มู่หยุนชานมองไปที่กระบี่อาญาสวรรค์ และรับมันมาด้วยอาการงุนงง
เขาไม่เคยนึกมาก่อนว่าจิตสำนึกพ่อของเขาจะหลอมเข้าไปอยู่ในกระบี่อาญาสวรรค์แบบนี้
หากมองในบางมุม มันจะหมายความว่าพ่อของเขาจะคอยอยู่ดูแลเขาและลูกหลานตลอดไป
แต่ถ้ามองในมุมของลูกชาย มันคือความสูญเสีย
เขาต้องการให้พ่อของเขากลับมาเกิดใหม่และมาอยูร่วมกับพวกเขาอีกครั้ง แต่ตอนนี้พ่อของเขากลับถูกแยกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งก็คืออยู่ในกระบี่อาญาสวรรค์เพื่อปกป้องพวกเขา อีกส่วนหนึ่งก็กลายเป็นเด็กน้อยที่ไม่มีความทรงจำใด ๆ ของชาติที่แล้วเมื่อตอนเป็นพ่อของเขาเหลืออยู่
การที่มันเป็นเช่นนี้ มันก็หมายความได้ว่าพ่อของเขาได้หายไปแล้วตลอดกาล
หลิงตู้ฉิงพูดตรง ๆ ว่า “ทุก ๆ คนล้วนมีเป้าหมายและความรับผิดชอบที่แตกต่างกันไป ซึ่งพ่อของเจ้าเองก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าพ่อของเจ้ากับแม่ของเจ้าเจอกันได้ยังไง แต่ในเมื่อเขามีพวกเจ้าแล้ว มันก็เป็นความรับผิดชอบของเขาที่จะดูแลพวกเจ้า ซึ่งกระบี่อาญาสวรรค์นี้ก็คือการแสดงความรับผิดชอบของเขา”
“ส่วนเรื่องอื่น ๆ มันคือเป้าหมายของพ่อเจ้าที่ได้ตั้งใจเอาไว้ ดังนั้นจงอย่าไปคิดอะไรให้มันมากมาย ไม่แน่สักวันหนึ่งในอนาคตเมื่อพ่อของเจ้าไปถึงจุดที่สามารถสร้างวิถีเต๋าของตนเองได้แล้วความทรงจำของเขาอาจจะกลับคืนมาก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่เจ้าและลูกหลานของเจ้าควรทำในตอนนี้ก็คือรอการกลับมาของเขาก็พอ”
มู่หยุนชานโค้งตัวคำนับ “ข้าเข้าใจแล้วท่านลุง”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “เอาล่ะ เจ้าจงไปเตรียมคนในสำนักของเจ้าทุกคนให้พร้อม เดี๋ยวข้าจะทำการบรรยายเต๋าให้กับพวกเจ้าได้ฟัง หลังจากนั้นข้าจะได้เดินทางไปต่อ ด้วยโอสถอีกหลายอย่างที่ข้าจะมอบให้เจ้ารวมไปถึงการบรรยายเต๋าครั้งนี้ มันจะทำให้เจ้าและคนของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นไปอีกระดับอย่างรวดเร็ว ในอนาคตอีกไม่ไกลพวกเจ้าคงสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองอย่างไร้กังวล”
มู่หยุนชานพยักหน้า “ถ้างั้นหลังจากที่ท่านลุงบรรยายเต๋าเสร็จ ข้าจะจัดเหล่าศิษย์ส่วนหนึ่งให้เดินทางไปที่อาณาเขตนภาเพื่อช่วยเหลือลูกชายของท่าน และเป็นการให้พวกเขาได้ไปฝึกฝนด้วยในตัว”
“เรื่องนั้นเจ้าสามารถจัดการได้เองตามความเหมาะสม” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “แต่ว่าพวกเจ้าทุกคนต้องระวังตัวเอาไว้ให้มากกว่าเดิม เนื่องจากความขัดแย้งของพวกเจ้ากับพวกสันเขาหมื่นอสูรในตอนนี้มันชัดเจนขึ้นมาแล้ว ด้วยการคุ้มครองของกระบี่อาญาสวรรค์ หากพวกเจ้าอยู่ในสำนักของพวกเจ้า พวกเจ้าคงไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน แต่เมื่อไหร่ที่พวกเจ้าเดินทางออกไปพ้นสำนักของพวกเจ้า เมื่อนั้นพวกเจ้าจะต้องระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม”
มู่หยุนชานพยักหน้า “เข้าใจแล้วท่านลุง แต่อันที่จริงเรื่องนี้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน การที่มีเรื่องทำให้พวกเขาต้องลำบากมากขึ้นหรืออยู่ในอาการตื่นตัวตลอดเวลามันจะเป็นการหล่อหลอมทำให้พวกเขาแข็งแกร่งได้อีกทางหนึ่ง หากเทียบกับประสบการณ์ของท่านและท่านพ่อของข้าแล้ว เด็ก ๆ พวกนี้นับได้ว่าใช้ชีวิตอยู่อย่างสบายมานานเกินไปแล้ว”
หลังจากนั้น มู่หยุนชานก็ได้แจ้งให้คนในสำนักของเขาทุกคนมารวมตัวกันเพื่อฟังการบรรยาย
3 วันต่อมา หลิงตู้ฉิงก็เริ่มการบรรยายของเขา ซึ่งกลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์จากการบรรยายครั้งนี้ก็คือผู้คนของสำนักกระบี่เอกภพ เนื่องจากบรรดากลุ่มคนของหลิงตู้ฉิง นั้นเพิ่งจะฟังการบรรยายของเขาไปเมื่อตอนอยู่ที่สำนักวิญญาณโลหิตและยังไม่ทันจะได้ทำความเข้าใจกับความรู้ที่ได้รับมาจนครบ ดังนั้นการที่มาฟังอีกรอบมันจึงทำให้พวกเก็บข้อมูลได้ไม่มากเท่าไหร่ เหมือนกับเทน้ำลงไปในแก้วที่มีน้ำเต็มอยู่แล้ว
แต่คนที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีสมาธิที่สุดในช่วงเวลาเดียวกันนี้ก็คือ หลงเฉิน
เขาเอาแต่คิดถึงเรื่องที่จะทำยังไงเพื่อโน้มน้าวหลิงตู้ฉิงให้ไปเยือนภูเขาเอ้อหลงของเขาสักครั้ง
เขาอยากที่จะพาเหล่าพี่น้องของเขาให้มาลากรถมังกรให้กับหลิงตู้ฉิง และได้รับประโยชน์มากมายเหมือนกับเขาในตอนนี้
แต่สิ่งที่เขากังวลใจก็คือเขาไม่รู้ว่าจะพูดโน้มน้าวหลิงตู้ฉิงยังไงให้ไปที่ภูเขาเอ้อหลง
ในขณะที่หลงเฉินกำลังกังวลใจเกี่ยวกับการไปภูเขาเอ้อหลง สิ่งที่เขาไม่รู้เลยในตอนนี้ก็คือมีใครบางคนได้เดินทางไปถึงภูเขาเอ้อหลงเรียบร้อยแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)