เย่ชางคงพยักหน้าช้า ๆ เมื่อได้ยินคำถามว่าเขามีกุญแจดอกสุดท้ายหรือไม่ ส่งผลให้จิ๋นฉีฮ่าวและฟานหู่อึ้งไปอยู่สักพัก จากนั้นพวกเขาก็ระเบิดหัวเราะออกมาด้วยความดีใจ เนื่องจากในที่สุดกุญแจทั้งสามดอกก็ได้มารวมกันสักที ซึ่งมันหมายความว่าถึงเวลาที่พวกเขากำลังจะรวยกันแล้ว
“งั้นก็เอากุญแจออกมาเลย พวกเราจะได้เข้าไปในตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนได้สักที ในเมื่อพวกเจ้ามีกุญแจอีกดอกหนึ่ง พวกข้าจะให้พวกเจ้าเป็นหุ้นส่วนและพวกเราจะเข้าไปด้วยกันทั้งหมด!” จิ๋นฉีฮ่าวพูดกับเย่ชางคง พร้อมกับหัวเราะ
เย่ชางคงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “แล้วกุญแจของพวกท่านล่ะอยู่ที่ไหน?”
ฟานหู่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “พวกเราพกกุญแจติดตัวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วเผื่อเอาไว้ว่าหากหากุญแจดอกสุดท้ายเจอเมื่อไหร่ พวกเราจะได้เปิดตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนได้ทันที”
เย่ชางคงพยักหน้าและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็เอาออกมาพร้อม ๆ กัน!”
เมื่อพูดจบ เย่ชางคงก็หันไปหาหลิงตู้ฉิงเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้เขาหยิบกุญแจขึ้นมา
ในระหว่างที่พวกเขาคุยกัน เรื่องของกุญแจดอกสุดท้ายที่ถูกหาเจอก็ได้ยินไปถึงหูของบรรดาผู้คนที่หวังจะมาเสี่ยงดวงรอบ ๆ ภูเขาไฟนิรันดร์เรียบร้อย ส่งผลให้บรรดาผู้คนต่างมามุงดูด้วยความตื่นเต้นว่ากุญแจดอกสุดท้ายนั้นเป็นของจริงหรือไม่
ทางด้านของหลิงตู้ฉิงก็มองไปยังจิ๋นฉีฮ่าวและฟานหู่ จากนั้นทั้งสามคนก็หยิบกุญแจขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ซึ่งในวินาทีที่กุญแจทั้งสามดอกปรากฏ พวกมันก็ส่องแสงสีแดงอันเจิดจ้าไปทั่วบริเวณพร้อมกับลอยขึ้นไปบนฟ้า และยิงลำแสงสีแดงไปยังภูเขาไฟนิรันดร์
ในเวลาเดียวกับที่แสงสีแดงทั้งสามสายกระทบเข้ากับภูเขาไฟนิรันดร์ ผืนแผ่นดินของทั้งอาณาเขตเทียนหยวนก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ลาวาที่อยู่ใต้พื้นดินก็ถูกดันขึ้นออกมาทางปล่องภูเขาไฟอย่างรุนแรงเหมือนถูกบางสิ่งบางอย่างกำลังดันพวกมันขึ้นมา
จากนั้นเวลาผ่านไปเพียง 1 ก้านธูป จู่ ๆ ภูเขาไฟทั้งลูกก็แตกระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยรวมไปถึงพื้นดินบริเวณรอบ ๆ ภูเขาไฟก็ระเบิดขึ้นไปบนท้องฟ้าเช่นกัน
พื้นดินทั่วทั้งบริเวณถูกพลิกกลับเป็นวงกว้างจนมีทั้งฝุ่นและเขม่าควันลอยตลบอบอวลไปหมด ส่งผลให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อย่างชัดเจนว่าสาเหตุการระเบิดนี้มันมากจากอะไรกันแน่
เหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิของทั้งสามสำนักใหญ่ต่างพยักหน้าให้กัน จากนั้นพวกเขาก็ใช้พลังแห่งเจตจำนงของตนเองเป่าเหล่าฝุ่นและกลุ่มควันให้สลายไป ซึ่งหลังจากที่ควันและฝุ่นทั้งหมดหายไป ภาพที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคนคือจู่ ๆ ก็มีเมืองขนาดยักษ์ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน!
