมตีอยู่นั้นก็รู้สึกได้ว่าการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามคลายลง ซึ่งมันทำให้พวกเขาพบโอกาสที่จะล่าถอย
สำหรับความมั่นใจในการต่อสู้ พวกเขาไม่มีอีกต่อไป
แค่คนเดียวก็เพียงพอที่จะจัดการกับพวกเขามากกว่าร้อยคนแล้ว ยังมีประโยชน์อะไรถ้ายังต่อสู้ต่อไปอีก?
เมื่อประเมินแล้วว่าการบุกมาของพวกเขาครั้งนี้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เหยียนฮ่าวหัวและคนอื่น ๆ ต่างก็มองหน้ากันและรีบล่าถอยบินกลับไปยังอาณาจักรหลงซานทันที
พวกเขาทุกคนกลัวว่าหากพวกเขาช้าเกินไป พวกเขาอาจจะถูกหลิงตู้ฉิงสังหารลงตรงนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือถ้าหลิงตู้ฉิงคิดจะฆ่าพวกเขา พวกเขาทั้งหมดคงไม่มีวันหนีรอด
เมื่อเห็นว่าเหยียนฮ่าวหัวและคนอื่น ๆ บินหนีไป บรรดาผู้เชี่ยวชาญและทหารที่เหลือของอาณาจักรหลงซานก็หันหลังกลับและรีบหนีกลับไปด้วยเช่นกัน
หลิงตู้ฉิงเองก็ทำราวกับว่าเขาไม่เห็นกลุ่มคนที่กำลังหนีไป และพูดกับหลิงว่านถิงที่อยู่ในอารมณ์สับสนว่า “สิ่งที่พ่อแสดงให้เจ้าเห็นเมื่อครู่ก็คือวิธีการใช้ วิชาเก้าอักขระมนตรา ทั้งหมดที่ในอนาคตเจ้าจำเป็นต้องเรียบรู้มัน เอาล่ะ แต่ตอนนี้เจ้าได้เรียนรู้มากเกินไปแล้ว ตอนนี้เจ้าจงไปนอนหลับพักผ่อนก่อน รอจนกว่าเราจะจับหยูเฉิงฮุยที่เมืองหลวงของอาณาจักรหลงซานแล้ว พ่อจะเรียกเจ้าอีกที เฟ่ยเอ๋อมาพานางไปพักผ่อนที”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)