พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 644

สรุปบท บทที่ 644 เนรเทศภูเขาเอ้อหลง: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

ตอน บทที่ 644 เนรเทศภูเขาเอ้อหลง จาก พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 644 เนรเทศภูเขาเอ้อหลง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ในส่วนลึกของห้วงอวกาศ มีตัวตนหนึ่งที่ในตอนนี้กำลังคอยจับตาดูความผันแปรของพลังมิติที่เกิดขึ้นทั้งหลายอย่างใกล้ชิด

“ลูกสาวข้า นี่เจ้าไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยเกี่ยวกับพลังแห่งมิติงั้นเหรอ?” ตัวตนนั้นเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าหดหู่ “นี่ไอ้แก่นั่นมันไม่สอนอะไรเจ้าเลยเกี่ยวกับพลังแห่งมิติงั้นเหรอ? แต่จะว่าไปไอ้แก่นั่นมันก็ไม่ได้เข้าใจอะไรในพลังแห่งมิติสักเท่าไหร่ ดังนั้นมันจะเอาอะไรมาสอนเจ้าได้ยังไง?”

หลังจากที่เขากลับมาจากตำหนักไร้หทัย เขาก็พยายามจับตาดูความผัวผวนของพลังมิติที่เกิดขึ้นจากใครก็ตามที่ใช้งานมัน เพื่อหวังว่าจะได้พบร่องรอยของลูกสาวเขาเอง

จากในมุมมองของเขา เมื่อไหร่ที่ลูกสาวของเขาใช้หลังแห่งมิติ เขาก็น่าจะสามารถหาตำแหน่งของลูกสาวเขาเจอได้ไม่ยาก

แต่น่าเสียดายหลังจากที่เขาพยายามหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็ไม่เจอร่องรอยใด ๆ สักที

ในเวลาเดียวกัน ทางด้านของหลิงฟ่างหัว ในตอนนี้หลังจากที่ทดสอบและคำนวณมาหลายรอบ นางก็พบกับจุดที่มีระยะห่างที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการเปิดรอยแยกมิติ ซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาเอ้อหลงประมาณ 300 กิโลเมตร

เมื่อนางพบจุดที่ลงตัวแล้ว นางก็ไม่รอใช้เปิดประตูมิติเพื่อสร้างรอยแยกให้มุ่งไปทางภูเขาเอ้อหลงทันที

รอยแยกมิติที่เกิดขึ้นนั้นพุ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วเป็นอย่างมาก ซึ่งยิ่งมันพุ่งไปไกลมากขึ้นท่าไหร่รอยแยกของมันก็กว้างมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อรอยแยกพุ่งไปอยู่ห่างจากภูเขาเอ้อหลง 80 กิโลเมตร รอยแยกมันก็มีขนาดกว้างกว่า 8 กิโลเมตรเป็นที่เรียบร้อย แต่ถึงแม้ว่ามันจะดูกว้าง แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะกลืนภูเขาเอ้อหลงเข้าไปได้ทั้งลูกอยู่ดี

หลิงฟ่างหัวที่เห็นเช่นนี้ก็รู้ดีว่าแค่นี้มันไม่เพียงพอ นางจึงโคจรพลังของนางจนถึงจุดสูงสุด จนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยหยดเหงื่อ

ในเวลาเดียวกันผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิของภูเขาเอ้อหลงก็รู้ตัวถึงการกระทำของหลิงฟ่างหัว

ด้วยความผันผวนของพลังแห่งมิติที่เกิดขึ้นจากรอยแยกขนาดใหญ่แบบนี้ มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิจะไม่สัมผัสได้?

“ใครกัน? ใครบังอาจโจมตีภูเขาเอ้อหลงของข้า!?” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิตะโกนลั่นจากในภูเขาเอ้อหลง

จากนั้นอำนาจของเจตจำนงของผู้เชี่ยวขอบเขตจักรพรรดิและผู้เชี่ยวขาญขอบเขตราชันของภูเขาเอ้อหลงก็พุ่งตรงมาหาหลิงฟ่างหัว และหยูเจิ้นไห่ พยายามที่จะปิดรอยแยกมิติที่กำลังใกล้เข้ามาหาภูเขาเอ้อหลงของพวกเขา

แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือ หลิงฟ่างหัวไม่อาจต่อต้านอำนาจของเจตจำนงเหล่านั้นได้แม้แต่น้อย

“เฒ่าหยู…” หลิงฟ่างหัวเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าสิ้นหวัง

อันที่จริงนางไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร เนื่องจากในตอนนี้หยูเจิ้นไห่ก็พยายามอย่างสุดกำลังเพื่อต่อต้านอำนาจเจตจำนงที่โจมตีพวกเขาอยู่

แต่น่าเสียดายที่ระดับการบ่มเพาะของหยูเจิ้นไห่ในตอนนี้อยู่แค่เพียงขอบเขตราชันขั้นปลาย ซึ่งแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่สามารถต้านทานอะไรได้กับพลังของเจตจำนงที่ถูกส่งมาจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันอย่างน้อย 3 คนรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิ

