ในเวลานี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญนับแสนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน ต่างพากันกรูเข้าไปด้านในตำหนักอย่างบ้าคลั่ง เนื่องจากในตอนนี้พวกเขาต่างรู้กันหมดแล้วว่าตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนมันไม่จำกัดผู้ที่สามารถเข้าไปด้านใน
ทางด้านของหลิงตู้ฉิงก็พาเหล่าคนของเขาและทาสรับใช้ขอบเขตจักรพรรดิอีก 2 คนตามเข้าไปข้างในด้วยเช่นกัน
หลังจากที่พวกเขาย่างกรายเข้าไปอาณาเขตของตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน มันก็เหมือนกับว่าพวกเขาได้หลุดเข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง
ทัศนียภาพตรงหน้าพวกเขามันกลายเป็นลานกว้างขนาดยักษ์ที่ถูกปูไปด้วยกระเบื้องหิน ซึ่งกินพื้นที่กว้างกว่า 1,000 ตารางกิโลเมตรและมันยังถูกประดับประดาไปด้วยเสาคบเพลิงรูปร่างมังกรกำลังพ่นไฟพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกนับพันต้น
อันที่จริงเสาคบเพลิงพวกนี้ก็คือมังกรที่มีชีวิตจริง ๆ ที่กำลังหลับอยู่ ซึ่งในขณะที่มันกรนมันก็ปล่อยเปลวเพลิงออกทางจมูกจนกลายเป็นการให้แสงสว่างแก่ลานกว้างนี้อย่างทั่วถึง
ที่ด้านนอกของตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน ผู้คนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่ได้ตามเข้าไปด้านใน
หลังจากเห็นว่ากลุ่มของหลิงตู้ฉิงเข้าไปด้านในแล้ว เย่ชางคงก็พูดกับบรรพบุรุษของสำนักเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “นี่ท่านคิดว่าการกระทำเมื่อครู่ของท่านมันไม่เกินไปหน่อยงั้นเหรอ หยูชี่หลง? ตู้ฉิง นั้นเป็นลูกเขยของข้าแถมยังช่วยเหลือสำนักของเราเอาไว้มากมาย แต่ท่านยังกล้าแย่งกุญแจของเขาไปอีกงั้นเหรอ?”
เขารู้สึกโกรธเป็นอย่างมากจริง ๆ เย่ชางคงโกรธจนในตอนนี้เขาไม่มีการให้เกียรติใด ๆ แก่บรรพบุรุษของสำนักโดยการเรียกชื่อตรง ๆ
แต่ที่เขาเพิ่งมาแสดงอาการโกรธตอนนี้ก็เพราะว่า เมื่อครู่หลิงตู้ฉิงและคนนอกสำนักยังคงอยู่ด้วย ซึ่งไม่ว่าจะยังไงเขาก็ยังคงต้องรักษาภาพพจน์ของสำนักเอาไว้ก่อน
หยูชี่หลงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ชางคง ต่อให้เขาจะเป็นลูกเขยของเจ้า เขาก็ยังเป็นคนนอกอยู่ดี แล้วยิ่งดูจากการกระทำของเขาแล้ว เขาคงไม่มีทางมาเข้าร่วมสำนักของเราแน่นอน ในตอนนี้เมื่อสำนักของเรามีโอกาสที่จะได้โชคลาภครั้งใหญ่และกุญแจนี้ก็เป็นตัวแปรที่สำคัญมาก ๆ ดังนั้นมันจึงเป็นการดีที่สุดที่เราจะเก็บกุญแจนี้เอาไว้เอง และมันก็เป็นเพราะว่าเขาเป็นลูกเขยของเจ้า ซึ่งเจ้าคงไม่อาจตัดใจคิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมและลงมือได้เอง ข้าจึงยอมสละตัวเองเป็นกลายเป็นคนร้ายทำเรื่องสกปรกให้ ตราบใดที่มันสามารถทำให้สำนักของเราแข็งแกร่งขึ้นได้ข้ายอมทำทุกอย่าง”
“และอีกอย่างเจ้าคิดว่าเจ้าคิดว่าลูกเขยของเจ้าจะสามารถปกป้องกุญแจได้งั้นเหรอ? ในตอนนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่เข้าไปในตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนนั้นมีจำนวนมากมายแถมหลาย ๆ คนก็เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิซะด้วยซ้ำ ต่อให้เขาจะพาเย่จางเฟิง เย่ฉิงเสี่ยวเข้าไปด้วยแล้วมันจะยังไง? สองคนนั้นจะต้านผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิได้สักกี่คนกัน? หากกุญแจนี้มันยังอยู่ในมือพวกเขา อีกไม่นานพวกเขาจะต้องเจอกับหายนะแน่นอน ซึ่งอันที่จริงการที่ข้าทำเช่นนี้ข้าเองก็หวังดีกับพวกเขาเหมือนกัน!”
เย่ชางคงรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก แต่เมื่อได้ยินเช่นนี้เขาก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออก เนื่องจากสิ่งที่หยูชี่หลงทำลงไปมันก็เป็นเพราะประโยชน์ส่วนรวมของสำนัก และมันก็เป็นเรื่องจริงที่ถ้าหากกุญแจยังอยู่กับหลิงตู้ฉิงมันก็คงเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
“เดินหน้า!” เย่ชางคงสั่งขึ้น
ในเมื่อเขาเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือการนำคนมุ่งหน้าเข้าไปตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน
แต่แล้วเมื่อพวกเขาเข้ามาด้านในตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน เย่ชางคงก็พูดกับมู่หลงหยานทางโทรจิต “เจ้าจงล่วงหน้าไปหาลูกของเราและตู้ฉิง และช่วยคุ้มครองพวกเขาที พร้อมกับอธิบายให้พวกเขาเข้าใจด้วยว่าพวกเราเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)