เมื่อเห็นหลิงยู่ชานแสดงความมั่นใจเต็มเปี่ยม หลิงตู้ฉิงก็พยักหน้าและสั่งให้หลิงยู่ชานกลับไปฝึกฝนต่อ จากนั้นเขาจึงเดินไปที่กระดานหมากและลงเล่นกับหลิงว่านจุนและหลิงยี่เทียนต่อ
ในช่วงเวลาเดียวกัน ตอนนี้มี่ไลกำลังเฝ้าดูเหล่าเด็ก ๆ ฝึกฝนในลาน
นางแอบจดจำส่วนสูงและรูปร่างของเด็ก ๆ ทุกคน
เพื่อที่จะเอาใจเด็ก ๆ นางวางแผนไว้ว่านางจะไปสั่งตัดชุดราคาแพงให้กับเด็กเหล่านี้ เพื่อที่จะได้รับคะแนนความนิยมให้เด็ก ๆ ยอมรับนาง
เมื่อนางจดจำทุกอย่างไว้ในหัวของนางเรียบร้อย นางจึงเดินไปหาหลิงว่านถิงที่กำลังแกว่งชิงช้าอยู่ “ว่านถิง พี่สาวกำลังจะออกไปข้างนอก เจ้ามีอะไรที่เจ้าอยากได้ไหม พี่สาวจะได้ซื้อมาให้เจ้า”
ในระหว่างที่นางพูด นางยื่นมือออกไปพยายามที่จะช่วยหลิงว่านถิงแกว่งชิงช้า
“อย่าจับมัน! ให้มันแกว่งไปของมันเอง” หลิงว่านถิงรีบตะโกนหยุดมี่ไล
หลิงว่านถิงไม่ต้องการให้มี่ไลมาแทรกแซงจังหวะการแกว่งของชิงช้า เพราะนางรู้ดีว่าจังหวะการแกว่งนั้นเกี่ยวข้องกับจังหวะการฝึกฝนของนางด้วยเช่นกัน หากมี่ไลพลาดไปขัดจังหวะ นางอาจจะต้องเริ่มจับจังหวะของชิงช้าใหม่อีกรอบ
เมื่อเห็นมี่ไลที่กำลังยืนแข็งค้างจากคำเตือน หลิงว่านถิงจึงเอ่ยถาม “ท่านมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
มี่ไลยิ้มอย่างเก้อเขิน “เอ่อ…คืออย่างนี้…ว่านถิง เจ้าก็รู้ใช่ไหมว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา พ่อของเจ้าดูแลพวกเจ้าอย่างดีมาตลอด แต่ตัวเขาเองกลับไม่มีใครมาคอยดูแลเขาเลย…”
“ท่านกำลังจะพูดว่าท่านอยากจะมาเป็นแม่ของพวกเราใช่ไหม?” หลิงว่านถิงเอ่ยดักคออย่างรู้ทัน
“ข้าจะไปมีวาสนาถึงขนาดนั้นได้อย่างไรกัน…” มี่ไลเอ่ยพลางถอนหายใจ
“ถ้าอย่างนั้นท่านต้องการจะเป็น ‘น้า’ ของพวกเรางั้นเหรอ?” หลิงว่านถิงเอ่ยถาม
“เจ้าคิดว่าพี่สาวคนนี้พอจะเป็นได้ไหม?” มี่ไลถามอย่างมีความหวัง
หลิงว่านถิงหลี่ตามองมี่ไลแล้วตอบ “อันที่จริง ท่านไม่จำเป็นต้องมาถามข้าหรอก และข้าก็พูดแทนพี่น้องทุกคนได้เลย ถ้าหากท่านพ่อของเราตกลง พวกเราจะไม่มีทางขัดขวางความสุขของท่านพ่อแน่นอน แต่ข้าขอเตือนท่านเอาไว้อย่าง หากท่านจะมาเป็น ‘ท่านน้า’ ของพวกเรา ท่านจะต้องมีความอดทน!”
