ไม่มีใครนึกฝันว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอาณาเขตนภาได้ขนาดนี้
ตั้งแต่แรกเริ่มอาณาเขตนภาถูกแบ่งเอาไว้ด้วยอาณาจักรใหญ่ ๆ หลายอาณาจักร เช่น อาณาจักรเลือดทระนง อาณาจักรนภาจรัสแสง อาณาจักรอี้จิ๋น อาณาจักรอ้าวเทียน อาณาจักรมังกรทะยาน ราชวงศ์เหมันต์ หอการค้าเชื่อมสวรรค์ที่ทำตัวเป็นกลาง และทะเลชางหมางที่แปลกประหลาด
เพราะผนึกปริศนาที่ปกคลุมทะเลชางหมางเอาไว้ ผู้คนมากมายจึงพยายามเข้าไปสืบหาความลับที่ซ่อนอยู่ของมัน แต่มันก็ไม่มีใครหาอะไรเจอเป็นชิ้นเป็นอัน
แต่แล้วเมื่อผนึกของมันถูกคลายออก มันก็มีผู้คนมากขึ้นที่พยายามเข้าไปสืบหาความลับมากขึ้น
แต่การที่บรรดาผู้คนเข้าไปในทะเลชางหมางเช่นนี้มันก็เท่ากับว่าเป็นการล่วงล้ำเข้าไปในอาณาเขตของอาณาจักรจันทราเช่นกัน เนื่องจากอาณาจักรจันทราได้ทำการควบรวมทุกเกาะในทะเลชางหมางเป็นของตนเองจนหมดแล้ว
แต่ถึงแม้ว่าเหล่าผู้คนจะรู้ว่าในตอนนี้พื้นที่ของทะเลชางหมางทั้งหมดจะเป็นของอาณาจักรจันทรา แต่มันก็ไม่มีใครให้ความสนใจอะไร
ทางด้านของอาณาจักรจันทราเองเมื่อมีคนบุกเข้ามาในเขตแดนของตัวเองมากขนาดนี้ก็ไม่มีท่าทีตอบโต้อะไรออกไปเหมือนกัน
เนื่องจากในเวลานั้นบรรดาตัวตนระดับสูงของอาณาจักรจันทราจันทราทั้งหมดต่างไปรวมตัวกันอยู่ที่คฤหาสน์สราญรมย์เพื่อปกป้องหลิงตู้ฉิง
ดังนั้นอาณาจักรจันทราในเวลานั้นจึงพูดได้ว่าตกอยู่ในสภาพ ‘เละเทะ’
สถานการณ์ที่เละเทะเช่นนี้ดำเนินไปถึง 7-8 ปี ซึ่งมันส่งผลให้คนในอาณาจักรจันทราต้องล้มตายไปจากการถูกกดขี่โดยคนนอกเป็นจำนวนมาก
แต่แล้วสถานการณ์ทุกอย่างก็กลับตาลปัตรอีกครั้งเมื่อเข้าปีที่ 10
จู่ ๆ คนของสันเขาทรราชก็ถอนตัวออกจากอาณาเขตนภาและปล่อยให้อาณาจักรจันทราเข้าครอบครองอาณาจักรเลือดทระนง ซึ่งนับได้ว่าเป็นอาณาจักรที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาเขตนภา
จากนั้นเมื่ออาณาจักรเลือดทระนงถูกยึดครองโดยอาณาจักรจันทราเรียบร้อย หลิงยี่เทียนก็เริ่มทำการกวาดล้างเหล่าขุมกำลังภายนอกทั้งหมดที่เข้ามายุ่มย่ามในอาณาจักรของเขาทันที
ด้วยการนำของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันและจักรพรรดิหลายคนและเหล่าแม่ทัพที่อาจหาญรวมไปถึงกองทหารนับล้านที่เคยเป็นของอาณาจักรเลือดทระนงที่ถูกทิ้งไว้ให้โดยตระกูลเทียน หลิงยี่เทียนจึงสามารถปราบปรามและจับกุมคนของขุมกำลังภายนอกได้อย่างง่ายดายทั้งหมด ซึ่งจำนวนของคนที่เขาจับกุมได้นั้นมีนับล้านคนและรวมไปถึงสมบัติอีกมากมายที่ถูกทิ้งไว้โดยเหล่าผู้รุกรานที่หนีไปได้
