จากทิศทางที่มู่เฉียนซ่งชี้ หลงเฉินมุ่งหน้าไปยังส่วนภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอาณาเขตสุสานกระบี่
ด้วยปรากฎการณ์ที่มีมังกรบินอยู่เหนือท้องฟ้า มันส่งผลให้บรรดานักกระบี่ทั้งหลายต่างต้องแหงนมอง
ทางด้านของหลิงตู้ฉิงนั่งนิ่งเงียบไปจนตลอดทาง ซึ่งคนอื่น ๆ ที่เห็นเช่นนี้ก็ไม่กล้าเอ่ยทักอะไรเขาเช่นกัน
ครึ่งเดือนต่อมา ในที่สุดทุกคนก็ได้เห็นหน้าผาสูงนับพันเมตร ซึ่งหลงเฉินก็หยุดลงที่ด้านหน้าของหน้าผา
แน่นอนว่าหน้าผานี้คือสุสานกระบี่ที่ผู้คนต่างร่ำลือ
ส่วนเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงรู้ว่าหน้าผานี้คือสุสานกระบี่ นั้นก็เพราะว่าที่ด้านหน้าของหน้าผามีตัวอักษรขนาดยักษ์สลักไว้อย่างชัดเจนว่า ‘สุสานเทพกระบี่’ และรวมไปถึงบนยอดหน้าผานั้นคราคร่ำไปด้วยนักกระบี่จำนวนมากที่กำลังพยายามทำความเข้าใจเจตจำนงกระบี่ แต่สิ่งหนึ่งที่ดูขัดแย้งก็คือที่หน้าทางเข้าสุสานกระบี่นั้นมีปราณกระบี่อยู่สายหนึ่งที่ดูยุ่งเหยิงอย่างรุนแรง
“ในชีวิตนี้ แม้เต๋ากระบี่ของข้าไร้ผู้ต่อกร แต่มันก็ยังมิอาจที่จะนำข้าไปสู่นิรันดร์ ข้าจึงฝังมันไว้ในสุสานนี้ หากผู้ใดผ่านด่านทดสอบสุสานกระบี่ข้าได้ คนผู้นั้นคือผู้ครองเต๋ากระบี่ข้า มีชัยเหนือข้าในระดับเท่าเทียมเจ้าได้ครองเต๋า พ่ายแพ้ต่อข้าจ่ายด้วยราคาชีวิต! ส่วนไอ้พวกเดรัจฉาน ข้ารู้ว่าพวกเจ้าจัดฉากมาเป็นเวลานาน ข้าทิ้งเต๋ากระบี่ของข้าไว้ที่แห่งนี้ หากพวกเจ้าแน่จริงก็จงเข้ามาเผชิญคมกระบี่ของข้า!”
นี่คืออักษรที่สลักไว้เพิ่มเติมตรงหน้าผา
อักษรทั้งหมดที่สลักไว้เห็นได้ชัดว่ามันเกิดจากเจตจำนงกระบี่อันไร้เทียมทาน ซึ่งต่อให้หน้าผานี้จะถูกทำลายลง อักษรเหล่านี้ก็จะยังคงปรากฎอยู่ให้ได้เห็นไม่มีวันจางหายไปไหน
“สามี…” เย่ชิงเฉิงอุทานขึ้น
ไม่มีใครแน่ใจว่าหลิงตู้ฉิงคือเทพกระบี่จริง ๆ หรือไม่ แต่ในเมื่อหลิงตู้ฉิงสามารถใช้วิชากระบี่ที่สี่ของเทพกระบี่ได้ อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็แน่ใจว่าหลิงตู้ฉิงน่าจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับตัวตนของเทพกระบี่อย่างลึกซึ้ง
หลิงตู้ฉิงมองไปตัวอักษรที่สลักอยู่บนหน้าผาอย่างเงียบเชียบ
ในความทรงจำของเขา เต๋ากระบี่ของทาสกระบี่นั้นจัดว่าอยู่ในระดับที่สุดยอด ดังนั้นเขาควรที่จะบรรลุไปถึงขอบเขตนิรันดร์ได้แน่นอน ดังนั้นเขาตายได้ยังไง?
ไม่เพียงแต่ทาสกระบี่ที่ตาย แต่มันยังรวมไปถึงทาสภูตของเขาก็ตายไปด้วย
จากข้อมูลที่เขาได้สอบถามมาจากอี้ลั่วเอ๋อ ทาสภูตของเขานั้นตายเพราะอาการบาดเจ็บสาหัส ว่าแต่ทาสกระบี่ล่ะตายได้ยังไง?
และที่สำคัญถึงแม้ว่าทั้งทาสกระบี่และทาสภูตจะตายไปเป็นหมื่นปีแล้ว แต่ในปัจจุบันพวกเขายังคงทิ้งร่องรอยของการท้าทายไว้ให้กับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง กลุ่มคนเหล่านั้นเป็นใครกัน?
หลิงตู้ฉิงมองไปยังสุสานกระบี่ราวกับว่าในตอนนี้เขากำลังเห็นภาพของทาสกระบี่กำลังถือกระบี่ในมือไว้แน่น และเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
ซึ่งน่าเสียดายที่ทาสกระบี่นั้นตายไปแล้ว เขาจึงไม่สามารถออกไปตามล้างแค้นกับเหล่าศัตรูของเขาได้ เขาจึงทำได้แค่ทิ้งมรดกแห่งความแค้นของเขาไว้ที่นี่รอให้ศัตรูของเขาย่างกรายเข้ามาด้วยตัวเอง จากนั้นเขาค่อยชำระบัญชีแค้น
ทางด้านของหลิงตู้ฉิง เมื่อเขาดูจนพอใจ เขาก็พุ่งตัวออกจากรถม้า ซึ่งเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้นร่างของเขาก็ไปปรากฏที่หน้าทางเข้าสุสานกระบี่ และเดินเข้าไปที่ทางเข้า
การกระทำของหลิงตู้ฉิง ทำให้ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นตื่นตัวทันที ผู้คนต่างตะโกนกันขึ้น “ดูนั่น! มีคนกำลังจะเข้าไปในสุสานกระบี่!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ นักกระบี่ที่อยู่บริเวณรอบ ๆ จำนวนนับไม่ถ้วนต่างหันไปมองเป็นสายตาเดียวกัน
“ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณงั้นเหรอ? เหอะ! คิดว่าเข้าไปข้างในด้วยระดับการบ่มเพาะนี้แล้วจะได้เปรียบหรือไง?” นักกระบี่ผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
“มันก็น่าจะเป็นแค่ไอ้พวกโง่หลงตัวเองที่มาจากอาณาเขตอื่นอีกคนหนึ่งเท่านั้น ที่คิดว่าตัวเองไม่มีดวงจิตที่แท้จริงแล้วจะสามารถผ่านกระบี่ที่สี่ไปได้”
“หากการที่ไม่มีดวงจิตที่แท้จริงแล้วจะคิดว่าจะผ่านกระบี่ที่สี่ไปได้ มันก็คงฝันกลางวันอยู่แน่ ๆ ถ้ามันเป็นงั้นจริงมันก็คงมีคนผ่านไปนานแล้ว!” หลายคนพูดเช่นนี้พลางส่ายหัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)