ประโยคสุดท้ายที่หลิงว่านถิงเตือนมี่ไลนั่นก็เพราะนางนึกถึงภาพในอดีตอนที่พ่อของนางพาจ้าวเหมิงลู่กลับมาที่เรือน หลังจากอยู่ร่วมชายคาเรือนกันได้เพียงไม่นาน พ่อของนางก็ลงมืออัดจ้าวเหมิงลู่ซะเละตุ้มเป๊ะจนสภาพหน้าตาบูดเบี้ยวไปหมด
มี่ไลที่กำลังงุนงงกับประโยคสุดท้ายของหลิงว่านถิง นางยืนคิดอยู่นานว่าหลิงว่านถิงหมายถึงอะไร นางเองก็เห็นว่าหลิงตู้ฉิงปฏิบัติกับคนทุกคนเป็นอย่างดี นางเลยไม่เข้าใจที่หลิงว่านถิงบอกให้นางต้องอดทน เมื่อคิดยังไงก็คิดไม่ออกนางจึงละทิ้งความคิดนี้ไว้ชั่วคราว
เมื่อคุยกับหลิงว่านถิงเสร็จมี่ไลจึงเตรียมตัวกลับไปที่ตระกูลของนางเพื่อจัดการโอสถต่าง ๆ ที่หลิงตู้ฉิงบอกว่าให้เอาไปมอบให้พ่อของนาง เมื่อเก็บของเสร็จเรียบร้อยนางจึงไปแจ้งหลิงตู้ฉิงและออกจากเรือนมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลมี่ทันที
อันที่จริงยังมีเหตุผลอื่นที่นางต้องกลับไปที่คฤหาสน์ของตัวเองคือ นางต้องการเก็บข้าวของส่วนตัวของนางเพื่อย้ายมาอาศัยที่เรือนหลิงอย่างถาวรและเตรียมของกำนัลให้ลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิง รวมทั้งหลิวเฟ่ยเฟ่ยที่นางเข้าใจไปเองว่าได้เป็นภรรยาของหลิงตู้ฉิงไปแล้ว นางตัดสินใจแล้วว่ายังไงนางก็จะเป็นผู้หญิงของหลิงตู้ฉิงให้ได้ แม้ว่าจะเป็นได้แค่ภรรยาน้อยก็ตาม
ในเวลาเดียวกัน มี่ไลที่กลับไปยังตระกูลของนาง หลิงฉิงเฟิงเองก็กำลังทำการสืบสวนเรื่องความขัดแย้งระหว่างหลิงตู้ฉิงกับตระกูลเจิ้น
เมื่อหลิงตู้ฉิงไม่ยอมรับเขาเป็นญาติ เขาจึงไม่อาจทราบเรื่องราวจากปากหลิงตู้ฉิงโดยตรงได้ หลิงฉิงเฟิงจึงไม่มีทางเลือกนอกจากทำการสืบสวนเรื่องราวด้วยตัวเอง
จากการสืบทราบมา สถานที่เกิดเหตุสำคัญเมื่อเร็ว ๆ นี้คือหอมรกตแดง
เมื่อหลิงฉิงเฟิงมาถึงหอมรกตแดง กิจการที่หอนางโลมแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นองเลือดสักเท่าไหร่ สถานที่นี้ยังคงคลาคล่ำไปด้วยลูกค้ามากมาย
หลังจากที่หลิงฉิงเฟิงเดินเข้าไปในหอมรกตแดง ด้วยรูปร่างอันหล่อเหลาและการแต่งตัวที่ดูภูมิฐาน บรรดานางคณิกามากมายจึงเข้ามารุมล้อมหวังจะได้รับการเรียกใช้จากชายหนุ่มรูปงามผู้นี้
“เจ้านายของเจ้าอยู่ที่ไหน?” หลิงฉิงเฟิงยิ้มให้เหล่าคณิกา
หลังจากที่ได้ยินคำถามของหลิงฉิงเฟิง นางคณิกาที่อยู่ในกลุ่มจึงเดินกลับเข้าไปด้านใน
เวลาผ่านไปเพียงครู่หนึ่ง ผู้จัดการหอมรกตแดง หงเหม่ย เดินออกมาจากด้านในมาหาหลิงฉิงเฟิงด้วยดวงตาเป็นประกาย “นายท่าน ท่านเรียกข้า มีอะไรให้ข้ารับใช้งั้นหรือ?”
หลิงฉิงเฟิงยิ้ม “ข้ามีบางอย่างที่ต้องการรู้จากเจ้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)