เมื่อได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงต้องการหยดเลือดเพื่อไปพิสูจน์ ผู้นำตระกูลกู๋ กู๋หยงฟาน ก็รีบนำเลือดของตนเองส่งให้กับหลิงตู้ฉิงทันที
จากนั้นเมื่อหลิงตู้ฉิงได้รับหยดเลือดมาเขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันแปลกประหลาดออกมาจากหยดเลือดของกู๋หยงฟานทันที ซึ่งมันทำให้เขาไม่ใช่ทักษะสืบค้นต้นกำเนิดอย่างเปิดเผยเหมือนสองตระกูลที่แล้ว เขาเลือกที่จะใช้ทักษะสืบค้นต้นกำเนิดอย่างลับ ๆ เพื่อเห็นที่มาของตระกูลกู๋แค่เพียงคนเดียว
แต่หลังจากที่เขาดูที่มาของตระกูลกู๋จนจบ เจตจำนงสังหารก็แผ่ออกมาจากร่างของหลิงตู้ฉิงอย่างรุนแรงทันที
เขาไม่คิดว่าคนเหล่านี้จะหาญกล้าแสร้งทำตัวเป็นลูกหลานของเทพกระบี่ และทำตัวราวกับไม่รู้จักคำว่า ตาย!
หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงลงมือถอนรากถอนโคนตระกูลกู๋ให้หายออกไปจากโลกแล้วแน่นอน
แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ โดยเฉพาะที่ระดับการบ่มเพาะของกู๋หยงฟานนั้นก็ไม่ได้อ่อนแอ มันจึงไม่สะดวกเป็นอย่างมากหากเขาจะลงมือจริง ๆ ตอนนี้
เมื่อสัมผัสได้ถึงเจตจำนงสังหารของหลิงตู้ฉิง กู๋หยงฟานก็รีบถอยตัวออกห่างและตะโกนขึ้นทันที “นี่เจ้าต้องการจะทำอะไร?”
หลิงตู้ฉิงครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็นำหยดเลือดของกู๋หยงฟานหยดลงไปบนป้ายคำสั่งและพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “เจ้าไม่ใช่ลูกหลานของเทพกระบี่ หากเจ้าเป็นทำไมป้ายคำสั่งในมือของข้าถึงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย? ในฐานะที่ข้าเป็นสหายของเทพกระบี่ ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้พวกเจ้าลอยนวลไปได้แน่ ๆ หากเจ้าไม่ให้คำอธิบายดี ๆ แก่ข้าแล้วล่ะก็…”
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็หยิบยันต์สั่งสวรรค์ที่บรรจุอำนาจของผนึกที่เขาเอามาจากสำนักวิญญาณโลหิตขึ้นมา ซึ่งก็เช่นเดิมที่อำนาจของผนึกในยันต์สั่งสวรรค์นั้นก็เริ่มสำแดงขึ้น
เมื่อสัมผัสได้ถึงอำนาจของยันต์สั่งสวรรค์ในมือของหลิงตู้ฉิง สีหน้าของกู๋หยงฟานก็เปลี่ยนไปในทันที เขาตะคอกกลับเสียงเข็ง “นี่เจ้ากล้าหาว่าข้าไม่ใช่ลูกหลานของเทพกระบี่งั้นเหรอ? งั้นก็ลองมาพิสูจน์ดูกัน ลองโจมตีเข้ามาแล้วเจ้าจะได้เผชิญกับเจตจำนงกระบี่ของบรรพบุรุษข้า!”
