เมื่อผู้คนของสำนักเงามายาได้ยินที่หลิงตู้ฉิงพูดแบบนี้ พวกเขาก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันทั้งสองที่รับหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์เต๋าให้กับอุลบา
แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกไม่พอใจ พวกเขาก็ยังไม่บุ่มบ่ามทำอะไรกับหลิงตู้ฉิง เนื่องจากพวกเขาต้องการรอการตัดสินใจของอุลบาก่อนว่าจะเอายังไง
อุลบามองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาไม่แน่ใจอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็เอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าสามารถช่วยให้ข้าเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้แน่ใช่ไหม? ว่าแต่เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรเพื่อเป็นการตอบแทน?”
“ข้าต้องการให้เจ้าเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อส่งข้อความของข้าให้กับใครบางคนที่อยู่ข้างในนั้น ไม่งั้นข้าจะช่วยให้เจ้าเข้าไปข้างในนั้นทำไมจริงไหม?” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “ภารกิจของเจ้าก็มีเพียงแค่นี้ แค่ส่งข้อความจากนั้นก็จบ!”
อันที่จริงหลิงตู้ฉิงยังบอกไม่หมดว่าการที่อุลบาจะพบบุคคลที่เขาต้องการส่งข้อความไปถึงมันไม่ง่ายสักเท่าไหร่นัก อุลบาจะต้องทำตามวิธีการบางอย่างของเขาเพื่อให้บุคคลผู้นั้นปรากฏตัวขึ้นมาด้วย
อุลบาชั่งใจส่วนได้ส่วนเสียอยู่สักพัก จนเขารู้สึกว่าภารกิจนี้มันน่าจะไม่มีปัญหาอะไร จากนั้นเขาจึงหันไปหาผู้อาวุโสของสำนักเขาอีกทีเพื่อดูท่าทีผู้อาวุโสของเขา ซึ่งผู้อาวุโสทั้งสองของเขาต่างก็มองหน้ากันและหันมาพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย
ปัญหาของอุลบานั้นทำให้พวกเขาปวดหัวมาเป็นเวลานาน พวกเขาต่างคิดว่าอุลบาไม่ต่างอะไรกับเพชรที่ยังไม่ได้รับการเจียระไน ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่มีเครื่องมือ และต้องหวังพึ่งแต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหานี้ให้
แต่แล้วในตอนนี้กลับมีคนที่มาบอกกับพวกเขาว่าสามารถแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ ดังนั้นทำไมพวกเขาถึงจะไม่ลองคว้าโอกาสนี้ดูสักครั้ง?
พวกเขาต่างคิดว่าต่อให้หลิงตู้ฉิงจะแก้ปัญหาไม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าทำให้อุลบาแข็งแกร่งขึ้นบ้างแม้เพียงเล็กน้อยมันก็คุ้มที่จะลอง
หลังจากได้รับการอนุญาตจากผู้อาวุโส อุลบาก็พูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “เอาล่ะ งั้นบอกข้ามาได้แล้วว่าเจ้าจะช่วยข้ายังไง ถ้าข้าสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้จริง ๆ ข้าสัญญาว่าข้าจะนำข้อความของเจ้าส่งไปถึงคนที่เจ้าต้องติดต่อในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แน่นอน!”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ดีมาก! ส่วนเรื่องวิธีการที่ข้าจะช่วยเจ้านั้นอันดับแรกเอาเลือดของเจ้ามาให้ข้าสักขวดเพื่อศึกษาดูก่อน ข้าจำเป็นต้องใช้มันในการหาวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับเจ้าที่สุด!”
อันที่จริงหยดเลือดเพียงหยดเดียวก็เพียงพอแล้วที่หลิงตู้ฉิงจะใช้ในการศึกษา แต่ด้วยเหตุผลที่เขาอยากจะได้เลือดนี้ไปให้กับหลิงยู่ชาน เขาจึงขอมาขวดหนึ่งซะเลย
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็โยนขวดหยกไปให้กับอุลบา
ทางด้านของอุลบาที่รับขวดมาแล้วก็ไม่รอช้า เอาเลือดสีดำทมิฬของเขาเองใส่ในขวดที่หลิงตู้ฉิงโยนมาให้จนเต็มขวด และจากนั้นเขาก็ส่งขวดคืนกลับไป
เมื่อได้รับเลือดของอุลบามา หลิงตู้ฉิงก็ตรวจสอบสายเลือดของอุลบาทันที ซึ่งสิ่งที่เขาพบก็คืออันที่จริงแล้ว อุลบามี 3 สายเลือดต่างหากที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย!
หลิงตู้ฉิงมองไปที่อุลบาด้วยสายตาประหลาดใจและพูดว่า “นอกจากที่เจ้าจะมีสายเลือดของมนุษย์หินและปีศาจยักษ์แล้ว เจ้ายังมีสายเลือดของเผ่าวิญญาณอเวจีอีกด้วย และเนื่องจากพลังทั้งสามสายเลือดของเจ้าขัดแย้งกันอยู่ มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าถึงไม่สามารถบ่มเพาะได้”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันทั้งสองต่างมองมาที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าตกตะลึง เนื่องจากพวกเขาแน่ใจว่าคำพูดของหลิงตู้ฉิงไม่ได้โกหกเลยแม้แต่น้อย พวกเขาไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าอุลบาจะมีสามสายเลือดไหลเวียนอยู่ในร่าง
“จุดเด่นของผู้ที่มีสายเลือดวิญญาณอเวจีก็คือเมื่อพวกเขาบ่มเพาะไปจนถึงระดับสูงสุด พวกเขาจะสามารถทำให้ร่างกายของพวกเขาล่องหนได้เหมือนวิญญาณ แต่สำหรับสายเลือดมนุษย์หินและปีศาจยักษ์ของเจ้านั้นมันกลับเป็นการเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายเป็นหลัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)