เมื่อชิวไป๋หยูได้รับใบบงการทัพเพื่อเคลื่อนกำลังพลขององค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์มาจากเฟิงเจียง เขาก็รีบพาองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์จำนวน 500 นายมุ่งหน้าไปที่เมืองขนนกอัคคีทันที
ในครั้งนี้องค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์มีผู้นำทัพที่มีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ระดับนภาคราม ซึ่งเมื่อรวมกับความแข็งแกร่งขององค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์อีก 500 นาย อำนาจที่พวกเขาสามารถสำแดงออกได้ก็พุ่งไปถึงขอบเขตจักรพรรดิ
ในระหว่างที่กำลังเดินทางไปยังเมืองขนนกอัคคี ชิวไป๋หยูก็คิดแผนการผูกสัมพันธ์กับเหล่าองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นเพื่อประโยชน์ของแผนการของเขาเช่นกัน
“แม่ทัพเฟิงหลิง คนที่เราจะต้องทำการสังหารในครั้งนี้ ตัวตนของนางค่อนข้างจะพิเศษอยู่สักหน่อย” ชิวไป๋หยูพูดกับผู้นำกองกำลังองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์
เฟิงหลิงตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “ในเมื่อพวกข้าได้รับคำสั่งมาแล้วไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใคร พวกข้าจะสังหารคนผู้นั้นแน่นอน พวกข้าจะไม่ยอมให้ใครก็ตามทรยศเผ่าฟีนิกซ์ของเรา แต่หลังจากที่จบภารกิจพวกข้าจะต้องรายงานเรื่องทุกอย่างให้กับเบื้องบนได้ทราบอย่างละเอียด”
ชิวไป๋หยูหัวเราะทันที “แน่นอนว่าเราต้องรายงานเบื้องบนเป็นเรื่องปกติและการทรยศเผ่าของเราเป็นเรื่องที่ยินยอมไม่ได้ แต่ว่าในกลุ่มของฝั่งตรงข้ามมีมนุษย์รวมอยู่ด้วย พวกท่านจะกำจัดพวกเขาด้วยรึเปล่า?”
“ต่อให้เป็นมนุษย์แต่ถ้าหากอยู่ฝั่งตรงข้าม พวกข้าก็จะกำจัดพวกเขาทั้งหมดเช่นกัน!” เฟิงหลิงพยักหน้า
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชิวไป๋หยูก็รู้สึกเบาใจขึ้นและรีบเร่งความเร็วไปยังเมืองขนนกอัคคีให้มากกว่าเดิม
ส่วนเรื่องที่องค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์จะรายงานผลของภารกิจไปให้กับเบื้องบนทราบในภายหลังนั้น เขาไม่เป็นห่วงเรื่องนั้นเลยเพราะว่าในภูเขาฟีนิกซ์มีผู้คนหลายคนที่ไม่ต้องการเห็นการกลับมาของราชันสงครามอยู่แล้ว ภูเขาฟีนิกซ์ในตอนนี้ไม่เหมือนกับในอดีตอีกต่อไป ซึ่งเขาก็รู้ว่าเฟิงเจียงก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ต้องการเห็นการกลับมาของราชันสงครามเช่นกัน
หรือถ้าหากมีคนกล่าวโทษเขาในเรื่องการสังหารราชันสงครามจริง ๆ เขาก็แค่แก้ตัวว่าเขาไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนั้นคือราชันสงครามที่กลับมาเกิดใหม่ก็พอ
ในเวลาไม่นานพวกเขาก็ได้เดินมาถึงเมืองขนนกอัคคีและไปพบกับหานฉี
“คารวะท่านผู้อาวุโสชิว” หานฉีรีบกล่าวทักทาย
ชิวไป๋หยูโบกมือและพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตรองมากนัก ให้ข้าแนะนำเจ้าก่อนก็แล้วกัน นี่คือแม่ทัพเฟิงหลิง ผู้ซึ่งเป็นผู้นำกองกำลังองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์ในการมาปราบปรามเหล่าผู้ก่อกบฏในครั้งนี้”
“ขอคารวะท่านแม่ทัพเฟิงหลิง!” หานฉีหันไปโค้งตัวให้กับเฟิงหลิง จากนั้นเขาพูดว่า “กลุ่มคนพวกนั้นอยู่ในการจับตามองของพวกเราตลอดเวลาและตอนนี้พวกเขาก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ได้หนีไปไหน น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นมีมากเกินไปแถมพวกเขายังมีคนหนุนหลังที่พวกเราไม่อาจต่อต้านได้อีกต่างหาก…พวกเราเสียใจจริง ๆ ที่ไม่อาจจัดการปัญหานี้ได้ด้วยตัวของพวกเราเอง และต้องทำให้พวกท่านลำบากมาถึงที่นี่”
อันที่จริงหานฉีรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
ในเมื่อองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์มาจัดการด้วยตัวเองแบบนี้ คนในเรือนตระกูลเสี่ยวทั้งหมดจะต้องถูกกำจัดไปจนหมดอย่างแน่นอน
แต่มันก็มีเรื่องที่น่าเสียดายอยู่อย่างหนึ่งตรงที่เขาคงไม่อาจได้รับวิธีการควบแน่นร่างฟีนิกซ์ที่แท้จริงได้อีกแล้ว เพราะองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์จะไม่ยอมให้เขาได้รับมันแน่นอน
แต่ถ้าเทียบกับการที่สามารถกำจัดราชันสงครามออกไปให้พ้นทางได้มันก็ถือว่าคุ้มค่า
เฟิงหลิงไม่สนใจที่จะคุยกับหานฉีแม้แต่น้อย เขาสั่งขึ้นทันที “จงรีบนำทางพวกเราไปจัดการกับเหล่าคนทรยศได้แล้ว!”
“รับทราบ!” หานฉีรีบตอบกลับ จากนั้นเขาก็รีบนำทุกคนไปที่เรือนตระกูลเสี่ยว
ในตอนที่องค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์ได้มาถึงเมืองขนนกอัคคี หลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ ก็สัมผัสได้เช่นกัน
“ท่านพ่อ พวกเขามาแล้ว!” หลิงไช่หยุนพูดกับหลิงตู้ฉิง “แต่กลุ่มคนที่มาใหม่นี้ข้าสัมผัสได้ว่าพวกเขาแตกต่างออกไป พวกเขามีเลือดที่บริสุทธิ์มาก ๆ! แบบนี้พวกเราจะมีปัญหารึเปล่าท่านพ่อ?”
หลิงตู้ฉิงมองไปที่เหล่าองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์ด้วยสีหน้ามืดหม่นเช่นกัน เขาอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ดูเหมือนว่าครั้งนี้มีหลายคนที่สมควรตาย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)