“เป็นอย่างนั้นจริงเหรอ…” หลิงตู้ฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
ในขณะเดียวกับที่สถานการณ์กำลังจะเกินเลย เสียงอันแผ่วเบาเสียงหนึ่งก็ดังลอยมาจากใต้พื้นดินของตระกูลกู๋ “หยงฟาน เจ้าจงนำคุณชายมาพบกับข้า”
“รับทราบ บรรพบุรุษ!” กู๋หยงฟานรีบตอบรับทันที
จากนั้นเขาหันไปมองหลิงตู้ฉิงและเอ่ยว่า “บรรพบุรุษของข้าตอนนี้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ โปรดคุณชายตามข้ามา”
“ข้าอยากจะรู้จริง ๆ ว่าพวกเจ้าจะอธิบายกับข้ายังไง!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
เมื่อพูดจบ เขาก็เก็บยันต์สั่งสวรรค์และเดินตามกู๋หยงฟานไป
อันที่จริง หลิงตู้ฉิงนั้นรู้แล้วว่าพวกตระกูลกู๋นี้เป็นใคร แต่สิ่งที่เขาต้องการจะรู้ในตอนนี้ก็คือตระกูลกู๋พยายามจะทำอะไรกันแน่?
เดินตามหลังกู๋หยงฟานลงไปยังห้องใต้ดินของตระกูลกู๋ได้สักพัก หลิงตู้ฉิงก็ได้พบกับ โลงศพทองแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งมันคือที่มาของเสียงอันแผ่วเบาที่พวกเขาได้ยินเมื่อสักครู่
“บรรพบุรุษ ผู้ที่บรรพบุรุษเทพกระบี่ไว้วางใจได้มาถึงแล้ว” กู๋หยงฟานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคารพต่อหน้าโลงศพ
เสียงอันแผ่วเบาได้ออกจากโลงศพอีกครั้ง “หยงฟาน อันที่จริงแล้วคุณชายท่านนี้ไม่ได้กล่าวผิดเลย พวกเรานั้นไม่ใช่ลูกหลานของเทพกระบี่จริง ๆ”
“หา!?” กู๋หยงฟานตกตะลึง
หลิงตู้ฉิงเบะปาก พลางรอดูว่าไอ้จิ้งจอกเฒ่านี้มันจะทำอะไรต่อไป
“ไม่ต้องตกใจไป ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่ลูกหลานของเทพกระบี่ แต่ต้นกำเนิดของพวกเรานั้นสูงส่งยิ่งกว่าด้วยซ้ำ แต่ถ้าหากพวกเราเปิดเผยตัวตนออกไปมันจะมีผลกระทบตามมาที่สั่นสะเทือนไปทั้งโลก ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องเก็บตัวไปก่อนเช่นนี้” ตัวตนที่อยู่ในโลงเอ่ยขึ้น
“บรรพบุรุษ ถ้างั้นพวกเราเป็นลูกหลานของใครกัน?” กู๋หยงฟานถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง
ตัวตนในโลงถอนหายใจ จากนั้นเขาตอบกลับว่า “ก่อนที่เทพกระบี่จะโด่งดังมีชื่อเสียง เขาได้เคยติดตามตัวตนที่ยิ่งใหญ่ผู้หนึ่งมาก่อน แต่แล้วเมื่อตัวตนที่ยิ่งใหญ่นั้นหายตัวไปมันก็ทำให้บรรดาศัตรูเก่าของตัวตนผู้ยิงใหญ่ที่มีอยู่มากมายนั้นเริ่มที่จะแสดงตัวออกมา ซึ่งมันส่งผลให้ผู้ติดตามของตัวตนที่ยิ่งผู้นั้นที่มีอยู่สองคนได้แก่เทพกระบี่และภูตนางฟ้าผีเสื้อต้องเผชิญหน้ากับหายนะครั้งใหญ่โดยที่ไม่มีใครรู้เช่นกันว่าตัวตนที่ยิ่งใหญ่ผู้นั้นหายไปไหน สหาย ท่านเองก็เป็นตัวตนที่อยู่ในยุคเดียวกับเทพกระบี่มาก่อน ท่านก็ควรจะรู้ว่าข้าหมายถึงใครอยู่ใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังคงพยักหน้ารับรู้โดยที่ยังไม่พูดอะไรแทรกขึ้นเพราะต้องการอยากจะรู้ว่าทำไมไอ้เฒ่าคนนี้มันถึงเอ่ยถึงตัวเขาขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)