เมื่อสิ้นเสียงของหนิงเฟิง จู่ ๆ ครึ่งคนครึ่งหมีก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอันโหดเหี้ยม มันมองไปที่หวงเซียะ และพูดว่า “ข้าไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าข้าจะสามารถล่อปลาตัวใหญ่ขนาดนี้ออกมาให้ติดกับได้”
“นังหนู ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามานานแล้ว นับจากวันนี้ไปข้าจะพาเจ้ากลับไปที่สันเขาหมื่นอสูรเพื่อให้เจ้ากำเนิดลูกหลานพันธุ์ผสมระหว่างอสูรสายพันธุ์ต่าง ๆ กับสายเลือดฟีนิกซ์ชั้นสูงของเจ้า แล้วเดี๋ยวเราค่อยมาดูกันว่าลูกหลานของเจ้ามันจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน!”
เมื่อพูดจบครึ่งคนครึ่งหมีตนนั้นก็เริ่มขยายร่างตนเองจนใหญ่ขึ้นและสูงกว่า 10 เมตร ซึ่งมันทำให้ทุกคนรู้แล้วว่าอสูรตนนี้มันไม่ใช่อสูรธรรมดา แต่มันเป็นอสูรชั้นสูงที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในขอบเขตราชัน!
ตั้งแต่ที่นางตัดสินใจออกมาสืบเรื่องตระกูลหนิงสมรู้ร่วมคิดกับเผ่าอสูร นางก็รู้อยู่แก่ใจว่านางจะต้องได้เผชิญหน้ากับอสูรชั้นสูงแน่นอน นางจึงพาเหล่าองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์มาด้วย แต่สิ่งที่นางคาดไม่ถึงก็คืออสูรชั้นสูงที่นางเผชิญมันกลับแข็งแกร่งถึงขนาดนี้
หวงเซียะมองไปยังครึ่งคนครึ่งหมีร่างยักษ์ด้วยสีหน้ามืดหม่น และสั่งการว่า “ตั้งค่ายกลรบฟีนิกซ์ทองคำสังหารเทวะ!”
เมื่อไดรับคำสั่ง องค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 500 นายต่างแปลงร่างเป็นฟีนิกซ์ทันทีและหลอมร่างฟีนิกซ์พวกเขาเข้าด้วยกันจนกลายเป็นฟีนิกซ์สีทองร่างยักษ์ ซึ่งความแข็งแกร่งของมันนั้นอยู่ในขอบเขตราชันขั้นปลาย
สงป้ามองไปที่ฟีนิกซ์ร่างยักษ์ที่อยู่ตรงหน้า และเอ่ยขึ้นว่า “สมคำร่ำลือจริง ๆ กับค่ายกลรบอันโด่งดังของภูเขาฟีนิกซ์ แต่ถึงแม้ว่าอำนาจของมันจะเหนือกว่าข้าผู้นี้เล็กน้อย ข้าก็ยังคงสามารถจัดการพวกเจ้าได้อยู่ดี นังหนู วันนี้เจ้าหนีข้าไม่รอดแน่ ไม่ว่าจะยังไงเจ้าต้องอุ้มลูกให้กับข้า!”
เมื่อพูดจบ สงป้าก็รวบรวมพลังแห่งกฎที่อยู่รอบ ๆ เข้ามาไว้ในร่างกายของตนเองเพื่อเสริมพลังป้องกันและจากนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้าใส่ฟีนิกซ์ทันที
หวงเซียะตอบกลับ “ไอ้ผีเฒ่า แค่ความสามารถของเจ้าเพียงตัวเดียวมันไม่มีวันจับข้าได้หรอก!”
