ฉีหานเฟิงมีความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมากกับความแข็งแกร่งของตัวเองที่อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิขั้นสูงสุด เขาแน่ใจว่าต่อให้หลิงตู้ฉิงจะมีสมบัติที่วิเศษถึงขนาดไหนเขาก็สามารถรับมือได้
แต่แล้วในจังหวะที่เขากำลังจะลงมือ หลิงตู้ฉิงกลับหยิบสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงขึ้น
หลิงตู้ฉิงหยิบเอายันต์สั่งสวรรค์ที่ผนึกอำนาจวิชาผีเสื้อเริงระบำของภูตผีเสื้อ ซึ่งเป็นผู้ติดตามของเขาเมื่อหลายหมื่นปีก่อนเอาไว้ขึ้นมา “ลองดู! เมื่อไหร่ที่เจ้าโจมตีใส่ข้า ข้าจะปลดปล่อยผีเสื้อที่อยู่ในยันต์สั่งสวรรค์ออกไปทันที ข้ารับประกันได้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นคนของสำนักเจ้าทั้งหมดจะต้องตายรวมไปถึงเจ้าเองก็ไม่รอด!”
“วันนี้ทั้งเจ้าและคนของเจ้าโจมตีข้ามาหลายรอบแล้ว ซึ่งการที่ข้าแค่สร้างความเสียหายให้มหาวิถีเต๋าของสำนักเจ้าเพียงอย่างเดียวมันก็นับว่าข้าปรานีมากแล้ว เจ้าเชื่อข้าได้เลยว่าถ้าหากข้าปลดปล่อยผีเสื้อที่อยู่ในยันต์สั่งสวรรค์เมื่อไหร่ สำนักของเจ้าจะต้องหายไปจากโลกตลอดกาล โดยที่ข้าสาบานได้เลยว่าพวกข้าจะไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย!”
ด้านในยันต์สั่งสวรรค์ในตอนนี้ ผีเสื้อที่อยู่ด้านในกำลังกระพือปีกของมันด้วยท่าทีเตรียมพร้อม และถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ถูกปลดปล่อยออกมา การกระพือของมันแต่ละครั้งที่อยู่ด้านในยังสามารถทำให้หัวใจของฉีหานเฟิงเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะอำนาจของมันที่มีอยู่อย่างมหาศาลได้
ฉีหานเฟิงรู้สึกหนาวไปถึงขั้วกระดูกจนเขาไม่กล้าที่จะลงมือโจมตี
ทางด้านของหลิงตู้ฉิง อันที่จริงเขาเองก็อยากที่จะปลดปล่อยผีเสื้อตัวนี้ออกมาให้ทำลายสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ให้เสร็จ ๆ ไปซะเช่นกัน แต่มันติดอยู่ตรงที่ว่าในตอนนี้เขาเหลือยันต์สั่งสวรรค์ไว้ป้องกันตัวแค่อันเดียวเท่านั้น เขาจึงจำเป็นต้องอดทนเก็บมันไว้ใช้ในยามจำเป็นจริง ๆ ถ้าหากเขาใช้มันขู่แล้วจบเรื่องได้เขาก็จะไม่ใช้มัน
“ข้าขอถามเจ้าสักหน่อย จริง ๆ แล้วเจ้ามีความแค้นกับสำนักของข้าก่อนที่เจ้าจะมาที่นี่ใช่ไหม?” ฉีหานเฟิงถามขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
หลิงตู้ฉิงหัวเราะเยาะ “เจ้าประเมินสำนักของตัวเองสูงเกินไปแล้ว! ข้าไม่เคยรู้จักอะไรกับสำนักธรรมดา ๆ อย่างเจ้ามาก่อนหน้านี้แม้แต่น้อย ที่ข้ามาที่นี่มันก็เพราะภรรยาของข้าบอกว่านางรู้จักกับพวกเจ้าเป็นอย่างดีและต้องการยืมใช้ประตูเคลื่อนย้ายของสำนักเจ้าเพื่อเดินทางไปยังสำนักอักขระศักดิ์สิทธ์ก็แค่นั้น ส่วนเรื่องที่ข้าสั่งสอนสำนักของเจ้า อันนี้เจ้าก็ควรโทษตัวเองและโทษคนของสำนักเจ้าที่ล่วงเกินข้าก่อนเองตั้งแต่แรก”
“อันที่จริงอย่าว่าแต่พวกเจ้าเลย ต่อให้บรรพบุรุษของพวกเจ้ายังไม่กล้าหายใจแรงต่อหน้าข้าด้วยซ้ำ แล้วตอนนี้พวกเจ้าคิดว่าตัวเองเหนือกว่าบรรพบุรุษของพวกเจ้าแล้วงั้นเหรอถึงกล้ามาล่วงเกินข้า นี่พวกเจ้าถือว่าโชคดีมากนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนข้าคงไม่มานั่งเสียเวลาพูดอะไรกับพวกเจ้าแบบนี้แน่นอน!”
ในอดีตขนาดเทพีหลิงเปา หากเจอหน้าเขายังต้องคุกเข่าคำนับและแหงนหน้ามองเพื่อคุยกับเขา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉีหานเฟิงเงียบลงไปสักพัก จากนั้นเขาจ้องไปที่ยันต์สั่งสวรรค์ที่อยู่ในมือของหลิงตู้ฉิงและเอ่ยถามว่า “งั้นเจ้าต้องการจะทำอะไรต่อไป?”
หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ข้าต้องการใช้ประตูเคลื่อนย้ายของสำนักเจ้า!”
“ส่งคำสั่งของข้า ให้คนของเราเตรียมประตูเคลื่อนย้ายให้พร้อมใช้งานให้เร็วที่สุดเดี๋ยวนี้!” ฉีหานเฟิงตะโกนสั่งกับคนของเขาทันที
หากฉีหานเฟิงมีทางเลือกเขาก็คงไม่ยอมถอยให้เช่นนี้
แต่ด้วยความพิสดารของหลิงตู้ฉิงที่สามารถสำแดงอำนาจของอาวุธระดับจักรพรรดิได้อย่างเต็มที่ ทั้งวิชากระบี่ที่สุดแสนจะล้ำลึก ทั้งยันต์สั่งสวรรค์ที่มีผีเสื้อตัวนั้นอยู่ข้างใน ทั้งหมดนี้มันทำให้เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรบุ่มบ่าม
อันที่จริงสิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจถอยของเขามากที่สุดก็คือ เขาไม่มั่นใจเลยว่าเขาจะสามารถรับมือกับผีเสื้อที่อยู่ในยันต์สั่งสวรรค์ได้
และถ้าหากว่าเขารับมือมันไม่ได้ เขาก็จะต้องตายและเมื่อเขาตาย คนของสำนักเขาทั้งหมดก็คงไม่เหลือรอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)