และแน่นอนว่าเมืองนี้ก็คือ ตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน!
“ตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน มันใหญ่ขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?” เย่ชางคงอดไม่ได้ที่จะอุทานขึ้น
เขาไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่ามันจะมีขนาดใหญ่เท่ากับเมืองขนาดยักษ์เมืองหนึ่ง
ฟานหู่ตอบกลับด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ตำหนักศักดิ์สิทธิ์นี้มันดูแตกต่างจากตำหนักศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ มากจริง ๆ แทบจะทั้งหมดที่ข้าเคยไปมามันจะเป็นแค่มิติจำลองที่ถูกสร้างขึ้น แต่อันนี้มันกลับดูเหมือนว่ามันคือสิ่งปลูกสร้างถาวรที่แท้จริง”
จิ๋นฉีฮ่าวหัวเราะ “แล้วมันไม่ดีหรอกเหรอ ในเมื่อมันเป็นแบบนี้พวกเราก็จะได้เข้าไปได้กันหมดทุกคนเลยไง”
ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่ เมื่อตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนปรากฏขึ้นจากพื้นดินจนสมบูรณ์แล้ว กุญแจทั้งสามที่เปล่งแสงลอยอยู่บนท้องฟ้านั้นก็ค่อย ๆ หม่นแสงลงและร่วงหล่นลงมา
เมื่อเห็นว่ากุญแจทั้งสามกำลังร่วงลงมา เหล่าผู้คนที่บังเกิดความโลภในใจต่างก็พากันพุ่งตัวจะไปคว้าเอากุญแจทันที
ทุกคนต่างรู้ดีว่ากุญแจนี้มันจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอนและประโยชน์ของมันนั้นน่าจะไม่ใช่แค่การทำให้ตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนปรากฏขึ้นเพียงอย่างเดียว บางทีมันอาจยังเป็นสิ่งจำเป็นที่เอาไว้ใช้เปิดห้องลับที่ด้านในต่อ หรือไม่แน่ผู้ที่ถือครองมันไว้อาจจะได้กลายเป็นผู้ครองตำหนักเลยก็ได้
“บังอาจนัก!” เย่ชางคง จิ๋นฉีฮ่าว และ ฟานหู่ ต่างตะคอกขึ้นพร้อม ๆ กัน และจากนั้นทั้งสามคนก็ปล่อยพลังเจตจำนงของตนเองไปยังเหล่ากลุ่มคนที่กำลังพยายามพุ่งตัวเข้าไปคว้ากุญแจทั้งสามดอก
แต่ก่อนที่พวกเขาทั้งสามจะแย่งกุญแจมาได้ จู่ ๆ ก็มี 3 มือยักษ์ปรากฏขึ้น ซึ่งมันเหมือนทำให้เวลาของทั่วทั้งบริเวณหยุดนิ่งและต่อมาทั้ง 3 มือนั้นก็คว้าเอากุญจากกลุ่มฝูงชนไปมือละดอก
แน่นอนว่ามือทั้งสามนี้เกิดมาจากพลังอำนาจของเหล่าบรรพบุรุษขอบเขตมหาจักรพรรดิของทั้ง 3 สำนัก
แต่มันก็มีปัญหาอีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นก็คือบรรพบุรุษของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่คว้าเอากุญแจมาได้นั้น เขาไม่ยอมคืนกุญแจให้กับหลิงตู้ฉิง เขาเลือกเก็บไว้กับตัวเองและทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)