พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 604

แค่เพียงก้าวแรกที่ทุกคนเหยียบเข้าไปในอาณาเขตเต๋า ทุกคนก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขามาไม่ผิดที่แน่นอน เนื่องจากบรรดาผู้คนที่อยู่ในอาณาเขตแห่งนี้แทบจะทั้งหมดล้วนแต่งกายด้วยชุดนักพรตเต๋าไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง

“นายท่าน ทำไมคนของที่นี่ถึงบวชเป็นนักพรตกันเยอะขนาดนี้?” หยุนจื่อรุ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “อันที่จริงคนพวกนี้คือคนของสำนักเต๋าสวรรค์ทั้งหมด เส้นทางการบ่มเพาะของพวกเขานั้นจำเป็นที่จะต้องเข้าใจถึงธรรมชาติของโลก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เอาแต่บ่มเพาะอยู่ในสำนักแค่เพียงอย่างเดียว พวกเขามักออกเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ และเมื่อเจอสถานที่ที่ถูกใจ พวกเขาก็จะสร้างวัดและนั่งอยู่ตรง ณ จุดนั้น ๆ เป็นเวลาหลายปี นี่คือสิ่งที่เหล่าคนของสำนักเต๋าสวรรค์เป็นมาตั้งแต่โบราณกาล”

“สำนักเต๋าสวรรค์คือหนึ่งในสำนักที่มีประวัติความเป็นมายาวนานที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์และเนื่องจากพวกเขาอยู่มาเป็นเวลานาน รากฐานของพวกเขาจึงหยั่งรากลึกไปจนถึงขนาดที่แม้แต่ขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดยังไม่กล้าล่วงเกิน” เย่ชิงเฉิงอธิบายเสริม

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะนายหญิง?” เปียนเฉียวเฉียวถามขึ้น

เย่ชิงเฉิงหัวเราะ “นั่นก็เพราะว่าทั้งอาณาเขตเต๋าแห่งนี้มันคือส่วนหนึ่งของสำนักเต๋าสวรรค์ด้วยน่ะสิ”

“นี่ท่านหมายความว่าตอนนี้พวกเราได้ก้าวเข้ามาในสำนักเต๋าสวรรค์แล้วงั้นเหรอ?” หยุนจื่อรุ่ยรู้สึกงุนงง

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ถูกต้อง พวกเราได้เข้ามาในพื้นที่ของสำนักเต๋าสวรรค์แล้ว ที่สำคัญพื้นที่ทั้งหมดของอาณาเขตเต๋าแห่งนี้เต็มไปด้วยเจตจำนงของผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ระดับเหนือขอบเขตราชันทุกคนของสำนักเต๋าสวรรค์ที่หลงเหลือทิ้งเอาไว้ให้บรรดาคนรุ่นใหม่ของสำนักได้ศึกษาแต่ถ้าหากมีศัตรูบุกเข้ามา บรรดาเจตจำนงที่สถิตอยู่ก็จะกลายเป็นอาวุธที่เอาไว้คอยขับไล่ผู้บุกรุกให้ออกไป นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีใครกล้าที่จะมาหาเรื่องสำนักเต๋าสวรรค์”

“เจ้าก็ลองคิดดูเอาก็แล้วกันว่าสำนักเต๋าสวรรค์นั้นดำรงอยู่มาเป็นล้านปี ดังนั้นสำนักของพวกเขาจะเคยมีผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เหนือขอบเขตราชันมาแล้วกี่คน ซึ่งทุกคนต่างก็ทิ้งเจตจำนงของตัวเองไว้ที่นี่กันหมด”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียวต่างก็ครุ่นคิดและรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก

พวกนางประมาณการกันอย่างน้อย ๆ ว่าสำนักแห่งนี้น่าจะอยู่มาเป็นล้านปี ดังนั้นพวกผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันขึ้นไปก็คงน่าจะมีถึงหลักแสนคนใช่ไหม?