เมื่อพูดจบเพลิงฟีนิกซ์อเวจีก็ไหลบ่าออกมาจากร่างของหวงเซียะ และนางก็ส่งเพลิงเหล่านี้ไปหาสงป้าหวังจะก่อกวนให้เขาเสียสมาธิ
ส่วนทางด้านองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์ที่รวมตัวกันจนกลายเป็นฟีนิกซ์ร่างยักษ์ก็เข้าต่อสู้กับสงป้าเช่นกัน แต่ต้องรู้ไว้ว่าค่ายกลรบเช่นนี้ก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน เนื่องจากมันไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลานานเพราะมันเป็นค่ายกลที่จะดูดพลังวิญญาณจากเหล่าองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 500 นายไปเรื่อย ๆ และเมื่อไหร่ที่พลังวิญญาณของพวกเขาหมดค่ายกลกรบนี้จะหายไปทันที
ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของค่ายกลรบฟีนิกซ์ทองคำสังหารเทวะก็คือถึงแม้ว่าระดับพลังของมันจะอยู่ในขอบเขตราชันขั้นปลาย แต่ถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันที่แท้จริงที่มีความแข็งแกร่งห่างกันไม่มากนักมันก็ไม่สามารถเอาชนะได้เหมือนกัน เพราะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันที่แท้จริงสามารถใช้พลังแห่งเจตจำนงของตนเองได้อย่างอิสระ แต่ค่ายกลรบนี้ทำไม่ได้
หวงเซียะรู้ถึงจุดอ่อนเหล่านี้เป็นอย่างดีว่าหากสู้กันต่อไปเรื่อง ๆ ฝ่ายของนางคงจะเป็นฝ่ายที่เพรี่ยงพร้ำแน่นอน ดังนั้นเมื่อสู้กันไปได้สักพัก นางก็ขึ้นขี่ฟีนิกซ์ยักษ์และออกคำสั่งให้หันหลังหนีทันที
เมื่อเห็นว่าหวงเซียะหันหลังหนี สงป้าก็หัวเราะขึ้นมาอย่างสะใจและพูดว่า “คิดหนีงั้นเหรอ? ไม่มีทางซะหรอก! ข้าบอกแล้วไงว่าไม่ว่าจะยังไงข้าก็จะจับเจ้าไปออกลูกออกหลานให้กับข้าและพวกของข้า!”
เมื่อสงป้าพูดจบ จู่ ๆ ก็มีเสียงอันเย็นชาพูดขึ้นว่า “เจ้าจะให้ใครมีลูกให้กับเจ้านะ?”
เมื่อเห็นว่าหวงเซียะไม่สามารถมีชัยชนะเหนือครึ่งคนครึ่งหมีตัวนี้ได้แล้ว ผู้อาวุโสที่แอบดูอยู่จึงปรากฏกายทันที
เขาปรากฏกายขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาลเต็มที่ เนื่องจากหวงเซียะที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของภูเขาฟีนิกซ์ถูกดูหมิ่นขนาดนี้มันทำให้เขารับไม่ได้!
เมื่อสงป้าเห็นชายชราทั้งสองจากภูเขาฟีนิกซ์ปรากฏกายขึ้น เขาก็อุทานขึ้นทันที “เฟิงปิง เฟิงชิว!”
เมื่อได้สติ สงป้ารีบหันหลังหนีอย่างไม่คิดชีวิตทันที
แต่น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสทั้งสองนี้เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิ!
เฟิงปิงและเฟิงชิวทำการส่งเจตจำนงของพวกเขาไปแยกร่างสงป้าออกเป็น 12 ส่วนทันที และแบ่งกันเก็บเศษซากร่างของสงป้าเอาไว้ในแหวนมิติ
ส่วนทางด้านของหนิงเฟิง และหนิงฮ่าวที่กำลังเฝ้ารอสงป้านำตัวหวงเซียะกลับมา จู่ ๆ ก็มีพายุอันรุนแรงบังเกิดขึ้นตรงหน้าของพวกเขา ซึ่งมันฉีกกระชากร่างของพวกเขาจนแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดีก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวด้วยซ้ำ
จากความผิดของพ่อลูกตระกูลหนิงที่ได้ทำเอาไว้ เฟิงปิงและเฟิงชิวจึงสำเร็จโทษพวกเขาทันทีโดยที่ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้แก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)