บทที่ 717 ถูกจดจำได้!
หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันและจักรพรรดิตาย 2 คนติด ๆ กัน บรรดาผู้เชี่ยวชาญของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่กำลังพุ่งตัวเข้าไปหาหลิงตู้ฉิงก็หยุดกึกและถอยกลับในทันที
ในตอนแรกที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันถูกสังหารนั้น พวกเขายังคงไม่ค่อยรู้สึกหวาดหวั่นอะไรเท่าไหร่ แต่เมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิยังถูกสังหารลงในพริบตา พวกเขาก็เริ่มหวาดผวาแล้วว่าศพต่อไปอาจจะเป็นพวกเขาคนไหนก็ได้!
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะโกรธแค้นและคิดว่าถ้าหากพวกเขากรูเข้าไปพร้อมกัน พวกเขาจะต้องมีโอกาสชนะสูงแน่นอน แต่มันก็ไม่มีใครในพวกเขาที่อยากจะเสียสละตายก่อนเพื่อชัยชนะและที่สำคัญพวกเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า หลิงตู้ฉิงฆ่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิได้ง่าย ๆ แบบนั้นได้ยังไง?
ทางด้านของหยูจิ้งเฉิงที่ดูเหตุการณ์อยู่แบบตาไม่กระพริบก็นึกย้อนไปถึงอาวุธที่ลั่วหยุนเคยใช้ทำลายเศษเสี้ยวจิตสำนึกของบรรพบุรุษที่มาจากสันเขาทรราชว่า มันดูคล้ายกับอาวุธที่หลิงตู้ฉิงใช้ในตอนนี้ ซึ่งมันไม่มีทั้งกลิ่นอายและพลังที่แผ่ออกมา
มันทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่ามันน่าจะเป็นอาวุธประเภทเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อคิดได้เช่นนี้เขาก็รีบโทรจิตบอกหยูหงเว่ยในทันทีว่าอาวุธชิ้นนี้มันอันตรายแค่ไหน
ในตอนนี้มันไม่มีอะไรที่หยูจิ้งเฉิงจะสามารถทำได้อีกแล้ว ถึงแม้ว่าตัวเขาจะไม่อยากอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหลิงตู้ฉิง แต่ในเมื่อตอนนี้ตระกูลหยูของเขาแสดงท่าทีเป็นศัตรูขนาดนี้ตัวเขาเองก็ทำได้แต่ปล่อยเลยตามเลย และช่วยเหลือตระกูลของเขาเท่าที่เขาจะทำได้ก็เท่านั้น
หลังจากวันนี้ขั้วอำนาจภายในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่นอน
ด้วยเรื่องราวที่บานปลายใหญ่โตขนาดนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่เย่ชางคงจะยังคงรั้งอยู่ในตำแหน่งเจ้าสำนักต่อไปได้ และเมื่อถึงเวลานั้นใครจะมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นเจ้าสำนักนอกจากพ่อของเขาอีก?
หลังจากได้รับคำเตือนจากหยูจิ้งเฉิงลูกชายของตัวเอง หยูหงเว่ยก็คิดเย้ยหยันอยู่ในใจ ‘ที่แท้มันก็เป็นเพราะอาวุธสินะที่ทำให้หลิงตู้ฉิงสามารถฆ่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิได้แบบง่าย ๆ แบบนั้น? ข้าอยากจะเห็นเหมือนกันว่าเจ้าจะใช้อาวุธนั่นไปได้อีกนานเท่าไหร่ หากไม่มีอาวุธแล้วข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าจะหยุดพวกข้าได้ยังไง!’
แน่นอนว่าในใจของเขาอีกด้านหนึ่งก็รู้สึกอิจฉาหลิงตู้ฉิงเหมือนกัน
หากเขามีอาวุธที่ทรงพลังแบบนี้บ้างมันจะดีสักแค่ไหนกัน?
“เย่ชางคง ในฐานะที่เจ้าเป็นเจ้าสำนัก แต่เจ้ากลับมองดูลูกเขยของเจ้าฆ่าคนของสำนักตัวเองแบบนี้ ข้าอยากจะถามเจ้าจริง ๆ ว่าเจ้าไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยรึไง?” หยูหงเว่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
เย่ชางคงหัวเราะ “เมื่อครู่ยังมีใครบางคนบอกว่าข้าไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นเจ้าสำนักอยู่เลย และข้าเองก็ตัดสินใจแล้วเหมือนกันว่าข้าควรจะสละตำแหน่งตอนนี้ให้มันจบ ๆ ไป ดังนั้นไม่ว่าพวกเจ้าจะมีเรื่องอะไรกับลูกเขยของข้า พวกเจ้าก็จัดการเองก็แล้วกัน!”
ในเมื่อเรื่องราวมันดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้ว เย่ชางคงก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
มันก็แค่ตำแหน่งเจ้าสำนักเท่านั้นไม่ใช่เหรอ? และการเป็นเจ้าสำนักที่มีแต่คนกระด้างกระเดื่องแบบนี้มันมีอะไรดีตรงไหนกัน?
ต่อให้เขาจะไม่เป็นเจ้าสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาก็ยังสามารถไปใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายไร้เรื่องปวดหัวที่เมืองของลูกเขยเขาก็ได้ หรือถ้าหากไม่มีทางเลือกจริง ๆ ตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนก็ยังคงเปิดรับเขาเสมอ!
ในเวลาเดียวกันจู่ ๆ หลิงตู้ฉิงก็ปลดปล่อยเจตจำนงแห่งการฆ่าฟันรุนแรงกว่าเดิมนับพันเท่าจนปกคลุมทั่วทั้งสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์
“ไอ้พวกตาเฒ่าที่กำลังปิดด่านอยู่ทุกคนจงโผล่หัวออกมาทั้งหมดเดี๋ยวนี้!” หลิงตู้ฉิงตะโกน
เป้าหมายของหลิงตู้ฉิงตอนนี้คือต้องการหาตัวผู้ที่แอบตรึงร่างของหยูคงหมิงให้ได้ ในเมื่อหยูปิงเป็นคนของตำหนักดับเซียนแบบนี้ ถ้างั้นคนที่คอยช่วยหยูปิงอยู่จะต้องเป็นตัวตนที่มีตำแหน่งสูงกว่าแน่นอน
หลังจากถูกเจตจำนงแห่งการฆ่าฟันของหลิงตู้ฉิงรบกวน บรรดาบรรพบุรุษทุกคนที่ปิดด่านอยู่ในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ต่างก็ตื่นขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันโดยงุนงงว่าตอนนี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
บรรดาตัวตนระดับบรรพบุรุษต่างพากันปรากฏตัวขึ้นเรื่อย ๆ จนเต็มท้องฟ้า
ทางด้านของหยูหงเว่ย เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ก็รู้สึกเบิกบานในใจทันที หากเหล่าบรรพบุรุษทั้งหลายร่วมมือกันมันคงจะเพียงพอที่จะสยบหลิงตู้ฉิงใช่ไหม?
เมื่อบรรดาบรรพบุรุษทั้งหลายตื่นขึ้นและมองลงไปยังสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสำนัก พวกเขาต่างก็รู้สึกงุนงงว่าตอนนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?
ทำไมมันดูเหมือนว่าผู้เชี่ยวชาญระดับนภาครามเพียงคนเดียวกลับสามารถกำราบสำนักของพวกเขาได้แบบอยู่หมัดแบบนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)