หยูเจิ้นไห่ก็แสดงสีหน้าจนใจออกมาเช่นกัน

หากมองจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ความฝันของหลิงฟ่างหัวที่ต้องการส่งภูเขาเอ้อหลงไปอยู่ในห้วงมิติอื่นคงเป็นได้แค่ความฝัน

แต่แล้วในระหว่างที่นางกำลังหมดหวัง จู่ ๆ รอยแยกของมิติกลับขยายใหญ่ขึ้นและพุ่งไปหาภูเขาเอ้อหลงด้วยความเร็วที่น่าใจหาย ความกว้างที่ส่วนปลายสุดของรอยแยกมันยายกว้างออกไปจนกินพื้นที่กว่า 200 กิโลเมตร

ความกว้างระดับนี้มันสามารถกลืนกินภูเขาเอ้อหลงเข้าไปทั้งลูกได้แบบสบาย ๆ!

หลิงฟ่างหัวที่เห็นภาพเช่นนี้ นางก็ตกอยู่ในอาการตกตะลึง

นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าในตอนนี้นางสามารถควบคุมรอยแยกมิติได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมากและไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามมากเหมือนก่อนหน้านี้ ซึ่งมันทำให้รอยแยกของมิติพุ่งตรงไปกลืนกินภูเขาเอ้อหลงอย่างรวดเร็วมากกว่าเดิม

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิของภูเขาเอ้อหลง หลงหยู เมื่อเห็นภาพเช่นนี้เขาก็ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าหวาดผวาทันที “เร็วเข้าทุกคน รีบออกจากภูเขาเอ้อหลงเดี๋ยวนี้!”

ในเวลานี้เมื่อเขาเห็นว่าจู่ ๆ รอยแยกมิติก็ขยายใหญ่ขึ้น หลงหยูก็รู้สึกหวาดผวาจนวิญญาณของเขาแทบจะหลุดออกจากร่าง

บรรดาผู้คนของภูเขาเอ้อหลงต่างมองไปที่หลุมลึกที่เคยเป็นภูเขาเอ้อหลงบ้านของพวกเขาด้วยสายตาตกตะลึง

ภูเขาเอ้อหลงของพวกเขาหายไปง่าย ๆ แบบนี้เนี่ยนะ?

หลงหยู ผู้ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของภูเขาเอ้อหลงโกรธจนกระอักเลือดออกมาคำใหญ่และตะโกนว่า “ใครรู้บ้างว่านังเด็กปีศาจนั่นมันเป็นใคร? ทำไมนังเด็กนั่นต้องมาโจมตีภูเขาเอ้อหลงของข้าแบบนี้!?”

บรรดาผู้คนของภูเขาเอ้อหลงต่างก็เห็นเช่นกันว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นคนสร้างรอยแยกมิติมากลืนกินภูเขาเอ้อหลงของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่านางเป็นใครเหมือนกัน

และถ้าหากไม่ใช่เพราะหลงหยูที่รู้ตัวได้เร็ว คนของภูเขาเอ้อหลงส่วนใหญ่คงจะต้องถูกดูดเข้าไปในหลุมดำนั่นพร้อม ๆ กับภูเขาเอ้อหลงแน่นอน

แต่เป็นใครกันที่ภูเขาเอ้อหลงของพวกเขาไปล่วงเกินจนถึงขนาดถูกคิดบัญชีอย่างหนักหน่วงขนาดนี้?

แล้วทำไมถึงไม่ยอมมาเจรจากันก่อนบ้างเลย? ทำไมพอมาถึงก็เริ่มลงมืออย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้?

บรรดาผู้คนของภูเขาเอ้อหลงต่างก็สาปแช่งกันอยู่พักใหญ่ ๆ แต่เมื่อพวกเขาเริ่มยอมรับความจริงได้และรู้ตัวว่าพวกเขาไม่อาจทำอะไรได้แล้ว พวกเขาจึงทำได้แต่ออกเดินทางกลับไปที่ตำหนักมังกรด้วยอารมณ์หดหู่

เมื่อไม่มีภูเขาเอ้อหลงที่นี่แล้ว พวกเขาจะอยู่ต่อไปอีกได้ยังไง?

ตัวการที่ทำให้ภูเขาเอ้อหลงของพวกเขาหายก็เข้าไปในหลุมดำนั่นด้วยอีก พวกเขาก็คงไม่สามารถล้างแค้นอะไรได้

พวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังแห่งกฎมิติเลย

หรือต่อให้พวกเขารู้และสามารถเปิดประตูมิติได้ในอนาคต พวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่ามันปลายทางมันเป็นที่ไหน ใช่ภูเขาเอ้อหลงของพวกเขารึเปล่า?

ดังนั้นเมื่อรู้ว่าทำอะไรไม่ได้อีก พวกเขาจึงเหลือตัวเลือกเพียงอย่างเดียวคือกลับตำหนักมังกรด้วยหัวใจที่แตกสลาย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)