เย่ชางคงรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลของเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น
มันเป็นไปได้ยังไงที่จู่ ๆ หยูปิงก็กล้าพูดกดดันเขาแบบนี้?
ทางด้านของมู่หลงหยานก็รู้สึกได้เช่นกันว่าเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเสียแล้ว
ทั้ง ๆ ที่สามีของนางเผยระดับการบ่มเพาะของเขาแล้ว แต่หยูปิงก็ยังไม่ยอมลดละ ในเมื่อเป็นเช่นนี้มันแสดงว่าจะต้องมีใครคอยจัดฉากเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่ในมุมมืดแน่นอน
“ตู้ฉิง มันจะดีกว่าไหมหากเจ้าจะหนีออกไปก่อน?” มู่หลงหยานส่งโทรจิตคุยกับเขา “ตอนนี้พวกเราไม่มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ไว้คอยข่มพวกเขาแล้ว หากพวกเขาทั้งหมดลงมือกับเจ้าพร้อม ๆ กัน ข้าเกรงว่าข้ากับสามีอาจจะรับมือพวกเขาทั้งหมดไม่ไหว”
“ไม่จำเป็น!” หลิงตู้ฉิงตอบกลับทางโทรจิต “เพื่อเห็นแก่ชิงเฉิง วันนี้ข้าจะทำการสยบทุกคนในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ให้เชื่อฟังเจ้าและสามีทั้งหมด แต่หลังจากที่พวกเจ้าสามารถบงการสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างเต็มตัว ในอนาคตพวกเจ้าต้องช่วยข้าบางอย่าง”
มู่หลงหยานยิ้มอย่างจนใจ “พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว ถ้าเจ้ามีปัญหาอะไรพวกเราจะช่วยเจ้าแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สถานการณ์ตอนนี้มันค่อนข้างจะซับซ้อน ข้าเกรงว่าเจ้าคงแก้ไขมันไม่ง่ายนักหรอก”
“ไม่ต้องรีบร้อนรับปากข้าก็ได้ ปัญหาของข้ามันไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิด” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ส่วนสถานการณ์ตอนนี้ที่เจ้าเผชิญอยู่ หากเจ้าอยากจะรับมือกับพวกเขาแบบไหนเจ้าสามารถทำได้เลยตามที่เจ้ากับสามีของเจ้าต้องการไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ถ้าเรื่องราวมันบานปลายจนพวกเจ้ารับมือไม่ไหว ข้าจะจัดการที่เหลือต่อเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่หลงหยานก็รู้สึกไม่แน่ใจอยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อนางคิดถึงกิ่งไม้ที่หลิงตู้ฉิงได้มาจากต้นเทวะศาสตรา นางก็รู้สึกผ่อนคลายลงเพราะนางคิดว่าด้วยอำนาจของกิ่งไม้ที่เคยสยบอสูรขอบเขตมหาจักรพรรดิที่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือได้ถึง 3 ตนแบบสบาย ๆ หลิงตู้ฉิงคงจะสามารถจัดการกับสถานการณ์ในตอนนี้ได้ในระดับหนึ่งหรือต่อให้เขาจะคลี่คลายสถานการณ์ไม่ได้ หากเขาจะหลบหนีไปมันก็คงไม่น่าจะใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
มู่หลงหยานพยักหน้าและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเจ้าต้องระวังตัวให้มาก สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของข้าดำรงอยู่มานานนับล้านปีแล้ว และบรรดาบรรพบุรุษทั้งหลายที่ปิดด่านอยู่ก็มีความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา รวมไปถึงอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาครอบครองก็ทรงพลังเหนือกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปซะอีก”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “ข้าไม่เคยพูดในสิ่งที่ข้าทำไม่ได้ ถ้าข้าบอกว่าข้าสามารถจัดการได้มันก็หมายความว่าข้าจัดการทุกอย่างได้จริง เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า อาวุธศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างล้วนไร้ความหมาย”
ด้วยง้าวเทวะพินาศที่อยู่ในมือของเขาตอนนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ของจำลองแต่อำนาจที่มันสามารถสำแดงออกมาได้นั้นต่อให้เป็นอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่อาจจะต่อกรกับมันได้แน่นอน นี่คือสิ่งที่หลิงตู้ฉิงมั่นใจ
มู่หลงหยานยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน แต่ในใจของนางก็เลือกที่จะเชื่อหลิงตู้ฉิง ดังนั้นนางจึงโทรจิตไปบอกกับเย่ชางคงให้เขาจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อย่างเด็ดขาดได้เลย
เย่ชางคงเมื่อได้รับโทรจิตของมู่หลงหยาน เขาก็ขมวดคิ้วมองไปที่หลิงตู้ฉิงอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะเชื่อในการตัดสินใจของภรรยาของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)