พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 722

สรุปบท บทที่ 722 เดินทางต่ออีกครั้ง: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

อ่านสรุป บทที่ 722 เดินทางต่ออีกครั้ง จาก พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดย Internet

บทที่ บทที่ 722 เดินทางต่ออีกครั้ง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ วัน

เมื่อไม่มีการถ่วงอำนาจกันของทั้ง 3 ตระกูล คำสั่งต่าง ๆ ที่เย่ชางคงสั่งลงไปเพื่อให้ทุกคนช่วยกันพัฒนาสำนักให้ดีขึ้นก็ผ่านฉลุยโดยไม่มีใครคัดค้าน

และเมื่อเป็นเช่นนี้ เย่ชางคงและคนอื่น ๆ ที่ได้รับสมบัติจำนวนมหาศาลมาจากเย่เจียงไห่ก็เริ่มแจกจ่ายสมบัติของตัวเองไปให้กับคนอื่น ๆ ในสำนัก

ในอดีตเย่ชางคงไม่มีความคิดที่จะแบ่งสมบัติเหล่านี้ที่เขาเองก็คงใช้มันไม่หมดให้กับคนตระกูลอื่นในสำนักเลย ถึงแม้ว่าเขาจะอยากให้สำนักพัฒนาไปมากกว่านี้ก็ตาม

เนื่องจากเขารู้ว่าต่อให้เขาแบ่งสมบัติเหล่านี้ให้คนตระกูลอื่นในสำนักไป คนเหล่านั้นก็คงไม่สำนึกในบุญคุณของเขาแถมยิ่งเมื่อแข็งแกร่งขึ้น คนเหล่านั้นก็จะหันมาแว้งกัดเขาเองอีกต่างหาก

แต่ตอนนี้สถานการณ์มันได้เปลี่ยนไปแล้ว ด้วยสัญญากฎสวรรค์ตระกูลหยูจะต้องเชื่อฟังเขาอย่างไม่มีข้อแม้ ส่วนตระกูลหานก็ไม่มีอำนาจพอจะต่อรองอะไรกับเขา ดังนั้นเขาจึงวางใจได้มากพอว่าสมบัติต่าง ๆ ที่เขามอบให้กับคนเหล่านั้นไปมันจะไม่ถูกใช้เพื่อมาทำร้ายเขาทีหลัง

แต่ว่าในระหว่างที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปเรื่อย ๆ ในเส้นทางที่เหมาะสม จู่ ๆ คนของตำหนักดับเซียนก็ปรากฏกายขึ้นที่หน้าสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์

เหตุผลที่มือสังหารของตำหนักดับเซียนมาเยือนสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์นั้นก็ไม่มีอะไรมาก เขามายื่นข้อเรียกร้องให้กับเย่ชางคงให้มอบตัวหลิงตู้ฉิงให้กับเขา

ท้ายที่สุดข่าวการตายของหยูปิงและกู่ตงฉิงก็หลุดออกไปจนได้

ซึ่งข่าวที่รั่วไหลออกไปนี้ เย่ชางคงไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะหยูห้าวหลงเอาไปบอกกับตำหนักดับเซียนเอง หรือว่าเป็นเพราะในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเขายังคงมีคนของตำหนักดับเซียนอยู่กันแน่

แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เย่ชางคงก็ปฏิเสธและไล่มือสังหารของตำหนักดับเซียนให้กลับไปในทันที ซึ่งมือสังหารที่ถูกไล่ไปนั้นก็ได้แต่พูดข่มขู่ทิ้งท้ายเอาไว้ และจากไปอย่างไม่เต็มใจ

จากนั้นเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปอีกพักใหญ่จนเข้าถึงปีที่ 47 ที่หลิงตู้ฉิงมาอยู่ในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์

