เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิงเช่นนี้ เซียงกวนยิ่งรู้สึกประหลาดใจ
ในความคิดของเขา มันจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยสักนิดหากหลิงตู้ฉิงบอกว่าเขาได้สังหารหยูห้าวหลงไปแล้ว
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่เขาไม่ฆ่าหยูห้าวหลงเท่านั้น แต่หลิงตู้ฉิงกลับใช้งานหยูห้าวหลงให้กลายเป็นสายสืบอีกต่างหาก
ปีศาจตนนี้เปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ได้ยังไง!
แต่ในทางกลับกัน มู่หลงหยานกลับไม่ได้ใส่ใจเรื่องของหยูห้าวหลงสักเท่าไหร่ สิ่งที่นางกังวลในตอนนี้ก็คือสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของนางจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนในอนาคต
เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะถามหลิงตู้ฉิงว่า “ตู้ฉิง เจ้าต้องการให้สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเราทำอะไรให้เจ้าในอนาคต?”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบว่า “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ในอนาคตก็แค่ช่วยข้าจัดการกับศัตรูของข้าบางคน แต่ถ้าเป็นในอนาคตอันใกล้นี้ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ลูกของข้ากำลังสร้างประตูเคลื่อนย้ายที่ทะเลชางหมางอยู่ ซึ่งถ้าหากมันสร้างเสร็จเมื่อไหร่ข้าคงจะต้องให้พวกท่านช่วยเชื่อมต่อเส้นทางมิติระหว่างประตูเคลื่อนย้ายของพวกท่านเข้ากับประตูเคลื่อนย้ายของลูกข้าด้วย เพื่อที่เวลาพวกเราเดินทางมาที่นี่มันจะได้สะดวกมากขึ้น”
อันที่จริงพิกัดของประตูเคลื่อนย้ายนั้นสามารถถูกเปลี่ยนได้เสมอ ยกตัวอย่างเช่น หลิงตู้ฉิงที่รู้พิกัดของประตูเคลื่อนย้ายสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ เขาจึงสามารถใช้ประตูเคลื่อนย้ายของที่ไหนก็ได้เดินทางมาที่สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ได้ทุกเวลา แต่ถ้าหากจู่ ๆ วันใดวันหนึ่งสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ตั้งค่าพิกัดประตูเคลื่อนย้ายของพวกเขาใหม่ หลิงตู้ฉิงจะไม่สามารถเดินทางผ่านประตูเคลื่อนย้ายมาได้ทันที
แต่ถ้าหากทำการเชื่อมต่อเส้นทางมิติระหว่างประตูเคลื่อนย้ายด้วยกันแล้ว หากฝั่งไหนจะเปลี่ยนพิกัดของประตู ฝั่งที่เปลี่ยนจะต้องแจ้งพิกัดใหม่ให้กับฝั่งตรงข้ามรับรู้อยู่เสมอ เพื่อให้ฝั่งตรงข้ามช่วยยกเลิกการเชื่อมต่อเส้นทางมิติเดิม ไม่อย่างนั้นฝั่งที่จะเปลี่ยนพิกัดจะต้องเสียทรัพยากรจำนวนมากในการฝืนยกเลิกการเชื่อมต่อเดิมด้วยตัวเอง
มู่หลงหยานยิ้มและพูดว่า “อืม คำขอของเจ้าไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย ในอนาคตเมื่อพวกเราเชื่อมประตูเคลื่อนย้ายเข้าหากันแล้ว พวกเราจะได้ช่วยเหลือกันและกันได้ง่ายมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะชิงเฉิงจะได้กลับมาเยี่ยมข้าได้บ่อยกว่าเดิม”
เซียงกวนที่อยู่ด้านข้างกลอกตาทันทีพลางคิดในใจ ทำไมเจ้าถึงตัดสินใจช่วยลูกเขยของเจ้าด้วยความยินดีขนาดนั้น? นี่เจ้ารู้รึเปล่าว่าศัตรูของลูกเขยเจ้าผู้นี้แต่ละคนน่ากลัวแค่ไหน?
ถึงแม้เขาจะคิดแบบนี้ แต่เขาก็ไม่กล้าพูดมันในขณะที่อยู่ต่อหน้าหลิงตู้ฉิงแน่นอน
หลังจากตกลงเรื่องราวกันไปได้สักพัก มู่หลงหยานและเซียงกวนก็ออกมาจากเรือนของเย่ชิงเฉิง
หลังจากออกมาแล้ว มู่หลงหยานถามเซียงกวนด้วยสีหน้าสงสัย “ท่านบรรพบุรุษ ข้าสังเกตเห็นว่าท่านพยายามจะส่งสัญญาณบอกใบ้อะไรข้าบางอย่างอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ข้างในนั้น ท่านมีอะไรรึเปล่า?”
เซียงกวนยิ้มอย่างขมขื่น “หยานเอ๋อ เจ้ารู้รึเปล่าว่าลูกเขยเจ้าเป็นใคร?”
มู่หลงหยานส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ข้าคิดว่าบรรพบุรุษน่าจะรู้ใช่ไหมว่าเขาเป็นใคร”
“เขาเป็นคนเดียวที่ไม่มีใครกล้าจะเอ่ยชื่อถึงในช่วงหลายหมื่นปีที่ผ่านมา” เซียงกวนหัวเราะอย่างขมขื่น “ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าข้าไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าการที่เขากลายมาเป็นลูกเขยของเจ้ามันเป็นเรื่องดีหรือว่าเป็นเรื่องแย่กันแน่”
เมื่อพูดจบ เซียงกวนก็ส่ายหัวและจากไปปล่อยให้มู่หลงหยานตกอยู่ในอาการตกตะลึงแค่คนเดียว
ที่แท้ก็เป็นเขาเองงั้นเหรอ?
นางเองก็เคยได้ยินเรื่องของคนผู้นี้มาตั้งแต่เด็ก แต่นางไม่คิดเลยว่าปีศาจที่ใคร ๆ ก็ไม่กล้าเอ่ยชื่อจะกลายมาเป็นลูกเขยของนางซะอย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)