สรุปตอน บทที่ 474 เปิดทาง – จากเรื่อง พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดย Internet
ตอน บทที่ 474 เปิดทาง ของนิยายActionเรื่องดัง พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อฟางหมิงยู่และพรรคพวกได้ยินการสนทนาระหว่างหลิงตู้ฉิงและหวางหมิงหยวน พวกเขาก็รู้สึกงุนงงในใจ
เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมถึงไปเรียกคนที่มีระดับการบ่มเพาะแค่ขอบเขตประสานทะเลปราณว่าผู้อาวุโสกัน? แถมยังกล้าพูดคุยกันเรื่องคลังสมบัติของอารามนวดาราต่อหน้าพวกเขาอีกต่างหาก?
แต่ถึงแม้พวกเขาจะงุนงงสงสัย พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะตอนนี้ความสนใจส่วนใหญ่ของพวกเขาถูกดึงไปที่ประเด็นของ วัสดุระดับจักรพรรดิที่อยู่ในคลังสมบัติของอารามนวดารา
ฟางหมิงยู่และอีกสามคนต่างมองหน้ากันด้วยความโลภ พร้อมกับคิดในใจว่าพวกเขาจะแบ่งสันปันส่วนกันอย่างไร
ส่วนเรื่องของบรรพบุรุษที่หยวนต้าตงกล่าวอ้างนั้น จากที่พวกเขาได้ติดตามข่าวสารของอารามนวดารามาตลอด ซึ่งพวกเขาเคยได้ข่าวว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้มีปัญหาภายในบางอย่างเกิดขึ้น พวกเขาจึงคาดคะเนกันเอาไว้ว่ามีโอกาสเก้าส่วนที่บรรพบุรษผู้นั้นไม่ได้อยู่ที่สำนักอีกแล้ว
เมื่อได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงต้องการที่จะเอาวัสดุระดับจักรพรรดิ อี้ตงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หากผู้เชี่ยวชาญระดับต่ำอย่างเจ้ายังได้รับวัสดุระดับจักรพรรดิ พวกเราคงสมควรได้รับวัสดุระดับเท…”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามชีวิตที่โอบล้อมรอบกายของเขาจนขนลุกซู่ จากนั้นในชั่วพริบตาถัดมาเขาก็ได้เห็นกระบี่นับสิบเล่มได้พุ่งออกมาจากรถม้าและเรียงตัวกันเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ล้อมรอบหลิงตู้ฉิงและรถม้าเอาไว้
ทางด้านของคนอื่น ๆ ที่สัมผัสได้ถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ของค่ายกลกระบี่ พวกเขาต่างก็ตะลึงงัน ในตอนนี้อำนาจที่ค่ายกลกระบี่แสดงออกมามันทะลุระดับรู้แจ้ง หรือขอบเขตสวรรค์ระดับ 5 ไปเรียบร้อยแล้ว
หลิงตู้ฉิงมองไปที่อี้ตงเทียน และพูดว่า “ความสามารถอย่างเจ้าน่ะเหรอ ต้องการที่จะได้ครอบครองวัสดุระดับเทวะ? เอาล่ะ จงนำทางข้าเข้าในอารามนวดาราของเจ้าได้แล้ว”
แน่นอนว่าประโยคสุดท้ายหลิงตู้ฉิงนั้นเอ่ยกับหวางหมิงหยวน
เมื่อเห็นการแสดงอันน่าตระการตาเช่นนี้ของหลิงตู้ฉิง หวางหมิงหยวนก็ตอบกลับอย่างตื่นเต้น “ผะ ผะ ผู้อาวุโสโปรดตามข้ามาได้เลย!”
หวางหมิงหยวนรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่เขาได้เห็นค่ายกลกระบี่ที่เคยทำให้ผู้เชี่ยวชาญของขุมกำลังมหาอำนาจต้องหวาดกลัวจนแทบไม่กล้าขยับ แถมยังโดนยึดอาวุธระดับจักรพรรดิโดยที่ไม่กล้าปริปากเถียงแม้แต่ครึ่งคำอีกครั้ง และที่สำคัญคราวนี้ที่ค่ายกลกระบี่เปิดใช้งานสำนักของเขาเองคือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากมัน
ภายใต้การปกป้องของค่ายกลกระบี่เหินเมฆา หลิงตู้ฉิงและกลุ่มของเขาก็พากันเข้าไปยังอารามนวดารา
ฟางหมิงยู่และอีกสามคนที่เห็นภาพนี้ก็ทำได้แต่ยืนมองอยู่เงียบ ๆ โดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง เพราะพวกเขากลัวว่าถ้าเกิดพวกเขาส่งเสียงให้หลิงตู้ฉิงรำคาญเมื่อไหร่ หลิงตู้ฉิงอาจใช้อำนาจของค่ายกลกระบี่นั้นสังหารพวกเขาทันที ซึ่งพวกเขาไม่มีทางต่อต้านมันได้แน่นอน
เมื่อเห็นว่ากลุ่มของหลิงตู้ฉิงเข้าไปในอารามนวดาราเรียบร้อย ฟางหมิงยู่และอีกสามคนที่มากับเขาต่างก็มองหน้ากันไปมา และจากนั้นพวกเขาก็หันหลังกลับไปยังแนวป้องกันชั่วคราวของสำนักพวกเขาที่สร้างขึ้นมาปิดล้อมอารามนวดาราอย่างเงียบ ๆ
พวกเขาต้องหารือกันว่าพวกเขาควรจะทำอย่างไรกับอารามนวดาราในอนาคต
ภายในรถม้า เย่ชิงเฉิงมองไปที่เย่หยูหลันด้วยสีหน้าอิ่มเอมใจราวกับจะพูดว่า ‘ขอเพียงแค่ข้าไม่สั่งให้เจ้าลงมือ เจ้าก็ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?’
