หลิงตู้ฉิงแกะรอยตามอสูรเกราะเหล็กมาได้สักพัก
เมื่อเขาเดินมาได้มากกว่า 20 ลี้ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงผืนดินสั่นสะเทือนและรู้สึกถึงการผันผวนของพลังวิญญาณในบริเวณด้านหน้า
“ไม่นะ มีคนกำลังโจมตีอสูรเกราะเหล็กอยู่!” หลิงตู้ฉิงร้อนใจรีบมุ่งหน้าวิ่งไปยังบริเวณที่พลังวิญญาณกำลังผันผวน
มันไม่ง่ายเลยสำหรับเขาที่จะเจอสัตว์เวทย์ที่ล้ำค่า แต่มันกำลังถูกใครบางคนแย่งไป เขาจะยอมรับได้อย่างไร? ถ้าเขาช้าเกินไป คนอื่นก็จะสังหารอสูรเกราะเหล็กได้ก่อนและเขาก็จะไม่ได้รับส่วนแบ่งใด ๆ และที่สำคัญในชีวิตนี้เขาไม่สามารถสังหารผู้อื่นเพื่อแย่งชิงสิ่งของได้เหมือนชาติที่แล้วโดยไร้เหตุผล เนื่องจากมันขัดกับเส้นทางของเต๋าแห่งอารมณ์ของเขา เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลิงตู้ฉิงจึงโคจรพลังวิญญาณของตนเองจนถึงขีดสุดและรีบพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
จากระยะไกลหลิงตู้ฉิงตะโกน “อย่ากังวล ข้ามาช่วยแล้ว!”
เหตุผลที่เขารีบตะโกน เนื่องจากตามตรรกะของเขาแล้ว เมื่อสัตว์ตัวนี้ตายเขาสามารถอ้างได้ว่าเขานั้นเป็นผู้ช่วยสังหารเช่นกัน แม้ว่าคนผู้นั้นจะสังหารอสูรเกราะเหล็กสำเร็จ หลิงตู้ฉิงคิดว่าเขาก็ยังคงได้รับส่วนแบ่งอย่างน้อย 500 เหรียญทองเป็นอย่างต่ำ
ในระยะไกลเขาเห็นร่างเงาของคนผู้หนึ่งที่กำลังต่อสู้กับอสูรเกราะเหล็ก
เมื่อเงานั้นได้ยินเสียงตะโกน เงานั้นจู่ ๆ ก็สะดุ้งและกลับมามองไปยังทิศทางที่ได้ยินเสียงของหลิงตู้ฉิง อย่างไรก็ตามเมื่อเขาหันหน้าไป เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องในทันที
เขากำลังต่อสู้กับสัตว์เวทย์อยู่นี่!
เขารีบหันหลังกลับเพื่อเผชิญหน้ากับอสูรเกราะเหล็ก แต่เมื่อเขาหันกลับมาก็มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว!