หลังจากประสบความสำเร็จกับการกวาดล้าง หลิงยี่เทียนและหลิงว่านจุนก็เริ่มเสริมทัพของตนเองใหม่อีกรอบโดยการใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่ยึดมาได้และเลือกเหล่าทหารที่เคยเป็นของอาณาจักรเลือดทระนงที่ฝีมือดีให้มาเข้าร่วมกับกองทัพมังกร
แค่เพียงในเวลาสั้น ๆ กองทัพมังกรก็ขยายกำลังพลออกไปจนมีจำนวนอยู่ที่ 100,000 คน ส่งผลให้ความแข็งแกร่งของกองทัพมังกรเมื่อเปิดใช้งานค่ายกลรบไปแตะอยู่ที่ระดับเหนือล้ำ ซึ่งพลังระดับนี้แน่นอนว่ามันยังคงไม่เพียงพอที่จะเผชิญกับภัยคุกตามในอนาคต
ดังนั้นหลิงว่านจุนจึงเรียกกองทัพของเขากลับไปที่เมืองจันทรา เพื่อเก็บตัวบ่มเพาะอย่างลับ ๆ ด้วยเนื้อของอสูรงูและอสูรช้างขอบเขตมหาจักรพรรดิที่พ่อเขาแบ่งให้ ซึ่งมันมากพอที่จะให้กองทัพของเขาได้กินครบหมดทุกคน
แต่เนื่องจากเนื้อของอสูรขอบเขตมหาจักรพรรดินั้นมีพลังมากจนเกินไป ซึ่งต่อให้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญก็ไม่อาจกินมันได้ครั้งละมากนัก ดังนั้นกองทัพมังกรของหลิงว่านจุน จึงต้องค่อย ๆ กินมันทีละน้อย ๆ ในทุก ๆ วัน พลางบ่มเพาะไปด้วย เพื่อหวังว่าจะได้เห็นผลลัพธ์อันน่าตื่นตะลึงในอนาคต
จากนั้น 2 ปีถัดมา จู่ ๆ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในอาณาจักรอี้จิ๋น เนื่องจากบรรดาผู้คนของสำนักเบญจธาตุ จู่ ๆ กลับประกาศขึ้นมาว่าจะกลับสำนักและสละสิทธิ์การครอบครองอาณาจักรโดยไม่ระบุว่าจะส่งมอบต่อให้ใคร
แน่นอนว่าการประกาศเช่นนี้มันทำให้อาณาจักรอี้จิ๋นตกอยู่ในความวุนวายทันที
เนื่องจากสีจิ้งหมิงนั้นไม่พอใจในหลิงตู้ฉิง แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่อาจต่อกรอะไรได้ ดังนั้นเขาจึงทำการแก้เผ็ดโดยการยอมสละอาณาจักรอี้จิ๋นให้ตามสัญญา แต่เขาก็ไม่ได้ช่วยหลิงยี่เทียนในการส่งต่อการปกครองต่อเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อจู่ ๆ จักรพรรดิของตนเองและบรรดาคนของสำนักเบญจธาตุจากไปอย่างกะทันหัน เหล่าผู้คนของอาณาจักรอี้จิ๋นที่มีอยู่หลายฝ่ายจึงพากันเริ่มทำตามใจตัวเองและขัดแย้งกันในทันที
บางกลุ่มก็แยกตัวเองไปเข้าร่วมกับอาณาจักรอ้าวเทียน บางกลุ่มก็แยกไปเข้าร่วมกับ อาณาจักรมังกรทะยาน และแน่นอนว่าบางกลุ่มก็มาเข้าร่วมกับอาณาจักรจันทราด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)