ทางด้านของเย่หยูหลันก็มองตอบด้วยสีหน้าจนปัญญา นางรู้สึกว่าตัวเองโง่เง่าจริง ๆ ที่ลืมเรื่องค่ายกลกระบี่เหินเมฆาไปได้อย่างไร?
อาวุธระดับจักรพรรดิและวัสดุที่ใช้สร้างกระบี่บินก็เป็นของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์นางไม่ใช่รึไง? นี่นางเลอะเลือนจนถึงขนาดที่นางจำมันไม่ได้ ได้ยังไง?
ในเมื่อเป็นเช่นนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากให้สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของนางช่วยอยู่ดี
แน่นอนว่าหลิงตู้ฉิงไม่ได้สนใจอะไรในสิ่งที่นางคิดแม้แต่น้อย
ภายใต้การปกป้องของค่ายกลกระบี่เหินเมฆา ทุกคนก็ก้าวเข้าไปในอารามนวดารา ซึ่งในขณะนี้หยวนต้าตงยืนรอต้อนรับพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
ส่วนความคิดที่หยวนต้าตงมีต่อเขานั้น เขามองว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญใด ๆ เลยหากเทียบกับเรื่องของการทำให้อารามนวดารารอดหายนะครั้งนี้ไปได้
หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “มูลค่าของสิ่งที่ข้าจะได้รับจากพวกเจ้าจะเป็นตัวกำหนดว่าข้าจะช่วยเจ้ามากแค่ไหน เอาของให้ข้าก่อนแล้วข้าจะตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อไป”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยวนต้าตงก็ลังเลและคิดในใจ ถ้าข้าให้ของเจ้าแล้วเจ้าหนีไป ใครจะทำอะไรเจ้าได้?
หวางหมิงหยวนกลอกตามองไปบนเพดาน เขาไม่เข้าใจว่าหยวนต้าตงกำลังลังเลอะไรอยู่ จากความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสคนนี้ หากเขาต้องการชิงสมบัติวิเศษจากอารามนวดาราจริง ๆ พวกเขาก็คงไม่มีทางที่จะต่อต้านได้อยู่ดี
ทางด้านของหลิงตู้ฉิง แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยอยากเสียเวลากับที่นี่มากสักเท่าไหร่ แต่เนื่องจากเขาได้เข้ามาในอารามนวดาราแล้ว ดังนั้นเขาก็ได้แต่ทำใจอดทนรอไปอีกหน่อย
แน่นอนว่าตัดเรื่องการปล้นชิงไปได้เลย ต่อให้เป็นเมื่อชีวิตก่อนที่เขาบ่มเพาะเต๋าไร้อารมณ์ เขาก็ไม่เคยทำสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนั้น
เมื่อมองไปที่คนตรงหน้าและเห็นว่าอารมณ์ของคนผู้นี้กำลังแปรปรวนอย่างไม่หยุดหย่อน หลิงตู้ฉิงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ข้าจะให้เวลาเจ้าสองชั่วโมงในการคิดทบทวน แต่ถ้าหากผ่านไปสองชั่วโมงเจ้ายังไม่มีคำตอบให้กับข้า ข้าจะออกไปจากที่นี่ทันที และจงอย่าลืมว่าถ้าเจ้าไม่แลกเปลี่ยนกับข้าก็จงอย่านำชื่อของข้าไปเอ่ยอ้างกับคนอื่นในอนาคต ไม่เช่นนั้นข้าจะมาที่นี่เพื่อคิดบัญชีกับอารามนวดาราของเจ้า” หลิงตู้ฉิงยื่นคำขาด
เขาอยากรู้มากว่าเขาจะได้สมบัติอะไรจากอารามนวดารา?
จากการที่เขาเดินทางมาตั้งไกลเพื่อคืนสมบัติ ทั้งที่ในตอนแรกเขากับอารามนวดาราเป็นศัตรูกันด้วยซ้ำ ดังนั้นผลจากการทำดีเช่นนี้เขาควรจะได้รับประโยชน์อะไรบ้างจริงไหม?
เขาคาดหวังเป็นอย่างมากว่าที่นี่จะมีอะไรที่ทำให้เขาได้ประหลาดใจ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)