อสูรเกราะเหล็กได้กระโจนเข้ามาอยู่ตรงหน้าเขาเรียบร้อย ในเวลาเดียวกันมันส่งหางที่ปลายของมันคมเหมือนหอกเหล็กพุ่งออกมาจากทิศทางใต้ท้องของมันเสียดแทงไปยังกลางลำตัวของผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ได้ทันระวังตัว
เมื่อจวนตัวคนผู้นั้นก็ได้ยกกระบี่ขึ้นมาป้องกันการโจมตีจากหางอสูรเกราะเหล็ก ทำให้เจ้าของร่างรอดความตายมาอย่างหวุดหวิด แต่ก็ยังไม่พ้นที่จะต้องบาดเจ็บสาหัสจากแรงกระแทกที่ปลายหางสัมผัสกับตัวกระบี่ ซึ่งส่งแรงสะท้อนมายังเจ้าของร่าง คนผู้นั้นไม่คิดว่าอสูรเกราะเหล็กมันจะส่งหางของมันออกมาจากทิศทางใต้ท้องของมัน เขากระอักเลือดกองโตและกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตรก่อนจะหมดสติไป
“นี่เขากลับเสียสมาธิได้ง่าย ๆ ในระหว่างสู้อย่างนั้นเหรอ? อ่อนหัดจริง ๆ!” หลิงตู้ฉิงพึมพำ
เขาลืมไปว่าเสียงตะโกนของเขาเองนั่นแหละที่ทำให้เจ้าของร่างนั้นหันกลับมา
“แต่ก็ดีนะที่เจ้าหมดสติไป ข้าจะสังหารอสูรเกราะเหล็กก่อนแล้วค่อยช่วยเจ้า และด้วยคุณธรรมที่ข้าช่วยเหลือ เจ้าก็จะไม่สามารถต่อสู้กับข้าเพื่อแย่งชิงรางวัลจากอสูรเกราะเหล็กได้แน่นอน!” หลิงตู้ฉิงยังคงพึมพำ
ในเวลานี้เอง อสูรเกราะเหล็กเห็นเขาเข้าแล้วจึงได้พุ่งเข้าปะทะและพร้อมที่จะสังหารหลิงตู้ฉิงในทันที
เมื่อมองไปที่ดวงตาและปากที่เบิกกว้างของมัน หลิงตู้ฉิงก็พูดเบา ๆ “ถึงกระดองของเจ้าจะแข็งและผิวหนังของเจ้าเองก็ไม่อ่อนแอแต่จุดอ่อนของเจ้าก็เห็นได้ชัดเจนมาก! ตราบใดที่มีความแม่นยำและความเร็วที่เพียงพอ ด้วยขอบเขตหลอมรวมลมปราณ ข้าก็สามารถสังหารเจ้าได้ง่ายเหมือนผลิกฝ่ามือ ต่อให้เจ้าจะอยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณก็ตาม! ดัชนีเปิดสวรรค์!”
ทักษะนี้เป็นทักษะเดียวกับที่หลิงตู้ฉิงใช้กับเจิ้นสีชวง แต่ในเวลานี้ที่เขาใช้มัน การโจมตีของเขารวดเร็วกว่าในตอนนั้นมาก
ดัชนีเปิดสวรรค์ที่ชี้ไปนั้นพลังวิญญาณได้พุ่งผ่านกำแพงอากาศเข้าไปโจมตีดวงตาของอสูรเกราะเหล็กและเจาะทะลุผ่านสมองของมันอย่างรุนแรง
เท้าของอสูรเกราะเหล็กหยุดเคลื่อนไหวในทันที จากนั้นจึงไถลผ่านหลิงตู้ฉิงไปประมาณ 100 เมตรแล้วจึงหยุดลง
หลังจากเห็นว่าอสูรเกราะเหล็กตายแล้วหลิงตู้ฉิงก็ไปดูผู้ที่หมดสติว่าเป็นอะไรบ้าง
เขาเดินไปและก็ได้เห็นใบหน้าอันงดงาม
“หญิงสาวงั้นหรือ?”
หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วเขาดูตรวจสภาพของนาง เห็นว่าไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก แต่ที่อกของนางมีก้อนพลังอุดตันอยู่ก้อนหนึ่ง ก้อนนั้นได้หยุดยั้งการไหลเวียนของพลังวิญญาณของนาง นางจึงไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ชั่วขณะนี้ หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงก็เปิดเสื้อนอกของนางออก เอามือขวากดที่จุดตันเถียนของนางและส่งพลังวิญญาณเข้าไปภายในร่างของนาง เพื่อกระตุ้นเลือดในกายนาง
จากนั้นเขาจัดการกับการไหลเวียนของพลังวิญญาณที่กำลังยุ่งเหยิงของนางให้ไหลเวียนได้สงบเหมือนเดิม เมื่อเห็นว่าพลังวิญญาณของนางที่ไหลเวียนอยู่เริ่มกลับสู่สภาวะปกติ หลิงตู้ฉิงจึงเอามืออีกข้างเคลื่อนไหวไปตามหน้าอกของนางและใช้พลังวิญญาณกวาดเลือดเสียที่ยังตกค้างอยู่ภายในอกของนางให้กระอักออกมา
มือกระบี่สาวที่หมดสติกระอักเลือดพุ่งออกมาเต็มปาก และค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)