“ท่านพ่อ นี่มันก็ใกล้จะครบกำหนดที่น้องห้าสัญญาไว้กับท่านแล้ว ข้าอยากรู้ว่านางจะมาที่นี่ได้สำเร็จทันเวลารึเปล่าจริง ๆ” หลิงเทียนหยุนพูดกับหลิงตู้ฉิง

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ก็ถ้านางมาทันก็โชคดีไป แต่ถ้าหากนางมาไม่ทัน อันนี้นางจะโทษที่พ่อไม่รอก็คงจะไม่ได้ หากครบเวลา 50 ปีเมื่อไหร่ แล้วฟ่างหัวยังไม่มา พวกเราจะออกเดินทางไปจากที่นี่ทันที”

“ว่าแต่ท่านพ่อ สถานที่ต่อไปที่พวกเราจะเดินทางไปกันมันคือที่ไหน?” หลิงเทียนหยุนถามขึ้น

“สถานที่ต่อไปที่เราจะไปก็คือสำนักเทพปีศาจเก้าอเวจี!” หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปที่โม่หยูถัง และพูดขึ้นต่อ “เนื่องจากพ่อบ้านโม่ ชักชวนพ่อมาหลายรอบแล้ว ดังนั้นพ่อจึงตัดสินใจลองเดินทางไปดูสักหน่อย และจากนั้นพวกเราจะเดินทางต่อไปที่เขตแดนอุดรทมิฬ”

โม่หยูถังพูดขึ้นเสริมทันที “นายท่าน หากสำนักของข้าได้พบกับนายน้อยเทียนหยุนเมื่อไหร่ ข้ารับประกันว่านายน้อยจะต้องได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีแน่นอน”

“มันอาจจะไม่สวยหรูแบบที่เจ้าคิดก็ได้!” หลิงตู้ฉิงยิ้ม “เหตุผลที่เจ้าเห็นความพิเศษในตัวเทียนหยุนเพราะว่าเจ้าใช้เวลาอยู่กับเขามานานเจ้าถึงได้เห็น แต่คนสำนักของเจ้านั้นไม่ใช่ พวกเขาอาจจะไม่เห็นความพิเศษในตัวของเทียนหยุนเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่ว่าจะยังไงไม่ว่าสำนักของเจ้าจะต้อนรับเทียนหยุนหรือไม่ เทียนหยุนจะต้องเดินทางไปที่เขตแดนอุดรทมิฬกับข้าด้วยเช่นกัน เพราะมีแต่ที่นั่นเท่านั้นที่สามารถแก้ปัญหาร่างกายของเขาได้”

โม่หยูถังยิ้มอย่างขมขื่น “เอ่อ…นายท่าน ถ้าหากพวกเราไปถึงสำนักเทพปีศาจเก้าอเวจีแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันกลับไม่เป็นไปตามที่คิด ข้าขอวิงวอนท่านโปรดเมตตาคนของสำนักข้าบ้าง”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ฆ่าคนมั่วซั่วหรอกนะ”

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังคุยกัน จู่ ๆ ประตูเคลื่อนย้ายของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกบังคับให้เปิดออกโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกครั้ง

ซ่งเฉียน ผู้ที่รับหน้าคอยดูแลประตูเคลื่อนย้ายก็แสดงสีหน้าเหนื่อยใจ และตะโกนขึ้นว่า “ทุกคนจงเตรียมพร้อม มีใครบางคนพยายามทะลวงผ่านประตูเคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกแล้ว!”

ซ่งเฉียนรู้สึกจนใจจริง ๆ เนื่องจากตั้งแต่ที่เขาได้พบกับหลิงตู้ฉิง ประตูเคลื่อนย้ายของสำนักเขาก็ถูกเปิดออกโดยไม่ได้รับอนุญาตบ่อยมาก

แต่ทุกครั้งมันก็เป็นหลิงตู้ฉิงที่ทำ แต่รอบนี้เป็นใครกันที่พยายามจะผ่านออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก?

