นอกอารามนวดารา ฟางหมิงยู่และคนจากอีกสามสำนัก ต่างยืนหน้ามุ่ยไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ
ก่อนหน้านี้พวกเขาเห็นประตูแห่งความสำเร็จอยู่ห่างจากพวกเขาไปไม่ไกลแล้ว แต่ทำไมตอนนี้เรื่องราวมันกลับตาลปัตรได้ขนาดนี้?
“เราควรทำยังไงกันต่อดี? เราควรจะถอยกลับสำนักของพวกเรางั้นเหรอ?” จางไป๋อู่ ถาม “ด้วยอำนาจของค่ายกลกระบี่ที่ฝั่งนั้นมี เราไม่มีทางเทียบกับมันได้แน่นอน ข้าเกรงว่าหากเราฝืนบุกเข้าไปเราคงจะตายกันหมด”
อี้ตงเทียนถอนหายใจและพูดว่า “คนผู้นั้นบอกกับเราว่าเขามาจากทะเลชางหมาง ถ้างั้นก็แสดงว่าเขาต้องเป็นผู้ที่ค้นพบสมบัติลับของทะเลชางหมางแน่นอน ข้าคิดว่าถ้าข้ากลับไปที่สำนักของข้าเมื่อไหร่ ข้าคงจะต้องส่งคนไปที่ทะเลชางหมางเพื่อลองเสี่ยงโชคดูบ้างแล้ว หากโชคดีได้รับสมบัติที่แข็งแกร่งเช่นคนผู้นั้น สำนักของข้าจะได้ลืมตาอ้าปากได้บ้าง”
หลานฟ่างจุนพูดอย่างเย็นชา “เจ้าสำนักอี้ สิ่งที่เรากำลังคุยกันตอนนี้คือปัญหาเรื่องอารามนวดารา ท่านอย่านอกประเด็นจะได้ไหม? ตอนนี้เมื่ออารามนวดารามีกำลังเสริมที่แข็งแกร่งเข้ามาช่วยเหลือแล้ว เราต้องตัดสินใจว่าเอายังไง? เราควรจะอยู่ต่อหรือเราจะแยกย้ายกันกลับสำนัก?”
พวกเขาทั้งสี่มองหน้ากันแล้วมองไปที่ฟางหมิงยู่
“ผู้อาวุโสฟาง ในที่นี่ท่านเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และเป็นคนที่มีความคิดลึกซึ้งที่สุด ข้าขอให้ท่านเป็นคนตัดสินใจก็แล้วกัน” จางไป๋อู่พูด
ฟางหมิงยู่พูดช้า ๆ “ตามความคิดของข้าคือพวกเราควรอยู่รอดูต่อไป! ถ้าสังเกตให้ดี ๆ ทุกคนน่าจะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่ควบคุมค่ายกลกระบี่และอารามนวดารานั้นพวกเขาไม่ได้คุ้นเคยกันมากนัก ดังนั้นเราควรจะต้องอยู่รอดูสถานการณ์ไปก่อน ไม่แน่ว่าคนผู้นั้นที่ครอบครองค่ายกลกระบี่อาจจะไม่ได้มาเพื่อช่วยเหลืออารามรวดารา แต่มาเพราะมีจุดประสงค์เดียวกับเราก็ได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยและเริ่มคิดตาม
จากนั้นตามคำแนะนำของฟางหมิงยู่ พวกเขาก็ยังไม่จากไปและส่งคนออกไปคอยจับตาดูอารามนวดาราอย่างลับ ๆ
ภายในอารามนวดารา หลังจากการถกกันอย่างเคร่งเครียดสองชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดหยวนต้าตงก็ตกลงตามข้อเรียกร้องของหลิงตู้ฉิง
แม้ว่าหยวนต้าตงจะไม่ต้องการ แต่ด้วยเหตุผลที่หวางหมิงหยวนได้เอ่ยขึ้นต่าง ๆ นานา และการเห็นด้วยของผู้อาวุโสระดับสูงอีกสองคน เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องตกลง แน่นอนว่ายังมีอีกเหตุผลที่สำคัญมากก็คือทั้งสี่สำนักยังคงปิดล้อมอารามนวดาราอยู่ หากเขาไม่เลือกทำการค้ากับหลิงตู้ฉิง แน่นอนว่าทั้งสี่สำนักจะบุกเข้าทำลายอารามนวดาราของเขาเมื่อหลิงตู้ฉิงจากไปทันที
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หยวนต้าตงจะกล้าปฏิเสธพูดอะไรได้?
“ผู้อาวุโส เราเห็นด้วยกับข้อตกลงของท่าน โปรดช่วยอารามนวดาราของเราด้วย!” หวางหมิงหยวนเข้ามาหาหลิงตู้ฉิง และพูดขึ้น
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “พาข้าไปที่คลังสมบัติของพวกเจ้าก่อน จากนั้นข้าจะคำนวณว่าข้าควรช่วยอะไรพวกเจ้าบ้าง”
“ท่านผู้อาวุโสโปรดตามข้ามา!” หวางหมิงหยวนพยักหน้าและออกตัวเดินนำ
หลิงตู้ฉิงหันกลับมาและพูดกับหลงเฉินว่า “เจ้าอยู่ที่นี่อย่าเดินไปไหน โม่เอ๋อ เจ้าเองก็คอยอยู่ที่นี่เช่นกัน”
โม่เอ๋อรีบพูด “นายท่าน ข้าจะไปกับท่าน!”
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ไม่จำเป็น ข้าจะนำค่ายกลกระบี่เหินเมฆาไปด้วย ส่วนยันต์เคลือบหยกนี้ข้ามอบให้เจ้า”
เขาส่งยันต์เคลือบหยกให้โม่เอ๋อและนำค่ายกลกระบี่เหินเมฆามุ่งหน้าไปที่คลังสมบัติของอารามนวดารา ด้วยค่ายกลกระบี่ที่อยู่ในมือเขาตอนนี้ หลิงตู้ฉิงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องใด แม้ว่าอารามนวดาราจะเล่นตุกติกกับเขา
ในทำนองเดียวกันกับยันต์เคลือบหยกที่เขามอบให้กับโม่เอ๋อเมื่อครู่ เขาเองก็ไม่มีอะไรต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของทางด้านรถม้าเช่นกัน
หลังจากได้ยันต์เคลือบหยกมาอีกชิ้น โม่เอ๋อก็มีความสุขมาก และเมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงนำค่ายกลกระบี่ติดตัวไป นางก็เลิกเซ้าซี้ที่จะตามไปปกป้องหลิงตู้ฉิง
เมื่อเห็นหลิงตู้ฉิงนำค่ายกลกระบี่เหินเมฆามาด้วย คิ้วของหวางหมิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะกระตุก เขาแอบเตือนคนอื่น ๆ ว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาด เขาเป็นคนที่เคยเห็นค่ายกลกระบี่เหินเมฆาด้วยตาของเขาเองมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่ามันทรงพลังเพียงใด
เมื่อได้รับการเตือน หยวนต้าตงและคนอื่น ๆ ต่างก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไรที่อาจทำให้หลิงตู้ฉิงเข้าใจผิด พวกเขาต่างพาหลิงตู้ฉิงเข้าสู่คลังสมบัติของอารามนวดาราแต่โดยดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)