ดังนั้นถ้าหากมีศัตรูบุกมาเมื่อไหร่ มันก็เท่ากับว่าอันดับแรกบรรดาศัตรูเหล่านั้นก็ต้องปะทะกับเจตจำนงนับแสนที่อยู่ในระดับขอบเขตราชันขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสำนักไหนที่มีกองกำลังผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันขึ้นไปได้ถึงแสนคน

แต่แน่นอนว่าทุกอย่างล้วนมีสมดุลของมัน ถึงแม้ว่าสำนักเต๋าสวรรค์จะมีเจตจำนงที่แข็งแกร่งอยู่นับแสนแต่เจตจำนงเหล่านี้ก็ไม่อาจถูกเคลื่อนย้ายได้ ทำได้แค่เพียงเป็นแหล่งความรู้ให้กับเหล่าผู้คนรุ่นใหม่ของสำนักเต๋าสวรรค์ได้ศึกษาหรือไม่ก็ทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องดินแดนแห่งนี้เท่านั้น

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดต่อ “แต่เหตุผลที่สำนักเต๋าสวรรค์นั้นอยู่มาได้นานขนาดนี้นั้นไม่ใช่เพราะพวกเขามีเจตจำนงที่แข็งแกร่งนับแสนคอยปกป้องเพียงอย่างเดียว เหตุผลที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือแนวคิดของสำนักพวกเขานั้นเน้นไปที่การดำรงอยู่อย่างสงบและเรียบง่าย ไม่เช่นนั้นต่อให้พวกเขาจะมีเจตจำนงที่คอยปกป้องพวกเขามากมายขนาดไหนมันก็คงไม่สามารถช่วยพวกเขาได้เช่นกัน”

ในความเป็นจริงต่อให้สำนักเต๋าสวรรค์จะมีเจตจำนงที่แข็งแกร่ง ไม่ต้องพูดหลักแสน ต่อให้เป็นหลักสิบล้านแต่ถ้าหากไปเจอกับตัวตนที่อยู่คนละระดับไปแล้ว ทุกอย่างก็อาจจะหายไปได้แค่ชั่วพริบตา

ยกตัวอย่างเช่นตัวตนของอัจฉริยะในอดีตที่พยายามสร้างโลกใบใหม่แต่ไม่สำเร็จจนกลายเป็นเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับในปัจจุบัน

ในอดีต ตัวตนนั้นสามารถแยกแผ่นดินของโลกออกจนกลายเป็นทวีปแบบในปัจจุบันได้ ดังนั้นนับประสาอะไรกับสำนักเต๋าสวรรค์ที่มีแค่เจตจำนงหลักแสน?

ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ ๆ ก็มีชายคุ้นหน้าผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น

ชายผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นคือ อู๋หลิงซี ผู้ซึ่งเป็นผู้มารับตัวหลิงว่านถิงที่อาณาเขตนภา

อู๋หลิงซีเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าซับซ้อน “ข้านึกไม่ถึงเลยว่าผู้มีพระคุณจะมาเยือนสำนักเต๋าสวรรค์ของเราเร็วขนาดนี้”

เขาไม่ต้องการให้หลิงตู้ฉิงมาที่สำนักของเขาแม้แต่น้อย เนื่องจากเขาเข้าใจว่าหลิงตู้ฉิงคือเทพกระบี่ที่กลับชาติมาเกิด ซึ่งตัวตนของเทพกระบี่นั้นมีศัตรูอยู่มากมายแถมลักษณะนิสัยก็ใช่ว่าจะเมตตาอะไรนัก หากมีสิ่งใดไม่ถูกใจหลิงตู้ฉิงขึ้นมา สำนักของเขาอาจตกอยู่ในความวุ่นวายได้ง่าย ๆ

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่อยากต้อนรับข้าสักเท่าไหร่สินะ” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น “ว่าแต่ลูกสาวของข้าอยู่ที่ไหน? นางสบายดีรึเปล่า?”

ใครมันจะไปอยากต้อนรับเจ้ากัน? อู๋หลิงซีคิดในใจ

แน่นอนว่าภายนอกเขาเผยรอยยิ้มกลบเกลื่อนและพูดว่า “ในตอนนี้ว่านถิงกำลังอยู่ในช่วงการทำความเข้าใจกับเคล็ดวิชาของสำนักเราอยู่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนนาง พวกเราจึงไม่ได้แจ้งกับนางว่าท่านได้มาถึงที่นี่เมื่อเราสัมผัสได้ถึงตัวตนของท่าน แต่ด้วยความสามารถอันเป็นอัจฉริยะของนาง ข้าคิดว่าอีกไม่นานนางคงจะออกมาเจอกับท่านได้อย่างแน่นอน ผู้มีพระคุณ ในระหว่างที่รอนี้ข้าขอพาท่านไปที่สำนักของเราก่อนเพื่อให้ท่านได้พักผ่อนหลังจากเดินทางมาไกล”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “พาข้าไปเจอกับนางก่อน ข้าต้องการที่จะรู้ว่าในตอนนี้นางกำลังทำอะไรอยู่และต้องการที่จะรู้ว่าในระหว่างที่นางอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานาน นางได้เจอกับความยากลำบากอะไรบ้างรึเปล่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)