บรรดาผู้คนของสำนักวายุคลั่งต่างรู้สึกโง่งมไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ ค่ายกลป้องกันของสำนักพวกเขาถึงได้เปิดใช้งานขึ้นแบบนี้
เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปอยู่แล้วว่าเหตุผลเดียวที่ค่ายกลป้องกันของสำนักจะเปิดใช้งานนั้นก็ต่อเมื่อพวกเขาเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่ง
แต่ว่าตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งที่ไหนกัน?
ในเวลาเดียวกับที่ค่ายกลป้องกันสำนักวายุคลั่งถูกเปิดใช้งาน หลงหยาก็สังเกตเห็นว่าบรรดาผู้คนที่ส่งมาให้เขากินนั้นได้หายไปทั้งหมดแล้ว
หลงหยาขมวดคิ้วแน่นทันทีพลางคิดในใจ หรือว่าสำนักวายุคลั่งวางแผนจะทำอะไรกับเขางั้นเหรอ?
ในทันทีที่คิดได้เช่นนี้ หลงหยาก็คืนร่างเดิมของเขาทันที ส่งผลให้ร่างกายของเขาขยายใหญ่ขึ้นสูงกว่า 300 เมตร
บรรดาผู้คนของสำนักวายุคลั่ง เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ หลงหยาขยายร่างใหญ่ขึ้นและจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา พวกเขาจึงต่างพากันสั่นกลัวและคุกเข่าลงไปหมอบกราบกับพื้นพร้อมกับพูดว่า “ท่านอสูร ได้โปรดอย่ากินพวกเราเลย พวกเรามีเนื้อไม่มากหรอกต่อให้ท่านกินพวกเราไปท่านก็ไม่อิ่มแน่นอน!”
หลงหยาตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเดือดดาล “หลีต้าฉิง นี่เจ้ากำลังจะทำอะไรกัน?”
หลีต้าฉิง ในเวลานี้ก็รู้สึกตกตะลึงเหมือนกัน เขาเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเปิดใช้งานค่ายกลป้องกันสำนัก แต่ก่อนที่เขาจะได้ทันออกไปสืบหาว่าใครเป็นต้นตอเปิดใช้งานค่ายกลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขา หลงหยากลับปรากฏกายขึ้นและถามเขาขึ้นมาก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องรีบตอบกลับไปในทันที “ผู้อาวุโส ข้าไม่ได้เป็นคนเปิดใช้งานค่ายกลป้องกันของสำนัก! เป็นใครกัน? ใครกันที่เปิดใช้ค่ายกลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้า? จงรีบไสหัวออกมาขอขมาผู้อาวุโสหลงหยาเดี๋ยวนี้!”
ในตอนนี้บรรดาผู้คนของสำนักวายุคลั่งที่ปิดด่านเก็บตัวอยู่ต่างออกมาดูเหตุการณ์กันหมดทุกคน พวกเขาไม่เข้าใจว่าวันนี้เจ้าสำนักของพวกเขาเป็นบ้าอะไรขึ้นมา
“ผู้อาวุโส ทุกคนที่สามารถเปิดใช้งานค่ายกลป้องกันได้ ตอนนี้ออกมารวมตัวกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว” หลีต้าฉิงรีบพูดขึ้น “ตอนนี้ท่านสามารถสอบสวนพวกเขาได้เลยว่าใครเป็นคนที่เปิดใช้งานค่ายกลป้องกันรบกวนช่วงเวลาในการดื่มด่ำอาหารของท่าน และท่านสามารถลงโทษมันผู้นั้นได้เลย!”
หลงหยามองไปที่หลีต้าฉิงด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นเขาหันไปถามกับบรรดาผู้คนอื่น ๆ ว่า “เป็นใครกันที่เปิดใช้งานค่ายกลป้องกัน? จงเดินออกมายอมรับแต่โดยดีไม่เช่นนั้นหากให้ข้าเป็นคนหาตัวเอง ข้าจะแยกร่างเจ้าทั้งเป็น!”
“พอได้แล้ว!” โอรสศักดิ์สิทธิ์แห่งคุนเป๋งทนดูไม่ไหวอีกต่อไปจนต้องตะโกนขึ้นด้วยความโมโห
เขาไม่นึกมาก่อนเลยว่าคนในเผ่าอสูรของเขาจะกล้าทำตัวโอหังยิ่งกว่าตัวเขาที่ผ่านมาซะอีก
ไม่เพียงแต่หลงหยาจะกล้าถ่ายทอดสดฉากการกินมนุษย์ต่อหน้าคนจำนวนมาก แต่เขากลับกล้าทำถึงขนาดข่มขู่บรรดาผู้คนของสำนักวายุคลั่งจนอาจจะทำให้คนเหล่านี้รู้สึกไม่ปลอดภัย
หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ทุกอย่างมันอาจจะบานปลายจนทำให้ใครหลายคนในสำนักวายุคลั่งเอาความลับทั้งหมดออกไปแจ้งกับบรรดาสำนักของมนุษย์ทั้งหลาย ซึ่งเมื่อเป็นแบบนั้นผู้ที่เดือดร้อนที่สุดก็ไม่พ้นจะต้องเป็นสันเขาหมื่นอสูรอย่างแน่นอน
ไอ้หน้าโง่นี่มันคิดว่าบนโลกนี้เผ่าอสูรแข็งแกร่งซะจนไม่ต้องสนใจใครหน้าไหนแล้วเหรอไง ถึงได้กล้าทำอะไรที่บ้าขนาดนี้ขึ้นมา?
ทางด้านของหลงหยา เมื่อมันได้เห็นว่าโอรสศักดิ์สิทธิ์แห่งคุนเป๋งปรากฏกายขึ้นมันก็ถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ “นายน้อย ทำไมท่านถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้?”
ถึงแม้ว่าหลงหยาจะเป็นอสูรขอบเขตมหาจักรพรรดิ แต่ในท้ายที่สุดมันก็ยังต้องให้ความเคารพต่อทายาทของเผ่าอสูรที่มีชนชั้นเหนือกว่ามัน นี่เป็นกฎที่ไม่ได้ถูกเขียนขึ้น แต่มันก็เข้าใจดีว่านี่เป็นธรรมเนียมที่มันไม่อาจต่อต้านได้
โอรสศักดิ์สิทธิ์แห่งคุนเป๋งพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “เปิดประตูเคลื่อนย้ายให้กับข้า ข้าต้องการที่จะกลับไปที่สันเขาหมื่นอสูรเดี๋ยวนี้!”
หลงหยาจ้องไปที่หลีต้าฉิงทันที และออกคำสั่ง “นี่เจ้าไม่ได้ยินคำสั่งที่นายน้อยของข้าเอ่ยขึ้นเหรอไง? รีบเปิดประตูเคลื่อนย้ายของสำนักเจ้าเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นล่ะก็…”
“หุบปาก!” โอรสศักดิ์สิทธิ์แห่งคุนเป๋งรีบตะโกนแทรก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)