“อันที่จริงไอ้เจ้าหมานั่นมันไม่ใช่หมา แต่มันคืออาวุธของพ่อ!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “ในอนาคตเจ้าไม่จำเป็นต้องสุภาพอะไรกับมันมากนัก แต่แน่นอนว่าเจ้าก็ไม่ควรไปยั่วยุมันเช่นกัน มันได้รับการสืบทอดบุคลิกของพ่อในอดีตมาเต็ม ๆ ดังนั้นอารมณ์ของมันจึงยังคงดุร้ายอยู่”

หลิงฟ่างหัวรู้สึกแปลกใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ “แต่ว่าท่านพ่อ นอกจากที่มันขี้เกียจข้าคิดว่านิสัยของมันค่อนข้างดีเลยนะ ลูกชายของพี่ใหญ่เอาแต่พัวพันเล่นกับมันทั้งวัน ข้าก็ไม่เห็นว่ามันจะโกรธอะไรเลย แถมมันยังสอนอะไรให้ข้ารู้ตั้งหลายอย่างด้วยล่ะ!”

หลิงตู้ฉิงรู้สึกตกตะลึงทันทีเมื่อได้ยินแบบนี้ นี่ไอ้เจ้านั่นมันกลายเป็นหมาไปจริง ๆ แล้วงั้นเหรอ?

แต่เมื่อเขาคิดว่าการที่มันเป็นแบบนี้ก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดอะไรต่อ

“เอาล่ะ เจ้าจงให้หยูเจิ้นไห่พาเจ้าไปเชื่อมต่อประตูเคลื่อนย้ายของที่นี่เข้ากับประตูเคลื่อนย้ายของที่คฤหาสน์เรา และจากนั้นเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพวกเราจะได้ไปจากที่นี่กัน” หลิงตู้ฉิงสั่งขึ้น

“ได้เลยท่านพ่อ” หลิงฟ่างหัวตอบกลับ

หลังจากนั้นหลิงฟ่างหัวก็ให้หยูเจิ้นไห่พานางไปที่ประตูเคลื่อนย้าย ส่วนหลิงตู้ฉิงก็พยายามหาเส้นทางที่สะดวกที่สุดเพื่อจะไปสำนักเทพปีศาจเก้าอเวจี

เนื่องจากสำนักเทพปีศาจเก้าอเวจีและสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย และโม่หยูถังเองก็ไม่รู้ว่าพิกัดประตูเคลื่อนย้ายของสำนักเขามันคืออะไร ดังนั้นมันจึงไม่แปลกอะไรที่หลิงตู้ฉิงจะไม่สามารถใช้ประตูเคลื่อนย้ายของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์เดินทางไปที่นั่นได้

เขาจึงเหลือแค่ทางเลือกเดียวคือต้องหาสำนักที่อยู่ใกล้กับสำนักเทพปีศาจเก้าอเวจีมากที่สุด และสำนักนั้นก็ต้องเดินทางไปด้วยประตูเคลื่อนย้ายของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ได้เพื่อที่เขาจะได้ประหยัดเวลาในการเดินทางไปต่อ

หลังจากการสอบถามทั้งโม่หยูถังและคนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ ในที่สุดเขาก็ได้ชื่อของสำนักที่เขาจะใช้ประตูเคลื่อนย้ายของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์มุ่งหน้าไป ซึ่งก็คือ สำนักดาบสวรรค์

หลังจากนั้นเมื่อหลิงตู้ฉิงเห็นว่าหลิงฟ่างหัวได้จัดการเรื่องเชื่อมต่อเส้นทางมิติของประตูเคลื่อนย้ายเรียบร้อยแล้ว เขาก็ร่ำลาเย่ชางคงและคนอื่น ๆ และใช้ประตูเคลื่อนย้ายเดินทางไปที่สำนักดาบสวรรค์ทันที

เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงจากไปเรียบร้อย บรรดาผู้คนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของหลิงตู้ฉิงเป็นใครต่างก็พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ปีศาจตนนี้จากไปได้สักที!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)