พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 628

สรุปบท บทที่ 628 ถูกตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์รุกราน: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

สรุปเนื้อหา บทที่ 628 ถูกตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์รุกราน – พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดย Internet

บท บทที่ 628 ถูกตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์รุกราน ของ พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

พอดีกับที่หลิงตู้ฉิงคุยกับโม่หยูถังจบ เหลียนปู้ชิงก็ได้มาถึงคฤหาสน์สราญรมย์

หลังจากที่เขาได้รับข่าวจากจ้าวปาเทียน เขาก็รีบตรงดิ่งมาทันที

เมื่อได้เข้ามาเจอหลิงตู้ฉิง เหลียนปู้ชิงก็เอ่ยถามทันที “คารวะท่านคณะบดี ไม่ทราบว่าท่านมีอะไรให้ข้ารับใช้งั้นเหรอ?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบว่า “ข้าจะถ่ายทอดทักษะการสร้างสมบัติระดับสูงให้กับเจ้า เพื่อแลกกับข้อแลกเปลี่ยนบางอย่าง”

เหลียนปู้ชิงแสดงสีหน้าสงสัยและเอ่ยถามกลับ “ไม่ทราบว่าท่านต้องการอะไรงั้นเหรอ? หากข้าสามารถทำให้ท่านได้ ข้าจะทำมันอย่างแน่นอน!”

“ทักษะการสร้างสมบัติที่ข้าจะถ่ายทอดให้กับเจ้านั้นมันคือสุดยอดวิธีการหลอมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่บรรพกาล!” หลิงตู้ฉิงกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “หากมีใครรู้ว่าเจ้ารู้วิธีการสร้างนี้ เจ้าจะถูกผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนตามล่าไปจนสุดขอบโลก ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของเจ้า หลังจากที่ข้าถ่ายทอดมันให้แล้ว เจ้าควรจะเข้าร่วมกับอาณาจักรจันทราและรับตำแหน่งเป็นขุนนาง มีแต่ยี่เทียนเท่านั้นที่จะสามารถคุ้มครองเจ้าได้จนกว่าเจ้าจะยืนหยัดด้วยตนเองได้”

เหลียนปู้ชิงตอบกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้นทันที “ท่านคณะบดีหวังดีกับข้าเช่นนี้ แน่นอนว่าข้าย่อมตกลง!”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ถ้างั้นก็เยี่ยมมาก เอาล่ะข้าจะถ่ายทอดวิธีการสร้างอาวุธที่มีระดับต่ำกว่าจักรพรรดิทั้งหมดให้เจ้าเดี๋ยวนี้แหละ”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็ทำการถ่ายทอดวิธีการสร้างอาวุธให้กับเหลียนปู้ชิงทันที แต่ด้วยเนื้อหาที่มีจำนวนเยอะมหาศาล มันจึงทำให้เหลียนปู้ชิงถึงกับล้มลงนอนเข้าสู่สภาวะหลับลึก

โม่หยูถังที่เห็นภาพเช่นนี้ก็มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาตกตะลึงและถามขึ้น “นายท่าน ทักษะการสร้างสมบัติที่ท่านถ่ายทอดไปมันเป็นของตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม? ท่านไปเรียนรู้มันมาได้ยังไงกัน?”

เนื่องจากเขาเป็นคนของสำนักเทพปีศาจเก้าอเวจี ดังนั้นเขาจึงรู้ว่ามีแต่ทักษะการสร้างสมบัติของตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถจะทำให้ผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะไม่สูงสามารถสร้างสมบัติระดับจักรพรรดิได้

แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือ หลิงตู้ฉิงไปรู้ทักษะที่สูญหายนี้มาจากที่ไหน?

หลิงตู้ฉิงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และพูดขึ้นว่า “เพราะว่าข้าเองนี่แหละที่เป็นคนทำลายตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์และขโมยมันมา!”

“ตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายโดยท่านงั้นเหรอ?” โม่หยูถังถามขึ้นทวน จากนั้นเมื่อเขานึกอะไรขึ้นได้ จู่ ๆ ขาของเขาก็ขยับก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว 2-3 ก้าวด้วยสีหน้าหวาดกลัว เขามองหน้าหลิงตู้ฉิง และพูดขึ้นด้วยอาการตัวสั่น “มันคือท่าน! ท่านคือตัวตนผู้นั้น! ท่านคือตัวตนต้องห้ามที่ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเมื่อหลายหมื่นปีก่อน!”

“ชู่ววว อย่าเสียงดังไปสิ!” หลิงตู้ฉิงล้อเลียน “พูดเสียงดังแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นเขาก็รู้กันหมดหรอก ข้ายังไม่อยากให้คนอื่น ๆ รู้ในตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา แถมพวกเขาอาจจะกลัวข้าจนเข้าหน้าข้าไม่ติด!”

ถึงแม้ความจริงแล้วหลิงตู้ฉิงจะพูดล้อเล่น แต่โม่หยูถังกลับไม่คิดว่าคำพูดนี้มันคือการล้อเล่นแม้แต่น้อย

หลิงตู้ฉิงมองไปที่โม่หยูถังที่ยังไม่หายจากอาการตื่นกลัว เขายิ้มและถามขึ้นว่า “ข้าน่ากลัวขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?”

โม่หยูถังไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้ยังไง เขาได้แต่คิดในใจ ‘น่ากลัวแค่ไหนท่านก็ควรไปถามพวกดวงวิญญาณของบรรดาสำนัก อาณาจักร หรือไม่ก็พวกเจ้าของกองกระดูกที่อยู่ในแดนกระดูกขาวที่ท่านสังหารไปทั้งหมดสิ ไอ้ดวงวิญญาณพวกนั้นมันคงจะให้คำตอบท่านได้ดีที่สุด!’

“พ่อบ้านโม่ ข้ามีอาวุธระดับจักรพรรดิอยู่กับตัวหลายอัน ข้าจะมอบมันให้เจ้าไว้ใช้สักอันหนึ่ง” เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็โยนอาวุธระดับจักรพรรดิให้กับโม่หยูถัง จากนั้นเขาพูดขึ้นต่อว่า “อันที่จริงข้าเองก็มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตัวด้วยเหมือนกัน แต่บังเอิญว่าในตอนนี้ข้ายังจำเป็นต้องใช้งานมันอยู่ไว้อนาคตข้าค่อยให้เจ้าก็แล้วกัน”

โม่หยูถังเผยรอยยิ้มขมขื่นและพูดว่า “นายท่าน แค่อาวุธระดับจักรพรรดิข้าก็ไม่สามารถสำแดงอำนาจของมันได้อย่างเต็มที่แล้ว ดังนั้นสำหรับข้าแค่นี้มันก็มากเกินพอ แต่ว่า…”

“หากเจ้ามีคำถามอะไรอีกก็จงถามมาได้เลย” หลิงตู้ฉิงยิ้ม

จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็ไม่สนใจเหลียนปู้ชิงและโม่หยูถังที่กำลังทำความเข้าใจทักษะที่เขาเพิ่งถ่ายทอดให้ไป เขาหันไปหลอมโอสถและสร้างอุปกรณ์สำหรับใช้จัดตั้งค่ายกลป้องกันแทน

แน่นอนว่าเหล่าโอสถนั้นมีไว้สำหรับคนในครอบครัวของเขา ส่วนอุปกรณ์สำหรับใช้จัดตั้งค่ายกลป้องกันนั้นมีไว้สำหรับเอาไปติดตั้งที่สถาบันจันทรา

หากสถาบันจันทราไม่เผชิญกับหายนะใด ๆ ที่มีอำนาจเหนือกว่าพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้เป็นแกนกลางของค่ายกลป้องกัน มันก็จะสามารถอยู่รอดได้อย่างไม่มีปัญหา

ในระหว่างที่หลิงตู้ฉิงกำลังยุ่งอยู่กับธุระของเขาเองอยู่นั้น เทียนซ่งหยูก็ได้เจอและคุยกับหลิงยู่ชานจนเรียบร้อย และในตอนนี้ก็กำลังจะเตรียมตัวกลับ

ก่อนที่จะกลับ เทียนหลีก็ได้มาขอเข้าพบกับหลิงตู้ฉิงอีกครั้งและพูดว่า “คุณชายหลิง โปรดแจ้งกับลูกชายของท่านทีว่าเขาสามารถไปยึดครองอาณาจักรเลือดทระนงได้เลย ข้าสั่งให้คนของข้าทางนั้นเตรียมตัวย้ายออกกันแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงก็แจ้งเรื่องไปให้กับหลิงยี่เทียนจัดการต่อทันที

แต่ก่อนที่ทุกคนจะทันได้ออกไปไหน พวกเขาก็ถูกหยุดเอาไว้

คนกลุ่มหนึ่งที่แสดงท่าทีแข็งกร้าวได้มาถึงด้านนอกของคฤหาสน์สราญรมย์และตะโกนขึ้น “พวกข้าคือคนของตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์ จักรพรรดิแห่งอาณาจักรจันทราจงออกมาคุยกับพวกเราเดี๋ยวนี้!”

หลิงยี่เทียนที่กำลังจะออกไปด้านนอกพอดี เมื่อได้ยินเช่นนี้เจาจึงตอบกลับทันที “ข้าคือจักรพรรดิแห่งอาณาจักรจันทรา พวกเจ้าต้องการอะไร?”

“ในตอนนี้ผนึกของทะเลชางหมางได้ถูกเปิดออกแล้วและข้าได้ยินว่าในทะเลชางหมางนั้นมีสมบัติอยู่มากมาย ซึ่งอาณาจักรของเจ้าได้ค้นพบและเก็บรวบรวมพวกมันไปจนหมด ตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์ของข้านั้นไม่อยากจะเบียดเบียนให้เจ้าลำบากใจมากนัก หากแบ่งมันให้กับพวกข้าครึ่งหนึ่ง พวกข้าจะยอมจากไปแต่โดยดี!” ใครบางคนในกลุ่มของตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์ตะโกนขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)